1 พฤษภาคม 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล ทั้ง 10 เขต ร่วมเวทีปราศรัยใหญ่จังหวัดเชียงใหม่ ที่ลานหน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์คืนวานนี้(1 พ.ค.) ถือเป็นอีกหนึ่งเวทีที่ประชาชนรอติดตามพรรคก้าวไกลอย่างล้นหลาม จนเรียกได้ว่าลานสามกษัตริย์แตก โดยเฉพาะเมื่อนายพิธาเดินทางมาถึงพื้นที่
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มี 3 เหตุผลที่ต้องกาพรรคก้าวไกลเท่านั้น คือ
1. เพื่อพิสูจน์ว่าพรรคการเมืองที่ทำงานรับใช้ประชาชน ไม่รับเงินนายทุน ไม่ต้องเกรงใจนายทุนพรรค เกรงใจแค่ประชาชน เป็นไปได้ในสังคมไทย
2.เพื่อพิสูจน์ว่าปัญหาสิทธิเสรีภาพ การใช้กฎหมายปิดปากประชาชน กับปัญหาปากท้อง ที่ดิน สวัสดิการ แก้ไปพร้อมกันได้ ไม่ต้องเลือก ไม่ต้องรอ
3.เลือกพรรคก้าวไกล เพื่อหักหน้าคนที่ยุบพรรคอนาคตใหม่ เอาปลายปากกา อาวุธที่แหลมคมกว่าปืน ใช้บัตรเลือกตั้งบอกว่า พรรคอนาคตใหม่คือผู้คน ไม่ว่าจะยุบอีกกี่พรรค ก็เอาพรรคของเราออกไปจากหัวใจของประชาชนไม่ได้
เมื่อ 4 ปีที่แล้ว พรรคอนาคตใหม่มี 6.3 ล้านเสียง อีก 2 สัปดาห์ ขอให้หัวคะแนนธรรมชาติทำงานอย่างหนัก ขอเพิ่มเป็น 10 ล้านเสียง ประกาศว่ายิ่งทุบทำลาย พรรคก้าวไกลยิ่งโต
ด้านนายพิธา กล่าวว่า พี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ พรรคก้าวไกล “ชัดและพร้อม” กล่าวคือ “ชัด” ที่จุดยืน “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง” ไม่ได้เอาออกแค่ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่เอาประวิตร วงษ์สุวรรณออกไปด้วย ส่วน “พร้อม” หมายถึงพรรคก้าวไกล พร้อมสร้างความเปลี่ยนแปลงให้คนเชียงใหม่ เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม ผ่าน พ.ร.บ.อากาศสะอาด กระจายงบลงมาให้ประชาชนช่วยดับไฟป่า เปลี่ยนผู้บุกรุกให้เป็นผู้บุกเบิก เปลี่ยนจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในป่าอย่างผิดกฎหมาย ให้มีสิทธิบนผืนแผ่นดินของบรรพบุรุษของเขา
ออกกฎหมายนิรโทษกรรมคดีป่าไม้และตั้งเขตวัฒนธรรมพิเศษให้กับพี่น้องชาติพันธุ์ เปลี่ยนเชียงใหม่เมืองปราบเซียนเรื่องการทำธุรกิจ ให้กลายเป็นเมืองปากท้อง ทำมาค้าขายคล่อง แก้กฎหมายสุราก้าวหน้า ขยายโอกาสให้ประชาชนคนภาคเหนือ
“14 พฤษภาคมนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนหยิบปากกาวิเศษออกมา เสกเวทย์มนต์ให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ให้เชียงใหม่ไม่เหมือนเดิม ให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต” นายพิธา กล่าวทิ้งท้าย