svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"สุวัจน์"ดันโคราชเป็นดินแดน 3 มงกุฎยูเนสโกโกยรายได้เข้าประเทศ

04 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"สุวัจน์ ลิปตพัลลภ" ขอดันโคราชเป็นดินแดนแห่ง 3 มงกุฎของยูเนสโก เพื่อส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยว ดึงเงินต่างชาติ เข้ากระเป๋าชาวบ้านแบบยั่งยืน มั่นใจเป็นรัฐบาลอยู่ครบเทอม โกยรายได้ปีละ 5 ล้านล้านบาท

4 พฤษภาคม 2566 "นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ" ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย "นายเทวัญ ลิปตพัลล" เลขาธิการพรรค ฐานะผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นครราชสีมา และผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา ได้มีการจัดกิจกรรมสำรวจเส้นทางการท่องเที่ยวดินแดนแห่ง 3 มงกุฎของยูเนสโก พื้นที่มรกดกโลก โดยเริ่มต้นจากการเดินทางสำรวจเส้นทาง ไปยังพื้นที่มรดกโลกกลุ่มป่าดงพยาเย็นเขาใหญ่ ชมป่าดงดิบที่สมบูรณ์ของมรดกโลกเขาใหญ่ บ้านคลองปลาก้ัง ตำบลวังหมี อำเภอวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

"สุวัจน์"ดันโคราชเป็นดินแดน 3 มงกุฎยูเนสโกโกยรายได้เข้าประเทศ


จากนั้นเดินทางไปยังพื้นที่ สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ลุยป่า ดูความสมบูรณ์ ของป่าสะแกราช ซึ่งเป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช อำเภอวังน้ำเขียว ชมป่าดึกดำบรรพ์และต้นไม้อายุกว่า 600 ปี ร่วมสมัยกำเนิดเมืองนครราชสีมา ก่อนเดินทางต่อไปชมพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินซากดึกดำบรรพ์และไดโนเสาร์ พร้อมด้วยเบื้องหลังงานวิจัยที่พื้นที่สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน อยู่ในพื้นที่อำเภอเมือง จ.นครราชสีมา และเดินทางไปยังวัดเขาจันทร์งาม ชมภาพเขียนสี 4,000 ปี 

โดยนายสุวัจน์ กล่าวว่า จ.นครราชสีมา ถือเป็นจังหวัดเดียวที่เป็นดินแดน แห่ง 3 มงกุฎของยูเนสโก ที่มีพื้นที่มรดกโลกในจังหวัดเดียว 3 แห่ง ซึ่งเป็นจุดเด่นของจังหวัด ซึ่งน่าส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง เพื่อดึงรายได้เข้าประเทศ โดยทางจ.นครราชสีมา ต้องมีโปรแกรมอนุรักษ์ของยูเนสโกครบทั้ง 3 โปรแกรม ที่คล้ายกับเมืองซาเลอร์โน ประเทศอิตาลี หรือ จังหวัดเชจู ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีทั้งมรดกโลก (World Heritage) พื้นที่สงวนชีวมณฑล (Biosphere Reserve) และอุทยานธรณีโลก (Global Geopark) อยู่ภายในพื้นที่จังหวัดเดียวกันโดยเชื่อมโยงแหล่งมรดกโลกพื้นที่สงวนชีวมณฑลและอุทยานธรณีโคราช

"สุวัจน์"ดันโคราชเป็นดินแดน 3 มงกุฎยูเนสโกโกยรายได้เข้าประเทศ

ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามเงื่อนไขของยูเนสโก หากดำเนินการเป็นรูปธรรม นำไปสู่การได้รับรองตามเป้าหมาย จ.นครราชสีมา จะเป็นจังหวัดที่สามของโลก จังหวัดที่สองของเอเซีย และแห่งแรกของประเทศไทย ช่วยส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยว และเกิดประโยชน์กับชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นที่รู้จักของกลุ่มนักอนุรักษ์และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมายูเนสโกต้องการให้เกิดการอนุรักษ์ บรรพชีวิต และธรณีวิทยาให้ยั่งยืน โดยให้ชุมชนมีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลและพัฒนาก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยมีการท่องเที่ยวในเชิงธรณีวิทยา ท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรม ผสมผสานการนำ Soft Power กับธรณีวิทยาและจ้างงาน มีอาชีพและรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น

"สุวัจน์"ดันโคราชเป็นดินแดน 3 มงกุฎยูเนสโกโกยรายได้เข้าประเทศ

นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า จ.นครราชสีมา ถือว่ามีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ขณะนี้โคราชได้มรดกโลกมาแล้ว 2 มงกุฎ คือ

1.อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

2.เขตชีวมณฑล ต.สะแกราช อ.ปักธงชัย และรอการประเมินรับรองอุทยานธรณีโลกหรือโคราชจีโอพาร์คขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานธรณีโลก ต่อไป 

"นครราชสีมา จะเป็นเมืองที่ 4 ของโลก ต่อจาก ประเทศอิตาลี เกาหลีใต้ และจีน หากทำสำเร็จ จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาลจากการท่องเที่ยว ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต" นายสุวัจน์ กล่าว 

ขณะเดียวกัน หากสามารถผลักดันการท่องเที่ยวที่มีความเชิ่อมโยง ได้อย่างเป็นระบบทั้งประเทศ ไม่ว่า จะเป็น โครงการแห่ง 3 มงกุฎของยูเนสโก และ โครงการสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทยอย่างยั่งยืน ครอบคลุมพื้นที่จ.สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง

นอกจากนี้ พร้อมทั้งเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด กับดึงจุดเด่นในแต่ละจังหวัดที่สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ ขึ้นมาด้วยคาดว่าในอีก 4 ปีข้างหน้า จะทำให้เกิดการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้กว่าปีละ 5 ล้านล้านบาท และเกิดการสร้างอาชีพ ให้กับประชาชนได้มากขึ้น

 

logoline