31 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร นำคลิปและเนื้อหาการปราศรัยของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566 ที่จังหวัดนครปฐม
ยื่นเรื่องต่อกกต.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและบทกำหนดโทษตามมาตรา 158 และมาตรา 159 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 20 21 และ 22 ที่มีผลใช้บังคับเนื่องจากมีการยุบสภา ประกาศวันเลือกตั้งใหม่แล้ว
โดยการกระทำของนายณัฐวุฒิ มีการกล่าวหาแบบรื่นเริงร้องเพลงบนเวที ข้อความว่า “ลุงตู่ ลุงตู่อยู่ไหน ลุงตู่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่ในวงจรอุบาทว์” “เลือกลุงตู่ เลือกลุงตู่ ไม่เชื่อเลือกดู จะชิบหายตลอดชาติ” ซึ่งเป็นการใส่ร้าย โกหก ทำให้เกิดคะแนนเสียแก่ผู้สมัครผู้หนึ่งผู้ใด เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปัจจุบันเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ
ดังนั้นจึงเห็นว่าการกระทำของ นายณัฐวุฒิ ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ปล่อยให้ปราศรัยบนเวทีมาโดยตลอด และทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ทั้งนี้หากกรรมการบริหารพรรคเห็นด้วย กับที่นายณัฐวุฒิปราศรัย เท่ากับยินยอมพร้อมใจให้ดำเนินการ ซึ่งสามารถนำไปสู่กระบวนการพิจารณาถึงขั้นยุบพรรคการเมืองตามกฏหมายลูก ว่าด้วยพรรคการเมืองได้
นายสนธิญา กล่าวยอมรับว่า เป็นผู้สนับสนุนและศรัทธาในตัวพล.อ.ประยุทธ์ แต่การมายื่นเรื่องร้องเรียนครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เพราะเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนดีซื่อสัตย์สุจริตและมีผลงาน เช่นเดียวกับที่ตนเคยยื่นเรื่องให้ตรวจสอบกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ที่บุกบ้านพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้เตรียมนำผู้เสียหายเดินทางไปยื่นหนังสือถึง ผู้บริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้พิจารณาทบทวนเรื่องการส่งตัวผู้สมัครส.ส.รายหนึ่ง ซึ่ง เคยเป็นนักการเมืองท้องถิ่นแต่ไปมีส่วนเกี่ยวพันกับปัญหาที่ดินของชาวบ้าน