8 พรรคร่วมฯ ถกเตรียมพร้อมโหวตนายกฯ ย้ำดัน "พิธา"สุดความสามารถ

11 กรกฎาคม 2566 ที่อาคารรัฐสภา แกนนำพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค ร่วมประชุมความคืบหน้าจัดตั้งรัฐบาล นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.), นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค ก.ก., นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.), นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคพท.,น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรักษาการโฆษกพรรค, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.), นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง, นายวิรัตน์ วรศสิริน ตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย (สร.), นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม (ปธ.) และตัวแทนจากพรรคพลังสังคมใหม่

โดยทั้ง 8 พรรคได้ถ่ายรูปร่วมกันก่อนจะมีการประชุมเพื่อหารือถึงการเตรียมความพร้อมในการโหวตนายกรัฐมนตรีวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะนำไปแจ้งต่อที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ วิปวุฒิ และตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งจะมีการประชุมในเวลา 11.00 น.

โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวก่อนการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า วันนี้เป็นการประชุม 8 พรรคเพื่อหารือในเรื่องต่างๆ เพราะใกล้จะถึงวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว เพื่อมาดูกันว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร แกนนำพรรค อย่างนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เตรียมความพร้อมแค่ไหน และพรรคร่วมจะทำอะไรได้บ้าง เพราะที่ผ่านมานายพิธา มั่นใจ เราจะพยายามช่วยสุดความสามารถ 
   
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทย หาเสียงจาก ส.ว.ได้ 40 เสียงแล้ว แต่ ขณะที่พรรคก้าวไกลหาเสียงจาก ส.ว.ได้เพียง 20 เสียงนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่าต้องมาหารือกันว่าแต่ละคนทำอะไรได้แค่ไหน พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้ยังคงมีแผนเดียว อย่างไรต้องให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เข้าสู่การพิจารณา

"พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะผลักดันนายพิธาสุดความสามารถ ซึ่งจะทำเต็มที่เท่าที่ความสามารถจะมี เป็นการประกาศเจตนารมณ์ให้เห็นว่าพรรคร่วมตั้งใจที่จะทำหน้าที่นี้ให้เต็มที่ ส่วนจะโหวตกี่รอบให้เป็นอำนาจของที่รัฐสภาจะพิจารณา และความเป็นจริงที่เกิดขึ้น" นายภูมิธรรม กล่าว 
   

สำหรับที่ ส.ว. ระบุว่า หากเป็นพรรคก้าวไกลจะไม่โหวตแต่ถ้าเป็นพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะโหวตให้นั้น ให้รอดูความเป็นจริงว่าผลโหวตจะออกมาเป็นอย่างไร ขณะนี้ไม่ควรคิดอะไรที่เกินเลย เพราะเป็นการคาดเดา จะทำให้เป็นบรรยากาศและความรู้สึกที่มากเกินไป วันนี้อยู่ที่ความเป็นจริงว่า แต่ละพรรคมีความมั่นใจแค่ไหน และช่วยกันทำอย่างไรให้บรรลุผล ที่ร่วมกันตั้งเป้าหมายไว้ หากเกิดอะไรขึ้นมาชัดเจนต้องมาดูอีกทีว่าอะไรเป็นอะไร

ขณะที่กรณีของนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ระบุว่า หากเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีคุณสมบัติขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็เสี่ยงที่จะถูกยุบพรรคได้นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอดูรายละเอียดก่อน เพราะขณะนี้มีแต่ “ถ้า” เป็นเพียงความคิดเห็นเราก็รับฟังทุกความคิดเห็นว่ามีความหมายทั้งหมด ทุกท่าทีที่แสดงออกมาก็ควรที่จะพิจารณาให้รอบคอบที่สุด เพราะกำลังทำหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ก็ต้องช่วยกันดูช่วยกันคิด 
  
สำหรับกรณีที่ กกต. จะส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของนายพิธา เพื่อให้เกิดความกระจ่างโดยเร็วที่สุดนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ขอก้าวล่วง ขอให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย และความเป็นจริง เป็นอย่างไรค่อยมาพิจารณากันอีกที