“ก้าวไกล” พร้อม ลต. เดินหน้า ปิดสวิตช์ 3 ป. ไล่พรรค คสช.ออกไป

29 มกราคม 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกฎหมายลูก 2 ฉบับที่ได้รับโปรดเกล้าฯ เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป นายพิธา กล่าวว่า หลังจากที่กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.สและกฎหมายพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้ พรรคก็จะเดินหน้าเต็มสูบแน่นอน ซึ่งได้เตรียมการไว้ในเรื่องของข้อบังคับพรรค การเตรียมความชัดเจนในเรื่องเขตเลือกตั้ง

ซึ่ง กกต.คงจะไม่มีข้ออ้าง  การคำนวณค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ทั้ง ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ จากการเปลี่ยน ส.ส.เขตจาก 350 มาเป็น 400 เขต การดำเนินการในขั้นตอน Primary สรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งพรรคพร้อมที่จะเดินหน้าเต็มสูบสู่การเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า มีการประเมินการยุบสภาจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่หลังจากกฎหมายลูก 2 ฉบับมีผลบังคับใช้ นายพิธา กล่าวว่า ปกติคนที่จะยุบสภาได้ ก็คือคนที่มีอำนาจ และจะยุบก็ต่อเมื่อได้เปรียบเช่น ได้เปรียบในเรื่องของรู้ว่าเขตเลือกตั้งเป็นอย่างไร รู้ว่าจะเอาข้าราชการชั้นสูงตรงไหนเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบ รู้ว่าได้รับงบประมาณ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งและรู้ว่าจะได้ ส.ส.เกิน 25 คน เพื่อที่จะสามารถเสนอรายชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้

"ไม่รู้ว่าทางฝั่ง พล.อ.ประยุทธ์ มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการเตรียมตัวพรรคของเขา เพราะเมื่อวานดูการปราศรัยที่ จ.ชุมพร ก็ยังดูเคอะเขินอยู่ ก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาได้ทันหรือไม่ " นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวต่อว่า พรรคก้าวไกลเตรียมพร้อมเข้าสู่โหมดเลือกตั้งก่อนที่กฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับจะออกมา  ซึ่งตรงตามที่พรรคคาดคิดไว้ทุกอย่าง ข้อบังคับพรรคก็แก้ไข 2-3 ชั่วโมง ก่อนที่กฎหมายลูกจะประกาศ ถ้ายุบสภาวันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องพร้อมแล้ว

ส่วนผลโพลสำรวจประชาชนของนิด้าโพลล์ พบว่า 2 ป.ไม่ได้แยกกันเดิน นายพิธา มองว่าการแยกเดินทำให้โฟกัสของการทำงานหายไป พอมีการทะเลาะเบาะแว้งก็มีการแย่งกันว่า ส.ส.จะไปสังกัดพรรคไหน ตอนกังวลว่าสมาธิในการทำงานทั้งคนที่เป็นหัวหน้าพรรค นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรี จะทำงานกันอย่างไร กังวลว่าจะไม่มีสมาธิทำงานให้กับพี่น้องประชาชน และ ส.ส.ก็ไม่มีสมาธิในการลงพื้นที่

เมื่อถามว่าพร้อมเป็นฝ่ายค้านจั บมือร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ และรวมไทยสร้างชาติหรือไม่ หากพรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐและภูมิใจไทยในการจัดตั้งรัฐบาล นายพิธา กล่าวว่า สิ่งที่ยืนยันได้ขณะนี้มี 2 ข้อ คือพรรคร่วมฝ่ายค้าน คือชุดคำตอบที่ดีที่สุดในการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าพรรคร่วมฝ่ายค้านไปอยู่ใน ครม. ตนเองก็จะเห็นหน้าตาว่าใครจะไปอยู่กระทรวงไหน แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนตามความถนัด ถ้าประชาชนลองจินตนาการจะเห็นได้ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เหมาะสมกับตำแหน่งไหน

“อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญคือการปิดสวิตช์ 3 ป. และเอาพรรคของ คสช.ออกไป และรีบทำรัฐธรรมนูญใหม่ให้ได้ภายใน 100 วัน  ออกนโยบายดีๆ ของพรรคร่วมฝ่ายค้านเข้าไปแก้ไขปัญหา เชื่อว่าก็จะสามารถทำให้ประเทศพลิกได้”