svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"อุ๊งอิ๊งค์" หวัง ปักธงชัยตั้งรัฐบาล "เศรษฐา" ลั่น พร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30

05 เมษายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"อุ๊งอิ๊งค์" ปักธง ต้องได้ตั้งรัฐบาล ดันนโยบายฟื้นศก.เติมรายได้ทุกครอบครัว 20,000 บาท ต่อเดือน ด้าน "เศรษฐา" ลั่น พร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30 "ชัยเกษม" ชูปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมรับใช้ปชช. ตั้ง สสร. แก้ รธน. ใครทำรัฐประหารเป็นกบฏ ไม่มีอายุความ

5 เมษายน 2566 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวช่วงหนึ่งในงานเปิดตัว “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ตอน One Team for all Thais : หนึ่งทีมเพื่อไทยทุกคน” โดยย้ำว่าเบอร์พรรคเพื่อไทย คือเบอร์ 29 และย้ำจุดยืนแลนด์สไลด์ เลือกเพื่อไทยให้ถล่มทลายชนะเสียง ส.ว. เพื่อส่งแคนดิเดต 1 ใน 3 ของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศ ภายใต้การบริหารงานร่วมกันเป็นทีมและนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่จะทวงคืนประชาธิปไตยและสร้างความมั่งคั่งให้กับประชาชนทุกคน

"อุ๊งอิ๊งค์" หวัง ปักธงชัยตั้งรัฐบาล "เศรษฐา" ลั่น พร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30

โดยนโยบายด้านนวัตกรรมและความเป็นอยู่มี 4 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่หนึ่ง พรรคเพื่อไทยจะนำเทคโนโลยีการเงิน อย่าง Blockchain ที่มีความคล้ายอินเตอร์เน็ต มาใช้เป็นเครื่องมือในกระจายสินค้าคนไทยไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร งานฝีมือ และธุรกิจขนาดย่อย ให้เงินจากทั่วโลกไหลเข้า "กระเป๋าเงินดิจิทัล" ของคนไทย ที่รัฐบาลจากพรรคเพื่อไทยจะมอบให้ประชาชนทุกคนที่อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป พร้อมเงินติดกระเป๋าไว้ใช้เบื้องต้นในระยะสั้น จำนวน 10,000 บาท สำหรับใช้จ่ายใกล้บ้านระยะทาง 4 กิโลเมตร ภายในเวลา 6 เดือน ก่อนเงินจากตลาดโลกจะไหลเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัลในระยะยาว

ซึ่งตอกย้ำจุดยืนที่พรรคเพื่อไทย มีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ หรือ Fintech ของอาเซียน เพราะในโลกยุคใหม่ การเงินไม่จำเป็นต้องอาศัยธนาคารขนาดใหญ่อีกต้องไป เราจึงต้องรู้เท่าทันและก้าวไปข้างหน้าก่อนใคร

"อุ๊งอิ๊งค์" หวัง ปักธงชัยตั้งรัฐบาล "เศรษฐา" ลั่น พร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30

ส่วนเรื่องที่สอง ย้ำนโยบาย Soft Power จากการยกตัวอย่างความสำเร็จในการผลักดัน Soft Power ของเกาหลีใต้ ให้เห็นว่าหากเปรียบกับประเทศไทยแล้วก็มีศักยภาพที่ไม่แพ้กัน เพียงแต่ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เปรียบเป็นเพชรที่รอการเจียระไน โดยนโยบาย 1 ครอบครัว  1 Soft Power (One Family One Soft Power : OFOS) ของพรรคเพื่อไทย จะเข้าไปค้นหาเพชรจากทุกครอบครัว โดยเปิดกว้างให้ทุกความสามารถได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกฝนทักษะทุกแขนง เพื่อสร้างรายได้ให้ได้อย่างน้อย 20,000 บาท/เดือน/คน พร้อมโครงการที่จะส่งเสริมให้กลุ่มคนที่มีทักษะได้ไปไกลระดับโลก เช่น โครงการครัวไทยสู่ครัวโลก มวยไทยสู่มวยโลก ศิลป์ไทยประทับใจโลก

และเรื่องที่สาม นโยบายระยะสั้นเพื่อรอการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้มั่นคงในระยะยาว พรรคเพื่อไทยจะสำรวจรายได้ทุกครัวเรือน ให้อยู่ในมาตรฐานรายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท/เดือน หากครอบครัวไหนมีน้อยกว่า 20,000 บาท/เดือน เราจะเติมให้ครบ 20,000 บาททันที เพื่อลดช่องว่างระหว่างรายได้ ไม่ต้องมีใครต้องทนทุกข์อยู่กับความยากจนอีก

"อุ๊งอิ๊งค์" หวัง ปักธงชัยตั้งรัฐบาล "เศรษฐา" ลั่น พร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30

น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า เรื่องที่สี่ คือขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้เป็น 600 บาท/วัน และเงินเดือนสำหรับวุฒิปริญญาตรีและข้าราชการเริ่มต้น 25,000  บาท ที่จะเป็นผลจากนโยบายการกระตุ้นจีดีพี ของพรรคเพื่อไทยให้เติบโตเฉลี่ยปีละ 5% โดยเห็นผลได้ทันทีในปี 2567 หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ค่าแรงขั้นต่ำจะเริ่มทยอยปรับขึ้นเป็น 400 บาท/วัน แน่นอน

ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญในชีวิตการเมืองของตน รู้สึกเป็นเกียรติและขอขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ไว้วางใจเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดต เพื่อร่วมชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนถัดไป ที่มีภารกิจสำคัญในการพลิกฟื้นประเทศไทยซบเซามานานมานาน

"อุ๊งอิ๊งค์" หวัง ปักธงชัยตั้งรัฐบาล "เศรษฐา" ลั่น พร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30

พร้อมเล่าย้อนถึงสาเหตุที่ผลักดันเรื่องความเท่าเทียมว่ามีเพื่อนหลายกลุ่ม ทางกลุ่มที่ได้ไปเที่ยว และบางกลุ่มที่ไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวเพราะฐานะด้อยกว่า จึงสงสัยว่าเพื่อนที่กอดคอกันแต่กลับมีโอกาสไม่เท่ากัน เรื่องนี้ถือเป็นความไม่เท่าเทียมที่จำได้ในชีวิต ทำให้ตลอดเวลา 30 ปีในภาคธุรกิจ ตนพยายามผลักดันเรื่องฐานะ ความเท่าเทียมในสังคม แต่ความหมายเท่าเทียมในจิตใจมันฝังอย่างรากลึก

โดยรัฐมีหน้าทีให้ความสำคัญ และผักดันปัญหาเชิงโครงสร้าง ทั้งเรื่องกฎหมายกระบวนการยุติธรรมและสิทธิเสรีภาพ ไม่ควรให้ประชาชนต้องมาต่อสู้ด้วยตัวเอง เรื่องเหล่านี้เป็นตัวจุดประกายที่ทำให้ตัดสินใจจะเข้ามาแก้ไขในบทบาทใหม่และวันนี้ได้มาถึงแล้ว ซึ่งในช่วงที่นายเศรษฐา พูดประโยคนี้เอง แบล็คกราวด์ด้านหลังได้ขึ้นข้อความว่า "ผมพร้อมแล้ว"

"อุ๊งอิ๊งค์" หวัง ปักธงชัยตั้งรัฐบาล "เศรษฐา" ลั่น พร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ขออาสาและขอโอกาสจากคนไทยทุกคนเลือกพรรคเพื่อไทยให้ไปจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้ตนเพื่อผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ทำความตั้งใจนี้ให้เป็นจริง ถึงแม้ว่าตนจะไม่ได้มีชีวิตอยู่จนเห็นภาพสุดท้ายว่าคนไทยเท่าเทียมกันทุกประการ แต่ตนจะทำทุกทางเพื่อให้ลูกหลานมีสังคมและชีวิตที่ดีกว่า

โดยขอพูดถึงสิ่งที่จะทำในฐานะผู้นำของประเทศไทยคนถัดไป ความตั้งใจข้อแรกต้นจะยกระดับเศรษฐกิจประเทศไทยทั้งประเทศ โดยการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ด้วยนโยบายดิจิตอลวอลเล็ต ขอเน้นย้ำคำว่า ทั่วถึงเพราะที่ผ่านมาการกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างผลประโยชน์ให้กับคนไม่กี่กลุ่มในประเทศตอกย้ำความเหลื่อมล้ำฐานะของคนในครัวเรือนและความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจภายใต้นโยบายของพรรคเพื่อไทย

โดยจะอาศัยเทคโนโลยี digital Wallet ด้วยการเติมเงินในกระเป๋าดิจิตอล 10,000 บาท ในมือถือทุกคน ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยสามารถใช้ได้ในรัศมี 4 กิโลเมตรจากที่อยู่ตามบัตรประชาชน และต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน ซึ่งนโยบายนี้จะทำให้เกิดการหมุนเวียนทำให้คนที่อยู่ในชุมชนขายของได้มากขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับประเทศ ซึ่งรัฐบาลจะได้การตอบแทนกลับมาในรูปแบบของภาษี

"อุ๊งอิ๊งค์" หวัง ปักธงชัยตั้งรัฐบาล "เศรษฐา" ลั่น พร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30

ส่วนนโยบายที่จะขับเคลื่อนทั้งการหาตลาดให้กับผู้ผลิตสินค้าในไทย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น หรือสุราพื้นบ้าน ให้สินค้าจากไทยเข้าถึงตลาดทั่วโลก ที่จะนำรายได้มหาศาลมาสู่ประชาชน โดยหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะมีการยกระดับการเจรจาทางการทูตเพื่อผลประโยชน์ของคนไทย ไม่ใช่แค่ด้านเศรษฐกิจแต่ยังรวมถึงสิทธิ์ฟรีวีซ่าของพาสปอร์ตไทยในอีกหลาย ๆ ประเทศ ด้วยเช่นกัน

พร้อมย้ำถึงความสำคัญในการเจรจาการทูตว่า นอกจากความอิสระของพาสปอร์ตไทยแล้วในอีกมุมหนึ่งยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้ามาใช้จ่าย เพิ่มเงินหมุนเวียนในประเทศ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยและเอกชนในต่างประเทศก็สำคัญ เพราะเพื่อไทยจะไปเจรจากับบริษัทต่างประเทศให้เลือกลงทุนที่ประเทศไทย เพิ่มตำแหน่งงาน เพิ่มรายได้ให้คนไทย

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงเรื่อง Soft Power ที่หลากหลายของคนไทย ต้องมีการผลักดันจากภาครัฐและสร้างพื้นที่รองรับการแสดง Soft Power เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงคอนเสิร์ต, งานศิลปิน, เทศกาลหนัง และอื่นๆ อีกมากมาย ให้เมืองไทยกลายเป็นหมุดหมายที่ทั่วโลกอยากเข้ามาจัดการแสดงที่ประเทศไทย

"อุ๊งอิ๊งค์" หวัง ปักธงชัยตั้งรัฐบาล "เศรษฐา" ลั่น พร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30

"รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทัดเทียมระดับโลก โดยประเทศไทยจะต้องเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศ ทางราง และทางเรือ ให้สามารถรองรับผู้คนและสินค้าให้ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขยายสนามบิน ขยายโครงข่ายรถไฟให้เชื่อมเหนือจรดใต้ และเพิ่มความสามารถของท่าเรือเชื่อมต่อ โดยที่พรรคเพื่อไทยจะยังไม่ละเลยความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ ที่ต้องบริหารจัดการให้เติบโตไปพร้อมกับประเทศได้ อย่าง การนำเทคโนโลยีมาช่วยบริหารพื้นที่ชลประทานอย่างเป็นระบบภายใต้การประสานงานของหน่วยงานรัฐที่ทำงานโดยมีประชาชนเป็นหัวใจหลัก" นายเศรษฐา ระบุ

ช่วงท้าย นายเศรษฐา กล่าวว่า ความตั้งใจทั้งหมดที่พูดมาทำได้จริง ผ่านนโยบายของพรรคเพื่อไทย ตนจะยกระดับครัวเรือนลดช่องว่างทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยมีที่ยืนบนเวทีโลกอีกครั้ง ความตั้งใจทั้งหมดต้องอาศัยประชาชนทั้งหมดช่วยกันเป็นกำลังเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนความตั้งใจนี้ให้เป็นจริง ในวันนี้ขอให้ทุกคนในที่นี้และอยู่ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นคนภาคกลางคนเหนือ คนใต้ คนอีสาน จะเป็นคนรวยคนด้อยโอกาส เป็นชาวนา ชาวไร่ นักธุรกิจ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หรือจะเป็นเด็กรุ่นใหม่ คนรุ่นเก่า คนอนุรักษ์นิยม คนเสรีนิยม คนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง คนเสื้อหลากสี พวกเราคือคนไทยเหมือนกัน

"อุ๊งอิ๊งค์" หวัง ปักธงชัยตั้งรัฐบาล "เศรษฐา" ลั่น พร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30

ซึ่งถ้ามีโอกาสได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะอุทิศเวลาทั้งหมดทำหน้าที่รับใช้ประชาชน ทำนโยบายให้เป็นจริง นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ประเทศ คืนศักดิ์ศรีคืนความมั่งคั่ง คืนความภาคภูมิใจให้กับคนไทย เพื่อส่งต่ออนาคตที่ดีให้กับลูกหลานของพวกเราทุกคน

ขณะที่ นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่เลือกตนอีกครั้ง รวมถึงทุกกำลังใจที่ประชาชนมอบให้ในวันนี้ โดยครั้งนี้ตนยังยืนอยู่บนหลักการที่สำคัญ คือหลักนิติรัฐและนิติธรรม ซึ่งจะนำมาสู่ชีวิตที่ดีของประชาชน ตนเป็นข้าราชการมาทั้งชีวิตถูกสอนเสมอมาให้ยึดมั่นในหลักการ ว่ากฎหมายคือเครื่องมือของรัฐในการ ควบคุมดำเนินกิจกรรมของคนในสังคม อำนวยความสะดวกให้คนในสังคม และเป็นเครื่องมือจำเป็นในการพัฒนาประเทศชาติ

"อุ๊งอิ๊งค์" หวัง ปักธงชัยตั้งรัฐบาล "เศรษฐา" ลั่น พร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30

โดยให้ท่านช่วยกันคิดว่าตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ประชาชนทุกคนจะเห็นว่าหลักนิติรัฐนิติธรรมของประเทศไทยนั้น แทบจะไม่หลงเหลืออะไรเลย ไร้ซึ่งศักดิ์ศรี ไร้ความชอบธรรม ไร้ความยุติธรรม รวมถึงหน่วยงานที่สำคัญในกระบวนการยุติธรรม ตำรวจ อัยการ และศาล แต่ 8 ปีที่ผ่านมา ตนมีความรู้สึกว่าหน่วยงานเหล่านี้บ่อยให้บุคคลากรในหน่วยงานของตนบางคน ทำงานโดยไม่มีประชาชนอยู่ในหัวใจ สร้างแต่อำนาจมืด กอบโกยผลประโยชน์ให้พรรคพวกตนเอง ไม่มองว่าประชาชนเป็นผู้เสียภาษีให้หน่วยงานเหล่านี้คงอยู่ได้ และทำหน้าที่อย่างยุติธรรม

โดยถ้าจะต้องยอมให้ประเทศไทยคงอยู่ต่อไปอย่างไร้ขื่อแป กฎหมายถูกผู้มีอำนาจครอบงำ รัฐบาลจงใจไปใช้อย่างผิดรูปผิดรอย เพื่อประโยชน์ของพรรคพวกตนเอง รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นเครื่องมือสำคัญที่ถูกออกแบบไว้ด้วยความคิดที่ไม่มีหัวใจเป็นประชาชนขอเพียงแต่ว่า ทำอย่างไรก็ตามให้สืบทอดอำนาจของตนและพรรคพวกต่อไปเรื่อย ๆ หากลองดูให้ลึกจะพบว่า การมีรัฐธรรมนูญเป็นเพียงการจัดฉาก เป็นสิ่งจอมปลอม ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน จึงเป็นตัวอย่างของวิกฤตร้ายแรง เช่น การมี ส.ว.ลากตั้ง 250 คน มีอำนาจกำหนดตัวนายกฯ พรรคเพื่อไทยไม่ยอมให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นอีกต่อไป

"อุ๊งอิ๊งค์" หวัง ปักธงชัยตั้งรัฐบาล "เศรษฐา" ลั่น พร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30

ดังนั้น ทันทีที่ประชาชนให้ความไว้วางใจให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง จะเร่งให้กระบวนการยุติธรรม คำนึงถึงหลักนิติรัฐและนิติธรรม บริหารโดยพรรคเพื่อไทย สร้างระบบที่ซื้อไม่ได้ เช่น บางคดีที่คนผิดไม่ได้รับโทษ ผู้ที่มีทรัพย์ก็ทำให้ความยุติธรรมนั้นเปลี่ยนแปลงไป เพราะดีบางคนในกระบวนการที่ถูกซื้อได้

นายชัยเกษม กล่าวต่อว่า เพื่อไทยเสนอใช้ระบบบล็อคเชน เพื่อให้ราชการสามารถตรวจสอบได้ และลดการคอรัปชั่น การชำระเงินต้องดำเนินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ลดการใช้เงินสดเพื่อป้องกันการทุจริต เสนอ Central Bank Digital Currency เพิ่มความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง สนับสนุนการทำ Open Government ให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้าถึงข้อมูลของรัฐได้อย่างสะดวกขึ้น

นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังมีแผนจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เพื่อให้เป็นประโยชน์ คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพประชาชน แม้เป็นเรื่องที่เข้าใจยาก แต่ประชาชนคงสัมผัสได้ว่าเวลานี้รัฐธรรมนูญไม่ได้สร้างประโยชน์ให้ประชาชนเท่าที่ควร แต่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะยังคงระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอยู่ โดยกระบวนการจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วผ่านการออกเสียงลงประชามติ เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นของประชาชนโดยแท้จริง

"อุ๊งอิ๊งค์" หวัง ปักธงชัยตั้งรัฐบาล "เศรษฐา" ลั่น พร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30

"ผมเคยเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับหนึ่ง ที่ทำให้คนในระบอบรัฐประหาร หมายหัวผมว่าอย่าให้คนนี้โตขึ้นมาได้ เพราะจะเป็นภัยต่อพวกเขา เพราะผมเสนอแก้รัฐธรรมนูญป้องกันการรัฐประหาร โดยระบุไว้ ว่าการรัฐประหาร มีความผิดฐานเป็นกบฏ ... คดีไม่มีอายุความ ถึงแม้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกฉีกไป แต่ให้ถือเป็นประเพณีปฏิบัติ ยังสามารถนำตัวมาลงโทษได้" นายชัยเกษม กล่าว 

logoline