มัดรวมให้แล้ว “เงินดิจิทัล 1 หมื่น” อ่านก่อนนายกฯแถลงรายละเอียดบ่ายนี้

ขณะที่ล่าสุด รายละเอียดเบื้องต้นของการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท คณะอนุกรรมการฯเพื่อไทย ได้หารือถึงการปรับเปลี่ยนคำนิยามของการดำเนินโครงการใหม่เป็น "เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ" หลังจากเดิมรัฐบาลเตรียมใช้ "เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการใช้จ่าย" 

เนชั่นออนไลน์ ไล่เรียงไทม์ไลน์ความเป็นมาตั้งแต่ต้น โดยต้องจับตา "นายกฯเศรษฐา" ว่าจะเคลียร์จบครบทุกกระบวนการ ในวันที่ 10 พ.ย.นี้ หรือไม่อย่างไร โดยเริ่มจาก 

• 5 ต.ค. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ร่วมกับรัฐมนตรี คณะกรรมการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนโครงการฯ โดยมี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานคณะอนุกรรมการดังกล่าว

• 12 ต.ค. 66 มีการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต นัดแรก ซึ่งที่ประชุมคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือนตุลาคม มีการเตรียมเปลี่ยนแผนการใช้เงินระยะ 4 กิโลเมตร และกำหนดการให้เงินอีกครั้งหลายมีหลายฝ่ายติง

• 19 ต.ค.66 ก.คลัง ออกมาประกาศเลื่อนแจกเงินหมื่น เหตุต้องใช้เวลาวางระบบบล็อกเชน และป้องกันแฮกเกอร์ รวมถึงยังมีรายละเอียดที่ติดขัดข้อกฎหมายในการหาที่มาของงบประมาณ หลังนายกฯเศรษฐา เคยบอกกับประชาชนว่าจะได้ใช้เงินทัน 1 ก.พ. 67 

• 25 ต.ค.66 รมช.คลัง ประชุมคณะอนุกรรมการฯ เคาะกลุ่มเป้าหมาย ชู 3 แนวทางนิยามเกณฑ์คนรวย เปลี่ยนรัศมีการใช้จ่ายได้ระดับอำเภอ จากเดิมระยะ 4 กิโลเมตร ก่อนจะเลื่อนจ่ายเป็น พ.ค. 67

• 24 ต.ค.66 ที่ประชุมคณะอนุกรรมฯ ได้สรุปและปรับเกณฑ์เงื่อนไขแจกเงินดิจิทัล 10,000 เพื่อเสนอให้ที่ประชุมใหญ่ ซึ่งมีนายกฯนั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.67 พร้อมเคาะมาตรการใหม่ "จ่ายเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 15-16 ล้านคน ใช้งบประมาณ 1.6 แสนล้านบาท"

พิจารณาให้ตัดกลุ่มคนที่มีความพร้อมทางสังคม มีรายได้เดือนละ 25,000 บาท หรือมีเงินฝากในบัญชี 1 แสนบาท จะเหลือผู้ที่ได้รับสิทธิ 43 ล้านคน ใช้งบประมาณ 4.3 แสนล้านบาท

พิจารณาตัดผู้ที่มีรายได้เกินเดือนละ 50,000 บาท หรือมีเงินฝากในบัญชี 5 แสนบาท จะเหลือผู้ได้รับสิทธิ 49 ล้านคน ใช้งบประมาณ 4.9 แสนล้านบาท ขยายรัศมีการใช้จ่ายจากเดิมรัศมี 4 กิโลเมตร เป็นใช้จ่ายในระดับอำเภอ

ร้านค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการเปิดให้ทั้งบุคคลธรรมดา นิติบุคคล กองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน รวมทั้งสินค้าสำหรับอุปโภคบริโภค เป็นต้น

ร้านค้าที่ขึ้นเป็นเงินสดได้ ต้องเป็นร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) นิติบุคคล และบุคคลธรรมดาที่อยู่ในระบบภาษี *แต่เงื่อนไขใหม่ล่าสุด ยังไม่ชัดเจนว่าจะปรับเงื่อนไขใหม่อย่างไร จะลดกลุ่มเป้าหมายลงหรือไม่ เพราะต้องรอให้นายกฯนิด ตัดสินใจใจในขั้นสุดท้าย ก่อนคลอดมาตรการฉบับสมบูรณ์ 

• 31 ต.ค. นายกฯเศรษฐา ย้ำด้วยตัวเองหลังการประชุมครม. ถึงกรณีที่นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษาของนายกฯ ระบุอาจจะเลื่อนแจกดิจิทัลวอลเล็ต จากเดือนกุมภาพันธ์ เป็นเดือนกันยายน 2567 โดยเห็นว่ามีการให้ข้อมูลที่กระจัดกระจายหลายคน เดี๋ยวข้อมูลทั้งหมดจะออกมาในเร็ว ๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจำนวน คนรวยได้หรือไม่ได้ หรือแบบใดถึงเข้าเกณฑ์คนรวย ระยะทางการใช้เงิน รวมถึงแหล่งที่มาของงบประมาณ จะมีการชี้แจงคนเดียว จะได้ไม่ต้องมีข้อสงสัย