26 พฤศจิกายน 2566 จากข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส ส่งผลให้ตัวประกันที่ถูกจับไป ได้รับการปล่อยตัว โดยหนึ่งในนั้นมีแรงงานไทยรวมอยู่ด้วย ท่ามความความพยายามจากหลายประเทศเข้ามาเป็นตัวกลางครั้งนี้
โดยล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ว่า มีคนไทยชุดที่ 3 ได้รับการปล่อยตัวอีก 3 ราย ได้แก่
ขณะนี้ ทั้ง 3 รายอยู่ที่โรงพยาบาลที่ฝ่ายอิสราเอลจัดไว้เพื่อตรวจสุขภาพ โดยเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ไปช่วยเหลืออำนวยความสะดวก และประสานการติดต่อกับครอบครัวที่โรงพยาบาลแล้ว
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับครอบครัวคนไทยทั้ง 3 รายที่ได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ (26พ.ย.) และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนผลักดันการเจรจา โดยคาดว่ายังมีคนไทยที่ถูกควบคุมตัวอีกจำนวน 15 ราย
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยจะพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือคนไทยที่เหลือ ให้ได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด และจะนำคนไทยทั้ง 17 ราย ที่ได้รับการปล่อยตัว และผ่านกระบวนการเยียวยาเบื้องต้นในอิสราเอลแล้ว กลับสู่ประเทศไทยโดยเร็วต่อไป
"นายกฯ"ยินดีคนไทยได้รับอิสรภาพเพิ่ม
ขณะที่ "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่าน X ภายหลังรับทราบข่าวการปล่อยตัวคนไทยเพิ่มขึ้น โดยระบุว่า
ดีใจด้วยครับ
เมื่อวันที่ 26 พ.ย.66 เวลา 20:36 (เวลาท้องถิ่น) ตัวประกันไทย ได้เดินทางโดยรถยนต์ถึงด่าน Kerem Shalom check-point ซึ่งจากการตรวจสอบมีรายชื่อตัวประกันไทยที่ได้รับการปล่อยตัว 3 คน
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจร่างกายในเบื้องต้น ทุกคนสุขภาพดี ไม่มีใครต้องการการรักษาพยาบาลเร่งด่วน ทุกคนพูดคุยและเดินได้ปกติ นายวิเชียรมีอาการเจ็บช่องท้องเวลาที่หายใจลึกๆ เนื่องจากต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศหายใจลำบาก และทุกคนดีใจที่ได้รับการปล่อยตัว โดยรวมสุขภาพจิตใจยังดี พูดคุยได้ปกติ
"ปานปรีย์-ผบ.ทสส."เตรียมบินรับแรงงานคืนวันนี้
ด้าน "นายจักรพงษ์ แสงมณี" รมช.ต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้รับรายงานว่ามีการปล่อยตัวประกันเพิ่มอีก 3 คน ซึ่งขณะนี้กำลังรักษาตัวที่โรงบาลในอิสราเอล โดยคืนวันนี้ (27พ.ย.) "นายปานปรีย์ พหิทธานุกร" รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ และ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเดินทางไปรับ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังประสานงานกับทางการอิสราเอลอยู่ และคาดว่า 2-3 วันนี้ จะเดินทางกลับมามายังประเทศไทย ซึ่งมีการเตรียมเครื่องบินพาณิชย์ไปรับแล้ว ยืนยันว่าไม่มีปัญหาเรื่องในเรื่องสิทธิประโยชน์ โดยทางกระทรวงแรงงานจะเป็นผู้ประสาน
ส่วนมีการปล่อยตัวประกันที่เหลือเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ช่วงนี้เป็นสัญญาณที่ดี ซึ่งทางกลุ่มฮามาสจะพยามปล่อยตัว โดยขอให้ประชาชนรอและมีความหวังว่า คนไทยจะได้เดินทางกลับมาอย่างปลอดภัยทุกคน คาดว่าขณะนี้ยังมีคนไทยที่ยังถูกควบคุมตัวอีก 15 คน แต่ทางกลุ่มฮามาสก็จะพยามปล่อยตัวประกันออกมาเรื่อยๆ
17 แรงงานไทยกลับสู่มาตุภูมิ 30 พ.ย.นี้
"นายปานปรีย์ พหิทธานุกร" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้เดินทางไปประเทศอิสราเอล เพื่อเยี่ยมและรับคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน และได้รับการปล่อยตัว 3 ชุดแรก รวม 17 คน กลับประเทศไทย โดยจะเดินทางถึงไทยในวันที่ 30 พ.ย. 2566 ในเวลา 12.05 น.
ทั้งนี้ นายปานปรีย์ ยังจะไปเยี่ยม 3 คนไทย ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ และยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลของอิสราเอล รวมถึงจะได้พบหารือกับผู้แทนคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ รวมถึงผู้แทนชุมชนไทย และแรงงานไทยในอิสราเอล รวมถึงเยี่ยมสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเทลอาวีฟ และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ดูแลให้ความช่วยเหลือคนไทยในช่วงที่ผ่านมา
กต.ขอบคุณ 5 ชาติช่วยตัวประกันจนได้รับอิสรภาพ
ขณะเดียวกัน นายปานปรีย์ ยังได้เชิญเอกอัครราชทูตกาตาร์ อิหร่าน ตุรกี อุปทูตอียิปต์ และผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เข้าพบเพื่อแสดงความขอบคุณจากรัฐบาลไทยต่อมิตรประเทศต่าง ๆ ที่ให้ความช่วยเหลือในการประสานงานการปล่อยตัวคนไทยที่ถูกจับกุมตัวอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่องมาโดยตลอด
โอกาสนี้ นายปานปรีย์ ยังย้ำว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการประสานงาน เพื่อเร่งนำคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวกลับประเทศอย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด และขอรับความช่วยเหลือจากมิตรประเทศในการปล่อยตัวคนไทยที่เหลืออยู่ต่อไป
นอกจากนั้น นายปานปรีย์ ยังได้เชิญเอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทยเข้าพบ เพื่อหารือ และแจ้งถึงการเดินทางไปรับคนไทย ที่ได้รับการปล่อยตัวจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลในคืนนี้ พร้อมขอบคุณเอกอัครราชทูตอิสราเอล และสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย ที่ช่วยอำนวยความสะดวก และประสานงานการเดินทางในครั้งนี้