สืบเนื่องจากมติ ของ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือลดค่าไฟฟ้าประจำเดือนมกราคม-เมษายน 2566 สำหรับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือ ค่าเอฟที (Ft) ซึ่งเรียกเก็บที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยกลุ่มเปราะบาง ที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ประมาณ 19.66 ล้านราย วงเงินช่วยเหลือประมาณ 7,500 ล้านบาท ประกอบด้วย
การใช้ไฟฟ้าที่ใช้ตั้งแต่ 1-150 หน่วย ส่วนลดค่าไฟฟ้า 92.04 สตางค์ต่อหน่วย
การใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ 151-300 หน่วย ส่วนลดค่าไฟฟ้า 67.04 สตางค์ต่อหน่วย
หากลงลึกในรายละเอียดจะพบว่า ในความจริงแล้วมาตรการดังกล่าวน่าจะเป็นการปรับขึ้นค่าไฟในส่วนของกลุ่มเปราะบางมากกว่า
เช็กค่าไฟฟ้า ม.ค.-เม.ย.2566 กลุ่มเปราะบางจ่ายเพิ่มกี่บาท
แนวทางดังกล่าวเป็นแนวทางที่ 3 จาก 4 แนวทางที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เสนอ ซึ่งประกอบด้วย
ล่าสุดในวันนี้ (24 มกราคม 2566) ทางด้าน นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ในประเภทบ้านผู้อยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม - เมษายน 2566
เหตุผลของการช่วยเหลือค่าไฟฟ้ารอบนี้
ที่ผ่านมามีการพิจารณสถานการณ์ต่าง ๆ พบว่าระดับราคาพลังงานในตลาดโลกยังมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาสินค้า และบริการในประเทศมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุนการผลิต รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชน ประกอบกับมาตรการการบรรเทาค่าไฟฟ้าเดิมได้สิ้นสุดระยะลงเมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
สำหรับการดำเนินมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าจะมีกรอบวงเงิน 7,500 ล้านบาท โดยจะใช้เงินจาก 2 ส่วน คือ งบกลางฯ ปี 2566 จำนวน 3,200 ล้านบาท และเงินสนับสนุนจาก บมจ.ปตท. อีก 4,300 ล้านบาท ทำให้มีส่วนลดค่าไฟกับผู้อยู่อาศัย 2 กลุ่ม ประกอบด้วย
สำหรับครัวเรือนที่ได้รับลดค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ในพื้นที่ของ กฟน. และกฟภ. ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของ กฟผ. และผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ได้รับการช่วยเหลือรวมทั้งสิ้นประมาณ 19.66 ล้านราย ใช้งบประมาณรวมในกรอบไม่เกิน 7,500 ล้านบาทหรือประมาณ 1,868.06 ล้านบาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 4 เดือน