"พิธา" ลั่น "ทำการใหญ่ ใจต้องนิ่ง" หลังเจอทั้งมรสุมหุ้นสื่อ-ค้ำประกัน

9 มิถุนายน 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชี้แจงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะมีการนับคะแนนใหม่ มีพื้นที่ไหนกังวลเป็นพิเศษหรือไม่ ว่า เท่าที่ดูในเขตที่นับคะแนนใหม่ อาจมีกระทบบ้างแต่มั่นใจว่า ไม่ได้เป็นพื้นที่ของก้าวไกล ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นเขตไหน การที่จะนับให้แม่นยำ และตรงกับเจตจำนงก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่ควรจะทำตั้งนานแล้ว

และทุกวันนี้มีเทคโนโลยี ก็สามารถนำข้อมูลมาเปรียบเทียบกัน เพื่อการนับครั้งที่ 2 จะได้ไม่เป็นข้อครหาว่า ต้องการเปลี่ยนผู้ชนะหรือผู้แพ้ แต่เพื่อตรวตสอบความแม่นยำของการนับจริงๆ และถ้าเกิดมากับตกพรรคก้าวไกล ก็พร้อมสู้ทุกการเลือกตั้งและมองว่า จะเป็นโอกาสที่จะเพิ่ม ส.ส.ให้กับพรรคก้าวไกล

ส่วนเรื่องที่ถูกร้องดำเนินคดี มีหลายคนมองว่า คล้ายกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายพิธา กล่าวว่า คิดว่าคล้ายกับ นายธนาธร แต่ไม่จบเหมือนนายธนาธร และสังคมก็ได้รู้พอสมควร ซึ่งตนเองก็เปิดให้มีการตรวจสอบได้อย่างเต็มที่ ทั้งก่อนเข้าสู่อำนาจ ระหว่างอยู่ในอำนาจ และหลังลงจากอำนาจ ซึ่งเป็นระบบที่อยู่ในความเสมอภาคของนายกรัฐมนตรีทั้งก่อนและหลัง และเท่าที่เช็กเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังไม่ได้รับการติดต่อมาจาก กกต.

ส่วนเรื่องค้ำประกัน กรณีที่เลขาป.ป.ช. ระบุว่ายินดีให้ข้อมูลหาก ก.ก.ต. ขอข้อมูลเรื่องค้ำประกันหนี้ นายพิธา ระบุว่า เรื่องนี้ตนซีเรียสและรัดกุมกับการประสานงานกับ ป.ป.ช. มาตลอด ตั้งแต่ปี 62 ก็มีการแลกเปลี่ยนพูดคุยขอคำเสนอแนะมาตลอด และรู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไร และเท่าที่ฟังคำชี้แจงของเลขาปปช. ก็เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งเป็นไปตามที่เลขาปปช.อธิบายไว้

เมื่อถามว่า หากมีการสละหุ้นไอทีวีจะเป็นการแก้เกี้ยวด้วยหรือไม่ นายพิธา ชี้แจงว่า ต้องตอบแบบเดิมว่า ยังไม่มีเอกสารอะไรกลับมา จึงเป็นการอนุมานไปมาระหว่างเนื้อข่าว ส่วนเป็นวิบากกรรมพรรคการเมืองหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติทางการเมืองทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต รวมถึงทั่วโลก เพราะฉะนั้น “ทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง”