svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เครือเนชั่น "วิเคราะห์เลือกตั้ง 66" นครศรีธรรมราช กับเดิมพันตระกูลเดชเดโช

03 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เครือเนชั่น "วิเคราะห์เลือกตั้ง 66" จ.นครศรีธรรมราช ศึกหนักประชาธิปัตย์ ที่มีตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเดิมพัน ตระกูล "เดชเดโช" จะต้องทำได้ 9 เขต ไหวไหม?

กองบรรณาธิการเครือเนชั่น ได้ทำการวิเคราะห์การเลือกทั่วประเทศ 400 เขต เพื่อให้คอข่าวการเมืองได้รับรู้ความเคลื่อนไหว เลือกตั้ง 2566 ทั้งในพื้นที่เขตตัวเองและนอกพื้นที่ เรียกว่าจัดให้อย่างเต็มอิ่ม โดยรายงานฉบับนี้เป็นเพียงช่วงแรกก่อนการเปิดหีบหย่อนบัตร ส่วนในช่วงโค้งสุดท้ายจะนำเสนอแบบลงรายละเอียดให้เห็นภาพกันแบบฟันธง

กองบรรณาธิการเครือเนชั่น ได้สำรวจวัดกระแสจากในพื้นที่ ทั้งสภากาแฟ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัด และประชาชน ส่งข้อมูลมาที่ศูนย์กลางเครือเนชั่น ที่มีกว่า 10 สื่อฯ เพื่อร่วมกันวิเคราะห์ออกมาในแต่ละภาค ว่าแต่ละพรรคได้เท่าไร แต่ละจังหวัดเป็นอย่างไร

สำหรับภาคใต้ จำนวนเก้าอี้ ส.ส. ทั้งหมด 60 ที่นั่ง กองบรรณาธิการเครือเนชั่น ได้วิเคราะห์ในช่วงแรกออกมาว่าแต่ละพรรคจะได้จำนวนส.ส.เท่าไร ดังนี้

     1. พรรคประชาธิปัตย์ มีแนวโน้มชนะ 37 ที่นั่ง ช่วงชิง 14 ที่นั่ง

     2. พรรครวมไทยสร้างชาติ มีแนวโน้มชนะ 8 ที่นั่ง ช่วงชิง 6 ที่นั่ง

     3. พรรคภูมิใจไทย มีแนวโน้มชนะ 8 ที่นั่ง ช่วงชิง 7 ที่นั่ง

     4. พรรคประชาชาติ มีแนวโน้มชนะ 6 ที่นั่ง ช่วงชิง 4 ที่นั่ง

     5. พรรคพลังประชารัฐ มีแนวโน้มชนะ 1 ที่นั่ง ช่วงชิง 7 ที่นั่ง

     6. พรรคชาติพัฒนากล้า ช่วงชิง 2 ที่นั่ง

     7. พรรคเพื่อไทย ช่วงชิง 1 ที่นั่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

มาดูในรายจังหวัด นครศรีธรรมราช มีเขตเลือกตั้ง 10 เขต จากเดิม 8 เขต

จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็น 1 ใน 3 จังหวัดใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะต้องคว้าเก้าอี้ส.ส.ให้มากที่สุด หากจะทำให้ได้ตามเป้าหมาย 52 เก้าอี้ ที่นายเฉลิมชัย  ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประกาศเอาไว้ เลือกตั้งปี 2562 ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ได้มาแค่ 5 ที่นั่ง จาก 8 เขต โดยเสียพื้นที่ให้กับพรรคพลังประชารัฐไป 3 เขต เลือกตั้งครั้งนี้เพิ่มจาก 8 เขต เป็น 10 เขต ในขณะที่กระแสพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ฟื้นกลับมาสู่ภาวะปกติ ทำให้ทุกพรรคต่างก็หมายมั่นจะเข้ามาขอแชร์ที่นั่งจากพรรคประชาธิปัตย์ ศึกเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นศึกหนักของพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง 

เขตเลือกตั้งที่ 1 “รงค์ บุญสวยขวัญ” จากพลังประชารัฐ แม้จะเป็นแชมป์เก่า และการประเมินรอบแรกดูเหมือนจะยังรักษาที่นั่งได้ แต่มี “ราชิต สุดพุ่ม” อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีทีมงานในพื้นที่เข้มแข็งกำลังเร่งสร้างคะแนนไล่มาติดๆ จากฐานคะแนนพรรค และฐานคะแนนส่วนตัว ประกอบกับการทำงานถึงลูกถึงคนของทีมงานหาเสียง ทำให้ต้องไปวัดกันโค้งสุดท้ายอีกครั้งว่า ทีมงานของทั้ง 2 พรรคทีมไหนจะช่วงชิงคะแนนได้มากกว่ากัน

ส่วน “พูน แก้วภราดัย” จากพรรครวมไทยสร้างชาติ แม้จะมีกระแส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีช่วยขับเคลื่อน แต่พื้นที่เขต 1 ไม่ใช่พื้นที่ของตระกูลแก้วภราดัย ทำให้พูน ยังมีคะแนนตามมาห่างๆ  นอกจากนั้นคะแนนของพูนยังมีผลต่อฐานคะแนนของนายรงค์จากพลังประชารัฐด้วย เนื่องจากเป็นฐานเสียงเดียวกัน การประเมินรอบแรก “ราชิต” จากประชาธิปัตย์ นำ “รงค์” จากพลังประชารัฐอยู่เล็กน้อย

เขตเลือกตั้งที่ 2 เป็นเขตที่ถูกจัดแบ่งพื้นที่ใหม่ “สายัณห์ ยุติธรรม” ที่ย้ายจากพรรคพลังประชารัฐไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ และเคยเป็นอดีตส.ส.เขตนี้มาก่อน แต่พื้นที่ฐานคะแนนหลักของ “สายัณห์” ถูกแยกไปอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 3 ทำให้มีโอกาสสูงที่ “สายัณห์” จะถูก “นายกหนึ่ง” ทรงศักดิ์  มุสิกกอง จากพรรคประชาธิปัตย์เบียดเข้ามาแทนที่ โดยมี ส.จ.สุภาพ ขุนศรี จากพลังประชารัฐ ขยับตามมาเป็นอันดับสาม ประเมินยกแรก ยังให้ “สายัณห์” ในฐานะแชมป์เก่า นำ “ทรงศักดิ์” ผู้ท้าชิงอยู่เล็กน้อย ขึ้นอยู่กับ “สายัณห์” จะแผ่วปลายหรือไม่

เขตเลือกตั้งที่ 3 “สัณหพจน์ สุขศรีเมือง” จากพลังประชารัฐ แชมป์เก่าในการเลือกตั้งปี 2562 แม้จะลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และมีกระแสตอบรับจากมวลชนในพื้นที่ แต่ก็ต้องเจอศึกหนัก 2 ด้าน เมื่อตระกูล “เดชเดโช” ที่กำลังแผ่ขยายบารมี ขึ้นมาเป็นตระกูลการเมืองใหญ่ ตระกูลใหม่ของนครศรีธรรมราช นำโดย “ส.ส.แทน” ชัยชนะ เดชเดโช ส่ง น้องชาย “พิทักษ์เดช เดชเดโช” ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้แรงกดดันที่จะแพ้ไม่ได้ เพราะ “ส.ส.แทน” มีเดิมพันเก้าอี้รัฐมนตรีรออยู่ หากสามารถนำทีมชนะการเลือกตั้ง 9 เขตขึ้นไป และอีกด้านโดย “นนทิวรรธ์ นนทภักดิ์” จากพรรครวมไทยสร้างชาต ประเมินรอบแรก “พิทักษ์เดช” เหนือกว่า “สัณหพจน์” 

เขตเลือกตั้งที่ 4 เป็นการช่วงชิงกันระหว่างพรรคพลังประชารัฐ “อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” อดีตส.ส.จากครั้งที่แล้ว กับ “พงศ์สินธ์ เสนพงศ์" น้องชายสุดรักของ "เทพไท เสนพงศ์" ที่วันนี้สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมี "ยุทธการ รัตนมาศ" จากประชาธิปัตย์เป็นตัวสอดแทรก เบื้องต้น "พงศ์สินธ์" จากรวมไทยสร้างชาติ นำ "อาญาสิทธิ์" จากภูมิใจไทย อยู่ในเกณท์ที่เรียกว่า หายใจรดต้นคอ

เขตเลือกตั้งที่ 5 เดิมพันครั้งสำคัญของ “ส.ส. แทน” ชัยชนะ เดชเดโช จากประชาธิปัตย์ เขตนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ ส่งอดีตสมาชิกสภาจังหวัด “ส.จ.สนั่น พิบูลย์” ประกบไม่ให้ “ส.ส.แทน” ทิ้งพื้นที่ไปช่วยผู้สมัครเขตอื่นได้อย่างสบายใจนัก แต่ประเมินโค้งแรกแรก “ส.ส.แทน” ยังนำขาด

เขตเลือกตั้งที่ 6 “ดร.โก้ ฉัตรชัย ธนาวุฒิ” จากพรรครวมไทยสร้างชาติ แข่งกับผู้อาวุโส “ประกอบ รัตนพันธ์” อดีตส.ส.หลายสมัย จากพรรคประชาธิปัตย์ เขตนี้แม้กระแส “พล.อ.ประยุทธ์” จะมาแรง แต่ในการประเมินรอบแรก “ประกอบ” จากประชาธิปัตย์ยังครองความได้เปรียบในฐานะเจ้าของพื้นที่

เขตเลือกตั้งที่ 7 “ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” จากประชาธิปัตย์ เจ้าของที่นั่งเดิมน่าจะรักษาตำแหน่งได้แบบหืดจับ เพราะพื้นที่เดิมของ “ชินวรณ์” ถูกผ่าไปเป็นเขตเลือกตั้งที่ 8 ทำให้ผู้สมัครจากภูมิใจไทย “เชษฐา ขาวขำ” อาศัยความเป็นคนพื้นที่ รวมทั้งการสนับสนุนจาก “อารี ไกรนรา” อดีตหัวหน้าการ์ดคนเสื้อแดง ซึ่งย้ายจากพรรคเพื่อไทยมาลงปาร์ตี้ลิสต์พรรคภูมิใจไทย แต่โค้งแรก “ชินวรณ์” ครองความได้เปรียบในฐานะอดีตส.ส. แต่ช่วงโค้งสุดท้ายต้องติดตามว่า ทีมงานของ “อารี” จะทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาได้หรือไม่ 

เขตเลือกตั้งที่ 8 เป็นอีกเขตที่ถูกจัดแบ่งใหม่ แม้จะเป็นพื้นที่เดิมของตระกูล “บุณยเกียรติ” ที่ “ชินวรณ์” ยอมหลบไม่ลงสมัครในเขตนี้ เพราะต้องส่งลูกสาว “ปุณณ์ศิริ บุณยเกียรติ” ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ แต่พื้นที่นี้ก็เป็นเขตอิทธิพลของ “อารี ไกรนรา” เช่นกันแม้ “ปุณณ์ศิริ” จะถูกจัดวางเป็นอันดับ 1 แต่ก็มีโอกาสถูกท้าทายจากหน้าใหม่อย่าง “มุกดาวรรณ เลื่องศรีนิล” จากภูมิใจไทย ที่ “อารี” หนุนประเมินโค้งแรก “ปุณณ์ศิริ” จากพรรคประชาธิปัตย์ นำแบบ “มุกดาวรรณ” หายใจรดต้นคอ

เขตเลือกตั้งที่ 9 เป็นเขตใหม่ทั้งหมด  “ส.จ.อวยพรศรี เชาวลิต” จากประชาธิปัตย์ ยืนหนึ่งมาด้วยบารมีของสามี “นายกเอ ท่าศาลา” อภินันท์ เชาวลิต เจ้าของฉายา “เมียข้าใครอย่าแตะ” ทำให้ส.จ.อวยพรศรี น่าจะมีคะแนนนำห่าง โดยมี “อำนวย ยุติธรรม” จากพรรครวมไทยสร้างชาติและคนสนิทของนายอำเภอท่าศาลา “หมอผึ้ง เภสัชกรหญิงนันทวัน วิเชียร” แห่งภูมิใจไทย ได้แค่มองตาม

เขตเลือกตั้งที่ เขต 10 เจ้าของพื้นที่เดิมคือ “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” จากประชาธปัตย์ ที่ตัดสินใจออกไปร่วมกับรวมไทยสร้างชาติ รายนี้ยืนหนึ่งจากความนิยมและการทำการเมืองมาโดยตลอดแบบคุณภาพของบุคคล ส่วนประชาธิปัตย์ ส่ง “ศิลปชัย สุนทรมัฎฐ์” มาหวังล้มยักษ์ และยังมี “พันตรีประเสริฐ สายทองแท้” อดีต ผบ.รบพิเศษสิชล คนพื้นที่มาในค่ายภูมิใจไทย ตามมาห่างๆ ประเมินโค้งแรก “พิมพ์ภัทรา” เหนือกว่า แต่ในโค้งสุดท้ายต้องจับตาความแรงของ “ศิลปะชัย” จะทำคะแนนไล่แซงทันหรือไม่ 

logoline