สมศักดิ์ ลั่น ไม่เคยเป็นฝ่ายค้านขณะเป็นส.ส.ให้ สุริยะ ตัดสินใจย้ายหรือไม่

7 มีนาคม 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะแกนนำกลุ่มสามมิตร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความชัดเจนหลังจากมีกระแสว่าจะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย ว่า ตนได้มอบหมายให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะแกนนำกลุ่มสามมิตรดำเนินการ เพราะระยะเวลาในการยุบสภายังเหลือหากนับวันนี้ก็เหลือ 10 กว่าวัน คงตัดสินใจอะไรกันได้แล้ว สุดท้ายจะตัดสินใจอย่างไร ตอนนี้ยกให้นายสุริยะตัดสินใจ จะไปไหนก็ไปด้วยกัน

ส่วนโอกาสที่จะย้ายมีมากน้อยแค่ไหน เพราะยังดูลังเล นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่หรอก แต่เราต้องรับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่ที่เราได้รับมอบหมาย อย่างตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีงานอะไรที่ค้างก็ต้องทำให้เสร็จ ทั้งเรื่องกฎหมายปราบปรามการทรมานอุ้มหาย ที่ยังต้องเข้าครม.และเข้าที่ประชุมสภา และอีกหลายเรื่อง

รวมถึงงานที่ร่วมกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเรื่อง “เฮาส์อาร์เรสท์” ที่พักของผู้ต้องหาที่คดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด ให้ศาลสามารถสั่งให้อยู่ในสถานที่บางสถานที่ได้ ซึ่งจะต้องทำให้เสร็จในสัปดาห์หน้า และอาจนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ทันแบบที่รับปากไว้ จากนั้นก็หมดหน้าที่ หมดงานแล้วเราจะไปไหนก็ได้

เมื่อถามว่าหากเคลียร์งานเสร็จจะย้ายพรรคเลยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า งานเสร็จจะไปก็ได้หรือไม่ไปก็ได้ ส่วนสมาชิกกลุ่มสามมิตร จะฝากเลี้ยงไว้กับพรรคพลังประชารัฐหรือจะไปด้วยกันนั้น นายสมศักดิ์ ชี้แจงว่า ทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว บางคนย้ายไปอยู่บ้านใหม่มีข่าวว่าอยากย้ายกลับก็มาก ตอนนี้การเมืองช่วงวันเวลาสุดท้ายใกล้เข้ามาถึง คนที่ย้ายเป็นกลุ่มก้อนออกไป ดูบรรยากาศแล้วก็ไม่ค่อยสบายใจ เห็นจากเรื่องทั่วไปที่เกิดขึ้น เพราะบรรยากาศการเมืองมันไปเร็ว บางทีไปแล้วไม่ใช่ก็ต้องคิดกลับ แต่คนที่คิดจะกลับก็กลับไม่ได้เพราะที่เต็มแล้วต้องขยับอย่างไรเพื่อให้อยู่ได้

เมื่อถามว่าหลังจบการเลือกตั้ง กลุ่มสามมิตรจะมีโอกาสกลับมารวมตัวกันได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า เป็นบรรยากาศที่ต้องดูถึงตอนนั้น เพราะการจัดตั้งรัฐบาลยังอีกนาน หากเรามีโอกาสอยู่ตรงนั้น สามารถช่วยผู้คนได้ เพราะว่าเรารู้จักคน รู้จักกลุ่ม ก็สามารถเหนี่ยวนำทำให้การพูดคุยกันง่ายขึ้น

เมื่อถามว่า การเป็นฝ่ายรัฐบาลดีกว่าฝ่ายค้านใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถูกต้อง ทุกคนต้องการเป็นรัฐบาล แต่เมื่อเป็นไม่ได้ก็ต้องทำตามอุดมการณ์ ซึ่งตนชอบเป็นรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้าน ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าพรรคที่จะไปจะได้เป็นรัฐบาล ตนตอบไม่ได้ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือไม่ แต่ว่าตนก็ไม่เคยอยู่ฝ่ายค้านในขณะที่เป็นส.ส.

เมื่อถามย้ำว่าสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนเรื่องการย้ายพรรคหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า แล้วแต่นายสุริยะ นอกจากนี้ที่มีกระแสข่าวว่านายสมศักดิ์และนายสุริยะ ได้เข้าไปลาและคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อที่จะย้ายพรรค นายสมศักดิ์ ย้ำคำเดิมว่า แล้วแต่นายสุริยะ