"บิ๊กทิน"ยันหลักสูตร มินิ วปอ.ไม่ได้ถูกเปิดมาเพื่อ"อุ๊งอิ๊งค์"

9 มกราคม 2567 "นายสุทิน คลังแสง" รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า หลักสูตรผู้บริหารยุคใหม่ในอนาคต วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หรือ วปอ.บอ. หรือ "มินิ วปอ." นั้น เป็นหลักสูตรใหม่ที่เปิดขึ้นมา โดยกองทัพไทยเห็นด้วย เพราะเป็นหลักสูตรที่คนสนใจมาก และคิดว่าน่าจะขยายมาสู่กลุ่มวัยกลางคน จะมีประโยชน์ที่สุด เลยเปิดรอบแรก โดยใช้โครงสร้างเหมือน วปอ.ใหญ่ กระจายโควตาไปตามหน่วยงาน ตามองค์กร ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนคัดเลือก

ส่วนที่มีชื่อ "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เข้าเรียนหลักสูตรดังกล่าวนั้นเพราะมาตามโควตาของการเมือง มีการสอบสัมภาษณ์เหมือนกัน 

อย่างไรก็ตาม หลักสูตรดังกล่าวนั้น เป็นหลักสูตรที่ดี เอาคนเก่งแต่ละด้าน คนมีความคิดแตกต่างกัน แล้วมาปรับจูนให้เป็นในทิศทางใกล้เคียงกัน ก็จะทำให้เกิดพลังของประเทศ แต่ถ้าเก่งและคิดคนละอย่างจะยิ่งขัดแย้ง แทนที่จะเป็นพลัง กลายเป็นลดทอนพลัง ดังนั้น ถือเป็นการเสริมคอนเนคชั่นคนรุ่นใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ และยืนยันว่าไม่ได้เปิดเพื่อ น.ส.แพทองธาร เข้ามาเรียน เพราะคิดกันมาก่อน

ด้าน แหล่งข่าวจาก วปอ. ยืนยันว่า หลักสูตรนี้ไม่ได้เปิดขึ้นมาเพื่อรองรับ น.ส.แพทองธาร ตามที่มีการตั้งข้อสังเกต เพราะการจัดทำหลักสูตร เพื่อเปิดรับบุคคลเข้ารับการศึกษา ต้องเป็นไปตามหลักวิชาการ และผ่านการพิจารณาจากสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (สปท.) ก่อนเข้าสู่ความเห็นชอบจากสภา วปอ. ที่มี รมว.กลาโหมเป็นประธาน

ทั้งนี้ ทุกอย่างทำตามระเบียบ และผ่านการพิจารณามาร่วม 3 ปี ตั้งแต่ยุคที่ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) แต่ยังไม่ได้ข้อยุติในเรื่องของหลักสูตร และข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ แต่มาเดินหน้าต่อในยุคที่ "พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี" ผบ.ทสส. คนปัจจุบัน

แหล่งข่าว กล่าวต่อว่า โดยขณะนั้นมีหลักคิดว่า ผู้นำองค์กรรุ่นใหม่เป็นคนอีกเจเนอเรชั่น อาจขาดข้อมูล ความเข้าใจในองค์ความรู้ด้านความมั่นคง จึงคิดว่าควรจะมีหลักสูตรที่ลดช่องว่างตรงนี้ โดยดึงเอาคนรุ่นกลาง ถึงรุ่นใหม่ จะก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารองค์กร หรือ Future CEO เข้ามาเรียน แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ร่วมกัน ภายใต้สถานการณ์ด้านความมั่นคง การเมือง เศรษฐกิจของโลกที่กำลังปรับเปลี่ยน

สำหรับการเปิดรับสมัครจะแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มงาน คือ

• กลุ่มการทหาร
• กลุ่มตำรวจ
• กลุ่มข้าราชการพลเรือน
• กลุ่มนักธุรกิจ
• กลุ่มการเมือง

จะให้ผู้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติทั้งหมด 492 คน เข้ามาสอบสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกให้เหลือ 200 คน จากนั้นจะประกาศรายชื่อ และเปิดภาคการศึกษาในเดือน เม.ย. โดยมีระยะเวลาเรียนทั้งหมด 6 เดือน

โดยในส่วนข้าราชการจะมีการอุดหนุนงบประมาณให้ ส่วนภาคเอกชนจะต้องจ่ายเงินในการเข้ารับการศึกษาเอง ซึ่ง วปอ.บอ.67 จะถือเป็นรุ่นที่ 1 ชุดที่ 1 ผู้เข้ารับการศึกษาต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ ได้แก่ อายุตั้งแต่ 35-42 ปี

ภาคราชการ มีทั้งข้าราชประจำและข้าราชการการเมือง ส่วนข้าราชการทหาร-ตำรวจ ต้องมีชั้นยศ พ.อ.-พ.อ.พิเศษ หรือเทียบเท่า ตำรวจ ตั้งแต่ชั้นยศ พ.ต.อ.-พ.ต.อ.พิเศษ หรือเทียบเท่า และต้องจบหลักสูตรเสนาธิการทหารของโรงเรียนเสนาธิการทหารเหล่าทัพ เป็นต้น

ภาคเอกชน ต้องเป็นนักธุรกิจ เป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ของหน่วยงาน ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองกรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หรือผู้จัดการโรงงาน หรือผู้จัดการภูมิภาคหรือเทียบเท่า 

บุคคลทั่วไป คือ บุคคลที่มีอิทธิพลต่อความคิดและการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายมีชื่อเสียงในด้านความรู้ความเชี่ยวชาญ เฉพาะด้าน และเผยแพร่เรื่องราวต่างๆ บนโซเชียลมีเดีย มีผู้ติดตามและเป็นที่รู้จักจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มเจเนอเรชั่น y z Alpha สร้างสรรค์คอนเทนต์ ที่ดีต่อสังคม อาทิ นักแสดงในวงการบันเทิง นักเขียนในวงการหนังสือ นักจัดรายการ โปรแกรมเมอร์ ในวงการไอที ที่ปรึกษาในวิชาชีพต่างๆ เช่น ที่ปรึกษากฎหมายแรงงาน โดยมีประสบการณ์หรือทำงานเกี่ยวข้องกับความมั่นคงระดับชาติอย่างน้อย 3 ปี เป็นต้น

โดยการสมัครเข้าอบรมหลักสูตร วปอ.บอ.รุ่นที่ 1 ชุดที่ 1 มีผู้สมัครจำนวนมาก แต่สอบสัมภาษณ์มาได้ 492 คน 
มีทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน นักการเมือง และนักธุรกิจ อาทิ

• นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์
• นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกรัฐบาล
• นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ หรือ เอิง ทีมงานนายกฯ และเพื่อนสนิทอุ๊งอิ๊ง

นอกจากนี้ ยังมีทายาทคนดังและนักการเมืองหลายคน เช่น

• นายพชร นริพทะพันธ์
• น.ส.ศิรินันท์ ศิริพาณิชย์
• นายภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์
• นายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล
• น.ส.ศศิยาพัทธ์ เลาหะพงษ์ชนะ
• น.ส.พิมพ์ศิริ จีนะวิจารณะ
• นายพสุ ลิปตพัลลภ
• น.ส.ณัฐธิดา เทพสุทิน
• นายสงกรานต์ เตชะณรงค์
• นายรสิศ สอดส่อง
• นายพัฒนา พร้อมพัฒน์
• นายปิยะชาติ อิศรภักดี