"สุวัจน์" ผนึก 3 ประสาน "รัฐฯ-ท้องถิ่น-ชุมชน" พัฒนาโคราชให้ยั่งยืน

23 พฤศจิกายน 2566 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรบโครงการพัฒนาองค์กรชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2567 หลักสูตร ”องค์กรชุมชนกับการพัฒนาท้องถิ่น” วานนี้( 22 พ.ย.) ที่โรงแรมสีมาธานี จ.นครราชสีมา โดยมี นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครราชสีมา, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารสมาชิกสภาเทศบาล และพี่น้องประชาชนชาวโคราชทั้ง 98 ชุมชน

นายสุวัจน์ กล่าวว่า การอบรมในครั้งนี้ เป็นการเตรียมการจัดทำแผนพัฒนาชุมชน ให้สอดคล้องกับแผนงานต่าง ๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเขตเทศบาลนคร นครราชสีมา ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตแล้ว ยังตอบโจทย์นักลงทุนและนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในเมืองโคราชของเราด้วย โดยต้องผนึกกำลัง 3 ประสาน คือ รัฐบาล ท้องถิ่น ชุมชน จะก่อให้เกิดการพัฒนาประสบความสำเร็จ ให้เกิดความยั่งยืน

อีกทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศยังไม่ดีนัก และยังมีภาวะสงครามยูเครน และ อิสราเอล ยิ่งทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนัก สิ่งหนึ่งที่เป็นความหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจคือ การท่องเที่ยว ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน จัดให้มีกิจกรรมซอฟต์พาวเวอร์ หาของสวยงามของแต่ละท้องถิ่น ชุมชน มาเป็นจุดขายเพื่อช่วยประคองเศรษฐกิจให้เดินต่อไปได้ และสิ่งที่น่าภาคภูมิใจของชาวโคราช คือ หลานย่าโมของเรา “แอนโทเนีย โพซิ้ว” ก็คว้าตำแหน่งรองอันดับหนึ่ง มิสยูนิเวิร์ส สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก และช่วยประชาสัมพันธ์โคราช ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว

นายสุวัจน์ กล่าวต่อ บทบาทการพัฒนาเทศบาลนครนครราชสีมา เป็นหน้าที่โดยตรง ท่านนายกฯและคณะผู้บริหารเทศบาลนครฯ  ที่จะดูแลภาพใหญ่ของเทศบาล ส่วนภาพย่อย ก็เป็นหน้าที่ของผู้บริหารชุมชน ทั้ง 98 แห่ง ที่รู้จักพื้นที่ รู้ปัญหาดี ต้องช่วยกันแก้ปัญหา และพัฒนาเมืองเพื่อรองรับเมืองที่จะเติบโตขึ้น เมื่อรถไฟความเร็วสูง และมอเตอร์เวย์เสร็จแล้ว โคราชจะพลิกโฉมไปทันที

ขณะนี้มอเตอร์เวย์ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 90% ซึ่งเราต้องเตรียมพร้อมในเรื่องระบบขนส่งมวลชน เพื่อแก้ปัญหาจราจร เชื่อมโยงรถไฟฟ้าสาธารณะ 3 สาย กับเส้นทางไปสู่ 98 ชุมชน  แบบไร้รอยต่อ รวมถึงการนำร่องเทศบาลนครฯ เป็นสมาร์ทซิตี้ การจัดการขยะ แก้ปัญหาระบบน้ำประปา ทั้งในเขตและนอกเขตเทศบาลนครฯ ก็ต้องมีการขยายกำลังการผลิต เดินท่อน้ำดิบใหม่ รวมถึงปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครฯ ระบบการระบายน้ำต่าง ๆ ต้องเร่งแก้ไข 

ขณะที่ นายเทวัญ กล่าวว่า หัวใจหลักในการพัฒนาเทศบาล คือความร่วมมือกันทุกฝ่าย ปีนี้ทางเทศบาลนครฯ ได้พัฒนาคูเมืองและทำสวนสาธารณะ และยังพัฒนาสมาร์ทซิตี้ โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เพื่อให้การติดต่อประสานงาน การทำงานต่างๆ กับเทศบาลง่ายขึ้น ที่สำคัญเป็นการอุดรอยรั่วของการทุจริตคอร์รัปชั่น

นอกจากนี้ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ยังได้หารือกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรื่องการย้ายเรือนจำกลางนครราชสีมา ออกไปนอกเมืองเพื่อประโยชน์ของทางราชการและพัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียว สร้างปอดแห่งใหม่ให้ชาว จ.นครราชสีมา