"เอิร์ธ พงศกร" ชู 3 นโยบายยกระดับคลองเตย-วัฒนา สู่ชมชุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์

8 พฤษภาคม 2566 ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง ผู้สมัคร ส.ส.เขตคลองเตย-วัฒนา เบอร์ 5 พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า สิ่งที่อยากทำและเป็นนโยบายที่คิดร่วมกับ "เฮียต่าย" หรือ คุณสุชัย พงษ์เพียรชอบ ส.ก. เขตคลอง จากกลุ่มรักษ์กลุ่มเทพ ใน 3 เรื่องหลัก คือ สวัสดิการมี ชีวิตดี สร้างรายได้ เพื่อทำให้กับคนพื้นที่เขตคลองเตย-วัฒนา ได้แก่



สวัสดิการมี - ให้เรียนฟรี 15 ปี ตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงระดับปริญญาตรี ฟรีค่าหน่วยกิต ค่าเทอม ฟรีทุกอย่าง และสามารถสร้างรายได้ในระหว่างเรียน โดยใช้กลไกภาษีร่วมกับภาคเอกชน ซึ่ง 10 ปีที่แล้ว ให้เรียนฟรีแค่อนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่วันนี้จะทำให้ทุกคนในชุมนุมที่มีรายได้น้อย ได้เข้าถึงการศึกษาที่สูงขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาศในการหารายได้มากยิ่งขึ้น / สวัสดิการผู้สูงอายุ – เมื่อมีโครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ก็จะมีอีกส่วนหนึ่ง คือ ชมรมผู้สูงอายุ ซึ่งในบางครั้งอยากจะมีกิจกรรม ก็จะมีกองทุนให้ 30,000 บาท เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถจัดกิจกรรมได้ตลอดปี

ชีวิตดี - ต้องการทำให้พื้นที่ในเขตคลองเตย-วัฒนา มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เนื่องจากเป็นเขตที่มีความพิเศษ คือ ไม่ได้ขึ้นตรงกับหน่วยงานท้องถิ่นอย่าง กทม. ทำให้ในอดีตสามารถพัฒนาได้บางส่วน เช่น ถนนสุขุมวิท หรือ ริมคลองแสนแสบ อีกทั้ง หลายพื้นที่ขึ้นกับการท่าเรือ การทางพิเศษ และ การรถไฟ ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ ดูแลเรื่องคมนาคมโดยเฉพาะ จึงอยากให้มาดูแลเรื่องความเป็นอยู่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปัจจัย อย่างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ที่อยู่อาศัย



"พื้นที่ตรงบริเวณพระรามสี่ สุขุมวิท คลองเตย วัฒนา ถือพื้นที่ทำเลทอง มีทั้งบีทีเอสมี เอ็มอาร์ที ทางด่วน มาลงทั้งหมด และมีพื้นที่เยอะมากที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ เราอยากทำให้พื้นที่เหล่านี้ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์มากกว่าให้เอกชนมาใช้ประโยชน์ด้วยการนำพื้นที่ว่างเปล่า มาเป็นบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อย ทำเป็นสวนสาธารณะ หรือนำมาเป็นตลาดให้พี่น้องประชาชนสามารถขายของสร้างรายได้ ดีกว่าไปทำเป็นห้างให้เอกชนมาประมูล คือ สิ่งที่เราต้องการทำให้ทุกคนมีชีวิตที่ดี" ร.ต.อ.พงศกร กล่าว

ส่วนการสร้างรายได้ ต้องการทำให้เกิดธนาคารหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงเงินทุนพัฒนาเรื่องความเป็นอยู่และอาชีพ เพราะคลองเตย-วัฒนา ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ทำเลทอง ดังนั้น สามารถพัฒนาชุมชน ให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในชุมชน เพื่อทำให้เกิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เหมือนที่ทำสำเร็จมาแล้ว อย่างเช่น คลองผดุงกรุงเกษม คลองโอ่งอ่าง หรือตลาดน้อย



ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายกองทุนเอสเอ็มอี 300,000,000,000 ล้านบาท และมีกองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งตรงนี้จะสามารถทำให้พื้นที่เหล่านี้พัฒนาได้ และยืนยันว่าพื้นที่คลองเตยมีอะไรดี ๆ หลายอย่าง ที่อยากจะให้ทุกคนเข้ามาดู แต่ที่ผ่านมาขาดการโปรโมท ดังนั้น ต้องทำให้เหมือนต่างประเทศที่เวลาไปท่องเที่ยว คนอยากไปเดินในพื้นที่ที่เป็นท้องถิ่น ว่าได้รับการโปรโมท พื้นที่เหล่านี้จะมีศักยภาพสูงมาก อีกทั้ง ยังสามารถเปลี่ยนภาพลักษณ์และทำให้เกิดรายได้อย่างยั่งยืนให้กับประชาชนในพื้นที่