
25 เมษายน 2566 พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ผู้แทนรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีต้อนรับ"เรือหลวงช้าง" เรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกลำใหม่ของกองทัพเรือ ที่สั่งต่อจากสาธารณรัฐประชาชนจีนและเดินทางถึงประเทศไทย ณ ท่าเรือจุกเสม็ดฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี คณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชการกองทัพเรือในพื้นที่ ตลอดจนครอบครัวของกำลังพลประจำเรือ รวมถึงครอบครัวของทหารกองประจำการ (พลทหาร) ที่เดินทางไปรับเรือ ร่วมในพิธี
โดยเวลา 15.45 น. ผบ.ทร. เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นได้ขึ้นแท่นรับความเคารพจากกำลังพลประจำเรือ พร้อมกล่าวต้อนรับ "เรือหลวงช้าง" และให้โอวาทกำลังพลประจำเรือตอนหนึ่งว่า ตามที่กองทัพเรือดำเนินการจัดหาเรือหลวงช้างเข้าประจำการเพื่อรองรับภารกิจในการป้องกันรักษาอธิปไตยและการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ด้วยการปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบกและสนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำตลอดจนถึงการช่วยเหลือประชาชนบรรเทาสาธารณภัยพิบัติต่างๆ
นับเป็นการพัฒนากำลังรบที่สำคัญของกองทัพเรือซึ่งตนมั่นใจว่าด้วยขีดความสามารถของเรือหลวงช้างลำนี้ จะเพิ่มศักยภาพให้กองทัพเรือที่จะส่งผลให้การสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของประเทศประสบความสำเร็จลุล่วงตามที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี
ในส่วนของกำลังพลประจำเรือ ขอชื่นชมทุกท่านที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นกำลังพลชุดแรกปฏิบัติงานในเรือลำนี้และสามารถนำเรือเดินทางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนคือประเทศไทยด้วยความเรียบร้อยและปลอดภัย และขอให้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพื่อเป็นกำลังสำคัญให้เรือลำนี้มีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายต่อไป
จากนั้น ผบ.ทร. ให้สัมภาษณ์ว่า "เรือหลวงช้าง" เป็นเรือสนับสนุนการยกพลขึ้นบก เป็นเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำ ใช้ช่วยเหลือประชาชน บรรเทาสาธารณภัยโดยเฉพาะภัยพิบัติขนาดใหญ่ มีคลื่นลมแรง แต่ยอมรับว่าการติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากงบประมาณจัดสร้างไม่เพียงพอติดต้้งอุปกรณ์ เช่น ระบบอาวุธ ปืนหลัก ปืนรอง ระบบศูนย์ยุทธการ ระบบตรวจการณ์ เรดาร์อากาศ และเรดาร์การควบคุมบังคับบัญชาของเรือผิวน้ำ รวมถึงห้องยุทธการ จากนี้กองทัพเรือจะได้ว่าจ้างบริษัทติดตั้งระบบต่าง ๆ เพื่อให้เรือพร้อมปฎิบัติภารกิจ โดยตั้งงบประมาณในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2567 ซึ่งผ่านคณะรัฐมนตรีแล้ว และรอสภาใหม่พิจารณาต่อไป ในวงเงิน 950 ล้านบาท
สำหรับภารกิจในการเป็นเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำ ยังต้องมีการติดตั้งระบบในระยะต่อไป เมื่อมีการจัดหาเรือดำน้ำเข้ามาประจำการ ก็ค่อยมาดำเนินการตรงนี้ ดังนั้นจึงยังมีเวลา แต่เรื่องระบบอาวุธ ศูนย์ยุทธการ และอาวุธปืน จำเป็นต้องติดตั้งให้เรือก่อน ยืนยันว่างบประมาณที่ใช้จ่ายไปมีความคุ้มค่าอย่างแน่นอน
ส่วนคำวิจารณ์เรื่องค่าใช้จ่ายสิ้นเปลือง หากเรือออกปฏิบัติการนั้น ผบ.ทร. ระบุว่า แม้จะเป็นเรือใหญ่แต่เมื่อออกไปปฎิบัติภารกิจตามปกติจะใช้ความเร็วมัธยัสถ์ ซึ่งจะประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง หากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน เรือช้างมีความเร็วสูงสุด 25 น็อต แต่ความเร็วมัธยัสถ์ 18 น็อต ถ้าเราเดินเรือด้วยความเร็ว 12 น็อต ก็จะใช้น้ำมันไม่มากนัก อาจจะเทียบเท่ากับ เรือหลวงจักรีนฤเบศ เรือหลวงอ่างทอง
ส่วนกรณีความกังวลเรื่องระบบของเรือจีนนั้น ผบ.ทร. กล่าวว่า เรือที่มายังไม่ได้มีการติดตั้งระบบอาวุธ ระบบเซ็นเซอร์ระบบอำนวยการ ซึ่งในงบประมาณปี 67 ก็จะมีการคัดเลือกบริษัทที่มาดำเนินการ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นของจีน แต่ต้องมาดูความต้องการและภารกิจของเรือว่าต้องการแบบไหน และเข้ากันได้กับระบบของเรือหลวงช้างหรือไม่
"การจัดหาเรือลำนี้ก็ส่งผลดีต่อเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีน ผมได้มีโอกาสเยือนจีนตามคำเชิญของกองทัพเรือจีนอย่างเป็นทางการ ได้เข้าพบ ผบ.ทร.จีน และเข้าเยี่ยมคำนับรัฐมนตรีกลาโหมจีน ถือเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์กองทัพเรือ 2 ชาติ หลังจากสถานการณ์โควิดที่ห่างหายไป นอกจากนั้นจะมีการจัดประชุมเนวีทอล์ค ระหว่างกองทัพเรือ 2 ชาติครั้งแรก โดยมีไทยเป็นเจ้าภาพ ก็จะมีการเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่ออนุมัติแนวทางการประชุมต่อไป รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ในการฝึกร่วมอย่างต่อเนื่อง เช่น การฝึกบลูสไตร์ค ครั้งที่ 5 ซึ่งกองทัพเรือไทยจะเป็นเจ้าภาพ" ผบ.ทร. กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกองทัพเรือมีจำนวนเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ไม่เพียงพอตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดหาเพิ่มเติม เพื่อให้มีขีดความสามารถเป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่กำหนด ตั้งแต่ในภาวะปกติโดยมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก การขนส่งลำเลียงอีกทั้งเป็นเรือบัญชาการ พร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำ การค้นหาและกู้ภัยทางทะเล รวมทั้งสนับสนุนการช่วยเหลือ กู้ภัยเรือดำน้ำ และการช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัย การอพยพประชาชน สนับสนุนการป้องกันและต่อต้านการก่อการร้ายในทะเล และท่าเรือ
ทั้งนี้ ตามระเบียบของกองทัพเรือ ได้กำหนดหลักเกณฑ์การตั้งชื่อเรือรบ ตามประเภทของเรือ โดยในส่วนของเรือยกพลขึ้นบก กำหนดให้ตั้งชื่อตามเกาะต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยเรือยกพลขึ้นบกลำใหม่นี้ ได้รับพระราชทานชื่อจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า "เรือหลวงช้าง" (เกาะช้าง จ.ตราด)
โดย "เรือหลวงช้าง" เป็นเรือประเภทอเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำ มีกำลังพลประจำเรือจำนวนทั้งสิ้น 196 นาย ปัจจุบันมี นาวาเอก ธีรสาร คงมั่น เป็นผู้บังคับการเรือ คุณลักษณะที่สำคัญมีความยาวตลอดลำ 210 เมตร ความกว้าง 28 เมตร กินน้ำลึก 7 เมตร ระวางขับน้ำ 25,000 ตัน ทำให้เรือลำดังกล่าวเป็นเรือมีขนาดใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือ แทนเรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือบรรทุกเฮริลคอปเตอร์ ที่ทร. ไทยจัดซื้อจากสเปนซึ่งมีระวางขับน้ำ 11,544 ตัน ทำความเร็วสูงสุดได้ 25 นอต
- ดาดฟ้ายานพาหนะที่ 1 สามารถบรรทุก รถสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) ได้ 8 คัน หรือ ยานเกราะล้อยาง (MBT) 11 คัน
- ดาดฟ้ายานพาหนะที่ 2 สามารถบรรทุก รถสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) ได้ 8 คัน หรือ ยานเกราะล้อยาง (MBT) 9 คัน
- อู่ลอย สามารถบรรทุกเรือระบายพลขนาดกลาง(LCM) 6 ลำ หรือ เรือระบายพลขนาดเล็ก (LCVP) 9 ลำ หรือรถสะเทินน้ำสะเทินบก (AAV) 57 ลำ หรือ ยานเบาะอากาศ (LCAC) จำนวน 2 ลำ นอกจากนั้นยังสามารถบรรทุกกำลังรบยกพลขึ้นบกได้ถึง 600 นาย ใช้งบประมาผณในการจัดซื้อ 6,100 ล้าน
โดยเมื่อเข้าประจำการในกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ กองเรือยุทธการแล้ว "เรือหลวงช้าง" จะมีภารกิจหลักในการปฏิบัติการยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก การขนส่งและลำเลียง อีกทั้งเป็นเรือบัญชาการโดยมี ภารกิจรองในการสนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำ อาทิ การช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัย (HADR) การอพยพประชาชน การสนับสนุนการป้องกันและต่อต้านการก่อการร้ายในทะเลและท่าเรือ เป็นต้น