"ส.ว.กิตติศักดิ์" ชี้ 19 ก.ค. ส่งชื่อ "พิธา" ก็แพ้อีก ชี้ ควรเป็นโอกาส เพื่อไทย

14 กรกฎาคม 2566 นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวในรายการ Morning Nation เช้านี้ที่เนชั่น วันนี้(14 ก.ค.) ว่า เมื่อวาน(13 ก.ค.) หลังจากโหวตนายกรัฐมนตรีแล้วรีบกลับ เนื่องจากว่า ต้องไปวัดบางคลาน ที่จ.พิจิตร เนื่องจากทราบว่า 2 ฝ่ายจะปะทะกัน ซึ่งเคลียร์จบแล้ว โดยบอกเขาว่า อย่าทะเลาะกันเลย เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรก็เหมือนการเมืองในขณะนี้ ตนเป็นคนที่หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง อย่าไปเติมฟืนใส่ไฟ

นายกิตติศักดิ์ กล่าวถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ในวันที่ 19 ก.ค. ว่า ในส่วนตัวของตนและเคยพูดไว้แล้วว่า ให้อยู่กับความเป็นจริงวันที่ 19 ก.ค. หากยังดึงดันที่จะส่งชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลอีก ก็ไม่ได้อีก เพราะ 1. คะแนนที่ได้ก็จะไม่ต่างกับการโหวตครั้งแรก 2. เรื่องที่อยู่ศาลทั้ง 2 เรื่อง (ปมหาเสียงแก้ไขม.112 และ คุณสมบัตร ส.ส.) น่าจะมีผลออกมาแล้ว

“ถ้าวันที่ 19 ก.ค. ยังยืนยันที่จะเสนอมา ก็ไม่ได้เสียง ส.ว.และหลายคนอาจจะป่วย สิบกว่าเสียงที่ได้เมื่อวาน( 13 ก.ค.)อาจจะไม่ได้ด้วย”  

ส่วนตัวมองว่า การเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 ก.ค. ควรจะเป็นโอกาสของพรรคที่ได้คะแนนอันดับ 2 เมื่อนายพิธาโหวตไม่ผ่านแล้ว เป็นสินค้าชำรุด แต่ถ้าทั้ง 8 พรรคยังมัดข้าวต้มกันอยู่อย่างนี้ คะแนนที่จะโหวตที่ได้ก็จะไม่แตกต่างจากวันที่ 13 ก.ค.

ส่วนกรณีที่ตนให้จับตาดูวันที่ 19 ก.ค. จะเป็นละครโรงใหญ่ อาจมีเลือดท่วมจอ แทงข้างหลังกันนั้น เป็นการวิเคราะห์โดยส่วนตัวว่า ถ้ายังเสนอนายพิธา นอกจากไม่ได้คะแนนโหวตแล้ว ยังจะมีคนแข่งด้วย แต่ไม่ทราบว่าเป็นฝั่งไหน ตนเชื่อว่ามีแน่นอน

นอกจากนี้ถึงแม้ พรรคก้าวไกล จะเสนอเงื่อนไขตัดม.112 ออก ตนก็ไม่เชื่อ ไม่โหวตให้อยู่ดี เพราะ พฤติกรรมที่แสดงมา 4-5 ปี ตนไม่เชื่อและไม่โหวตให้อยู่ดี ตลกพอจะขอคะแนนบอกไม่ทำแล้ว ซึ่งก่อนการโหวตเมื่อวานนี้(13 ก.ค.) มีส.ว.พยายาม บอกให้ถอยแล้วจะโหวตให้ แต่นายพิธา-ก้าวไกล ก็ไม่ยอมถอย ซึ่งตนเข้าใจว่าเป็นเพราะ ถอยก็ตกหน้าผา เดินหน้าก็เจอเสือ

นายกิตติศักดิ์ เปิดเผยถึงทางออกของบ้านเมือง ตนเคยกล่าวแล้วว่า หากนายพิธาและพรรคก้าวไกล ยังดึงดันที่จะเสนอแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งจะไปสร้างความขัดแย้งกับพลังเงียบ หรือผู้ที่จงรักภักดีต่อสถาบัน ซึ่งก็ไม่พ้นเกิดการปะทะอยู่ดี ซึ่งสถานการณ์ที่เบาบางที่สุด คือ “เพื่อไทย” ออกจากร่วมรัฐบาล 8 พรรคไปตั้งรัฐบาลใหม่ เพราะไปไม่ได้แล้ว ส่วนจะรวมอย่างไร ตนไม่ก้าวก่าย เพื่อให้เดินต่อไปข้างหน้าได้ แต่ถ้ายังดึงดันส่งนายพิธา ผลคะแนนก็เหมือนเดิม

นายกิตติศักดิ์ กล่าวถึงกระแสแจกกล้ายว่า ตามกระแสข่าวมีจริง แต่ไม่ใช่กล้วยไม่เลือกนายพิธา เขาต้องการได้ ส.ว. 65 เสียง ถึงแจกกล้วย แต่มีเพียง 10+ ตนถึงให้สัมภาษณ์ว่า ตรงนั้นซื้อไปไม่มีประโยชน์