svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เปิดใจ “บิ๊กป้อม” ตั้งเป้า ส.ส. เกิน 70 สานฝัน สู่เส้นทางนายกฯ คนที่ 30

เนชั่น เปิดใจ "บิ๊กป้อม - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" ในการนำทัพทำศึกเลือกตั้งปี 2566 ลั่น ต้องได้ ส.ส. เกิน 70 คน ไม่สนการประเมินของเหล่ากูรูการเมือง

“บิ๊กป้อม - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดใจให้สัมภาษณ์พิเศษกับเครือเนชั่น ในการนำทัพ "พลังประชารัฐ" สู้ศึกเลือกตั้งปี 2566 ดังต่อไปนี้

วันที่ “บิ๊กตู่” ตัดสินใจไม่ไปต่อกับ “พลังประชารัฐ”

ก่อนที่จะสัมภาษณ์ประเด็นสู้ศึกเลือกตั้ง "บิ๊กป้อม" เริ่มต้นเล่าย้อนเหตุการณ์ที่ “บิ๊กตู่” ตัดสินใจไม่ไปต่อกับ "พรรคพลังประชารัฐ" พร้อมยืนยันว่า ยังคงรักใคร่กลมเกลียวกัน แต่ 3 ป. ทางการเมือง ไม่มีอีกแล้ว

"ผมกับตู่ ต่างคนต่างไป เรื่องการเมืองต่างคนต่างเดิน เพราะตอนแรกผมก็บอกแล้วว่า ถ้าเขาอยู่ ถ้ามาก็มาเป็นสมาชิกพรรค แล้วเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผมจะไปเป็นประธานที่ปรึกษา แล้วที่มีคนพูดว่า คนของผมไปกับ "พล.อ.ประยุทธ์" ไม่เป็นความจริง ไม่มีใครกันหรอก แต่ผมก็ตอบไม่ได้ถึงการที่ "พล.อ.ประยุทธ์" ไม่เข้ามา ก็ต้องไปถามเขา

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง 3 ป. แบบพี่แบบน้องยังคงอยู่ แต่ 3 ป. ในทางการเมืองไม่มีแล้ว หลังการเลือกตั้ง ในทางการเมือง ก็ไม่มี

เปิดใจ “บิ๊กป้อม” ตั้งเป้า ส.ส. เกิน 70 สานฝัน สู่เส้นทางนายกฯ คนที่ 30

ยัน “พลังประชารัฐ” มีผลงาน หวังสานต่อการบริหารประเทศ

"พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" ได้กล่าวว่า ระหว่างที่ "พลังประชารัฐ" เป็นแกนนำรัฐบาล ได้มีผลงานมากมาย อันเนื่องมาจากทีมงานมีความรู้ความสามารถ และหวังว่า "พลังประชารัฐ" จะได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เพื่อสานต่อนโยบายและบริหารประเทศต่อไป 

จุดแข็งของ "พรรคพลังประชารัฐ" คือ คนที่เข้ามาอยู่ในพรรค มีความรู้ความสามารถในการบริหารประเทศ แต่ละคนที่เข้ามาส่วนใหญ่มีคุณภาพดี ทีมเศรษฐกิจมี 5 คน มีที่ยืนในพรรคเยอะแยะ เก่งๆ กันทั้งนั้น"

ยกตัวอย่าง "บัตรประชารัฐ" พรรคพลังประชารัฐทำมาตั้งแต่ต้น "คุณอุตตม" เป็นคนทำ แต่ก็ใช่ ถ้านายกฯ ไม่เซ็นก็ไม่ได้เป็นเรื่องของรัฐบาล แต่เสนอโดยพรรคพลังประชารัฐ

ผมทำให้ทุกเรื่องที่ประชาชนได้ประโยชน์ ทำให้เขากินดีอยู่ดี  โดยเฉพาะเรื่องน้ำ เรื่องที่ดิน เกิดมาอายุปูนนี้แล้ว ไม่ต้องการอะไรแล้ว แต่ตอนนี้เมื่อผมไม่ได้เป็นประธาน ก.ตร. (คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ) เรื่องยึดคืนโฉนด ก็ไม่ได้ทำ คนอื่นก็ไม่ทำ

ขณะที่การแก้ปัญหาหนี้รายย่อย ถ้าผมได้เข้ามา จะทำต่อ ช่วยกลุ่มเปราะบาง ผมจะทำทันทีทุกเรื่องที่ประชาชนจะอยู่ดีกินดีขึ้น เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

เปิดใจ “บิ๊กป้อม” ตั้งเป้า ส.ส. เกิน 70 สานฝัน สู่เส้นทางนายกฯ คนที่ 30

การจัดทัพ สู้ศึกเลือกตั้ง 66

“บิ๊กป้อม” ได้เล่าถึงการจัดทัพในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ต้องมีเรื่องให้ปวดขมับตั้งแต่การจัดอันดับปาร์ตี้ลิสต์ และการทับซ้อนพื้นที่ของ ส.ส.เขต พร้อมทั้งเปิดเผยถึงการลงปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 1 ของตนเองว่า เป็นมติของกรรมการบริหารพรรค ที่ต้องปฏิบัติตาม    

การเมืองมันปวดหัว เพราะมี 400 เขต เขตที่ตัวผู้สมัครทับซ้อนกัน ทับกันทุกเขต ต่างคนต่างไม่มีใครยอมกัน คุณไปหานักการเมืองที่ยอมกันมีไหม ผมก็ต้องดูว่าคนไหนทำประโยชน์ให้กับพรรคได้มากกว่ากัน ตามความคิดผม ผมก็บอกว่าคนที่ลงเขตแล้ว อีกคนไม่ได้ลง ก็ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์

ถ้าเรามาเป็นรัฐบาล ก็มาเอาตำแหน่งข้าราชการการเมืองที่มีเยอะแยะ เขาก็ยอม เพราะคำพูดผม ผมก็บอกอย่างนี้ ใครจะเอาปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ต้นๆ ผมบอกจะดูให้ แต่จะได้เบอร์อะไร เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรค ก็มีคนน้อยอกน้อยใจเป็นเรื่องธรรมดา

ส่วนการเป็นผู้สมัคร ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 1 ผมไม่ได้ตัดสินใจเลย ผมทำตามมติพรรค ผมเห็นว่า มีคณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการคัดสรรผู้สมัคร ผมปล่อยให้เขาพิจารณากันอย่างเสรี ให้ผมลง (ปาร์ตี้ลิสต์) ผมก็ลง”

เปิดใจ “บิ๊กป้อม” ตั้งเป้า ส.ส. เกิน 70 สานฝัน สู่เส้นทางนายกฯ คนที่ 30

มั่นใจ “พลังประชารัฐ” ได้ ส.ส. 70 คน

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ที่กระแสอนุรักษ์นิยม อ่อนกำลัง รวมถึงการแยกกันเดินของ “บิ๊กตู่” กับ “บิ๊กป้อม” ทำให้กูรูการเมืองหลายสำนักประเมินว่า “พลังประชารัฐ” น่าจะได้ ส.ส. ประมาณ 40 คน แต่ “บิ๊กป้อม” กลับมั่นใจว่า จะได้ ส.ส.มากกว่านั้น ด้วยพลังของทีมงานและบ้านใหญ่ ที่คาดว่า จะได้ยกจังหวัดในหลายพื้นที่

เท่าที่ผมดู "พลังประชารัฐ" จะได้ไม่น้อยกว่า 70 ที่นั่งแน่นอน ผมมั่นใจตัวบุคคลที่ลงเขต ผมดูว่าโปรไฟล์แต่ละคนเป็นอย่างไร ผมทำโพลทั้งจากสันติบาล และโพลของ กศน. ปาร์ตี้ลิสต์ประมาณ 10 คน ผมก็ส่งคนไปประเมินแต่ละเขต เราแบ่งพื้นที่รับผิดชอบเป็น 10 ภาค ประชุมกันทุกสัปดาห์

ผมมั่นใจได้เกิน 70 เพราะมีบ้านใหญ่อยู่กับเราเยอะที่สุด เพชรบูรณ์จะได้ยกจังหวัด กำแพงเพชร พะเยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร สระแก้ว ได้ยกจังหวัด ส่วนกาญจนบุรี ราชบุรี ได้จังหวัดละ 3 - 5 คน

เปิดใจ “บิ๊กป้อม” ตั้งเป้า ส.ส. เกิน 70 สานฝัน สู่เส้นทางนายกฯ คนที่ 30

ดีลทางการเมือง"เพื่อไทย" ,"รวมไทยสร้างชาติ" ,"ภูมิใจไทย" ?

อีกประเด็นหนี่งที่หลายคนข้องใจ คือดีลทางการเมือง ที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า "พรรคพลังประชารัฐ" ได้เปิดดีลกับพรรคการเมืองต่างๆ มากมาย ทั้งพรรคขั้วเดียวกัน และพรรคต่างขั้ว ไม่ว่าจะเป็น ดีลกับ "พรรครวมไทยสร้างชาติ" , "พรรคภูมิใจไทย" หรือแม้กระทั่ง "พรรคเพื่อไทย" ส่วนความจริงเป็นเช่นไร ไปฟังจากปากของ "บิ๊กป้อม" กันเลย

ผมไม่ได้ผูกขาใครไว้ ผมจะผูกไว้ทำไม คุยอะไรกันไม่ได้หรอก เพราะต้องดูตัวเลขหลังจากเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยมาคุยกัน ใครบอกว่าไปไหนไปกันกับ "ภูมิใจไทย" ดีลมันจะไปลงตัวอย่างไร ต้องไปถาม "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถ้าไปพูดอย่างนั้น

และเมื่อถามถึงกระแสข่าวสะพัด ข้อตกลงระหว่าง "พลังประชารัฐ" กับ "รวมไทยสร้างชาติ"หากใครได้ ส.ส. มากกว่า ก็ได้เป็นนายกฯ นั้น ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร ?

ก็แล้วแต่ "รวมไทยสร้างชาติ" จะเอาไง ใครได้มากกว่าคนนั้นก็เป็น ถ้า "รวมไทยสร้างชาติ" ได้มากกว่าก็เป็นแกน แต่ถ้า "พลังประชารัฐ" ได้มากกว่า ก็เป็นแกน

ผมไม่ประเมินถึงโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ผมขอดูตัวเลขก่อนนะ ใครได้เท่าไหร่ "เพื่อไทย" อาจจะได้ 310 อะไรอย่างนี้ ก็ว่าไป ผม 70 เหลืออีกน้อยนิดเดียว "ภูมิใจไทย" ได้ 90 จะไปหาที่ไหนมาได้

ผมทำของผมให้ดีที่สุด จะไปยุ่งกับพรรคอื่นทำไม "เพื่อไทย" ที่ว่ามีกระแส ผมจะไปดูพรรคอื่นทำไม พรรคทุกพรรคต้องดูตัวเองเป็นหลัก ทำตัวเองห้ามต่ำกว่า 70 ถ้าสูงสุดเกิน 100 สิ คนอื่นได้เท่าไหร่ก็ว่าไป

เพราะรัฐบาลเสียงข้างน้อย เป็นไปไม่ได้ เสียงของ ส.ส. ต้องไม่ต่ำกว่า 251 ถึงมี ส.ว.สนับสนุนก็ไม่ได้ มันออกกฎหมายอะไรก็ไม่ได้ แพ้หมด

ส่วนเรื่องการก้าวข้ามความขัดแย้งและการจับมือกับ "พรรคเพื่อไทย" คนละประเด็น ผมแค่อยากให้คนไทยรักกัน มีความสามัคคี เป็นหนึ่งเดียว นำพาประเทศไปด้วยกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อก้าวไปข้างหน้า เรื่องทางการเมืองเป็นอีกเรื่อง ใครจะคิดยังไงก็ว่ากันไป เป็นเรื่องของสภาต้องเลิกกีฬาสี

และการที่ “พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” มาร่วมงานกับ “พลังประชารัฐ” ท่านอยากมาช่วยผม แต่ในส่วนของ "พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี" ผมไม่ได้ติดต่อ แต่ท่านก็อยากจะมา ใครมาผมก็เปิดกว้าง

ที่มา “ประวิตร” ลั่น กวาด70 “ส.ส.” นั่ง “นายกฯ”