กกต.สั่งจับตาจังหวัดแข่งเดือดเลือกตั้ง 66 เตือนพรรคหาเสียงอย่าผิดกม.

22 เมษายน 2566 "ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก" รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)​ เปิดเผยถึงเรื่องร้องเรียน และการตรวจสอบพบการกระทำผิดในช่วงก่อนการเลือกตั้งขณะนี้ ว่า เรื่องร้องเรียนก็มีเรื่องทั่วไป เช่น การทำลายป้าย การหาเสียงหลอกลวง การใช้รถหาเสียงผิดประเภท เริ่มมีเข้ามาจำนวนมาก ก็ดำเนินการตามระเบียบหาเสียงทุกเรื่อง

ทั้งนี้ โดยอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของอนุกรรมการสืบสวนไต่สวนระดับจังหวัดที่กำลังดำเนินการอยู่ และจะมีความเห็นมา ซึ่งคาดว่าเร็วๆนี้ คงจะส่งขึ้นมายังสำนักงาน กกต. ส่วนกลาง 

ส่วนเรื่องการทำลายป้ายวานนี้ (21เม.ย.) ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. ได้แถลงแล้วว่า มีเหตุเกิดขึ้นประมาณ 300 กว่าเรื่อง สืบสวนสอบสวนและจับกุมไปได้ 50 กว่าเรื่องแล้ว มีทั้งเกิดจากผู้ที่คึกคะนอง เมาสุรา และมีความคิดเห็นแตกต่างกัน ซึ่ง สตช. ก็ดำเนินการอยู่

อย่างไรก็ตาม โทษของการทำลายป้ายเบื้องต้น เป็นเรื่องของการทำให้เสียทรัพย์ แต่ถ้าถอดป้ายแล้วนำไปเลย ก็เป็นเรื่องของการลักทรัพย์ ดังนั้น อยากฝากเตือนผู้ที่คิดทำว่าการจะหาเสียง หรือรณรงค์เกี่ยวกับการเลือกตั้ง จะต้องเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม และเท่าเทียม

ขณะเดียวกัน การดำเนินการใด ๆ ก็ตามที่ฝ่าฝืนกฎหมายไม่ว่าทำลายป้าย หรือทำให้ป้ายเสียหาย ล้วนเป็นความผิดทั้งสิ้นอย่าได้กระทำ โดยทางตำรวจผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ก็บอกแล้วว่าจะดำเนินการในทุกเรื่องอย่างเต็มกำลัง

"สิ่งที่จะผิดกฎหมายอย่าไปทำเพราะถึงเวลาสืบสวนสอบสวนไปถึงตัวท่านก็จะเกิดความเดือดร้อน จึงไม่มีประโยชน์อะไรเลย รวมถึงหากผู้ใดพบเห็นว่ามีการทำลายป้าย หรือทำให้ป้ายหาเสียงเกิดความเสียหาย ก็จะแจ้งมายังสำนักงาน กกต. หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เป็นการช่วยกันดูแลเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม" ร.ต.อ.ชนินทร์ กล่าว 

ส่วนบรรยากาศใกล้ช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ได้มีการสั่งการไปทางจังหวัด เพื่อประสานไปยังหน่วยข่าวกรองจังหวัด สันติบาล ตำรวจท้องที่ ให้ติดตามข่าวสารพร้อมเฝ้าระวัง ขณะที่ส่วนกลางก็จะมีชุดหาข่าวซึ่งเตรียมไว้ 10 กว่าชุด ที่จะลงไปยังจังหวัดที่มีความรุนแรง หรือแข่งขันกันสูง เพื่อเป็นการช่วยการทำงานของจังหวัดอีกทางหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วจังหวัดที่มีการแข่งขันรุนแรง เช่น นนทบุรี นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ แต่ครั้งนี้ยังไม่ชัดเจน จึงยังฟันธงไม่ได้ว่าจังหวัดไหนบ้าง แต่ก็เพ่งเล็งจังหวัดเดิมไว้อยู่ เช่น ชลบุรี ก็พอสมควร รวมทั้งในพื้นที่อีสานหรือภาคเหนือ

"ถ้าเรามีการประเมินว่ามีการแข่งขันรุนแรงก็จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไป ซึ่งคิดว่าชุดหาข่าวที่เตรียมไว้ยังเพียงพอ" รองเลขา กกต. ระบุ