24 เมษายน 2566 ที่ใต้สะพานพระราม 8 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวบนเวทีปราศรัย "คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ" ว่า มีประชาชนสะท้อนปัญหาเรื่องค่าไฟ พลังงาน ค่าน้ำมัน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน หลายคนประสบปัญหาค่าไฟแพง พรรคร่วมรัฐบาลที่มาหาเสียงแถว ๆ นี้มาพูดคุยกับประชาชนแถวนี้ให้สัญญาว่าค่าไฟ ค่าพลังงานจะลดลง แต่ขอประชาชนอย่าใจง่าย เพราะพรรคเหล่านั้นเป็นรัฐบาลปัจจุบัน ถ้าทำได้ทำไมไม่ทำไปเลย ทำไมต้องคอยให้เป็นรัฐบาลใหม่ คอยวันที่ 14 พฤษภา ที่ต้องไปเลือกตั้งถ้าทำได้ทำไปนานแล้ว
ทั้งนี้ หากพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกเข้าไปการประชุม ครม.ครั้งแรก ค่าไฟลดลงแน่นอน อยากให้ประชาชนมีความเชื่อในพรรคเพื่อไทยว่าคิดใหญ่ ทำเป็น ส่วนเรื่องการเดินทางหากพรรคเพื่อไทย ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน จะทำให้รถไฟฟ้าราคาเดียวตลอดทั้งสาย พรรคเพื่อไทยคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก
สำหรับเรื่องเรื่องรายได้พรรคเพื่อไทยมีคำมั่นว่าจะเพิ่มรายได้ด้านเกษตรกรรมให้ได้ 3 เท่าตัวภายในเวลาสี่ปี และจะปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาท โดยปีหน้าจะปรับให้สูงกว่า 400 บาท แน่นอน ส่วนคนจบปริญญาตรีจะมีฐานเงินเดือนที่ 25,000 บาท ครอบครัวไหนมีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท จะเติม 20,000 บาท ให้ทันที
ส่วนกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ทุกคนรอคอยจะเติมให้ทันที ไม่มีอีกแล้วการหยอดน้ำข้าวต้ม เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ประโยชน์ของคนที่ได้รับเงิน ร้านค้า เอสเอ็มอี ก็ได้ประโยชน์เพราะเมื่อประชาชนมีเงินในกระเป๋า ร้านค้าก็จะสามารถค้าขายได้ดีขึ้น ไม่ต้องกลัวรัฐบาลไม่มีเงิน พรรคเพื่อไทยมีวินัยด้านการเงิน สามารถจัดสรรงบประมาณส่วนนี้ได้แน่นอน ขอให้มั่นใจว่าสามารถทำได้
นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทย จะต่อยอดยกระดับนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรค โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียวสามารถรักษาพยาบาลได้ทุกที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน ขอย้ำว่าผู้สมัคร ส.ส. กทม.ทั้ง 33 คนของพรรคเพื่อไทย มี 25 คน เป็นคนรุ่นใหม่ ที่พรรคเพื่อไทยคัดสรรมาอย่างดี รู้ซึ้งถึงความต้องการของประชาชน
โดยตนในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคมาวันนี้เพื่อวิงวอน ขอร้อง ขอคะแนนเสียงจากทุกคน ให้เลือก ส.ส.รุ่นใหม่ที่ขยันทำงาน มีความตั้งใจจริงมารับใช้ประชาชน ขอให้เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค