svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ORIGINAL

Did you know? ควันจากการเผาในเทศกาลตรุษจีนอันตรายขนาดไหน?

01 กุมภาพันธ์ 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตรุษจีนเทศกาลสำคัญของบรรดาคนเชื้อสายจีน ที่เป็นทั้งการระลึกถึงบรรพบุรุษ งานรวมญาติ งานเลี้ยงฉลองขึ้นปีใหม่ ท่ามกลางความชื่นมื่นนี้เองมีภัยเงียบซ่อนเร้นแฝงตัวในวัฒนธรรมมายาวนาน นั่นคือการควันธูปและการเผากระดาษเงินกระดาษทองที่มีอันตรายซ่อนเร้นอยู่

          ตรุษจีนหนึ่งในเทศกาลสำคัญของคนเชื้อสายจีนในการกราบไหว้บรรพบุรุษและเทพเจ้า เฉลิมฉลองวันสิ้นปีข้ามพ้นเข้าสู่ฟ้าใหม่ รวมตัวญาติพี่น้องในตระกูลพร้อมหน้า รวมถึงการได้รับหรือต้องแจกอั่งเปาลูกหลาน ภาพจำของเทศกาลปีใหม่ที่ใครหลายคนต่างมีไม่เหมือนกัน

 

           แค่หนึ่งในสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการจุดธูปเทียนเพื่อกราบไหว้บูชา รวมถึงการเผากระดาษเงินกระดาษทอง ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่เราพบเห็นจนชินตา แต่ทราบหรือไม่ว่าการจุดของเหล่านี้ทำให้เกิดควันซึ่งหลายชนิดล้วนเป็นพิษ จนแทนที่จะได้โชคลาภมั่งมีศรีสุขแต่อาจกลายเป็นการเจ็บป่วยได้ไม่ยาก
Did you know? ควันจากการเผาในเทศกาลตรุษจีนอันตรายขนาดไหน? สารพิษซ่อนเร้นจากพิธีกรรมการเผาไหม้ในเทศกาลตรุษจีน
          ถ้าจะพูดถึงตรุษจีนสิ่งแรกที่เราคิดถึงเป็นอย่างแรกคือการจุดธูป สำหรับธูปนั้นแท้จริงมีประวัติยาวนานอาจนับได้ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณเลยทีเดียว โดยมีความเชื่อว่าควันจากธูปมีขึ้นเพื่อสักการะเทพเจ้า บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถูกใช้งานกว้างขวางในหลากหลายความเชื่อโดยเฉพาะในแถบเอเชีย รวมถึงบางครั้งมีการทำธูปหอมเพื่อนำมาใช้ในการบำบัดรักษาโรค

 

          แน่นอนว่าในปัจจุบันเองทุกสิ่งเปลี่ยนไปสมัยก่อนผลกระทบที่เกิดจากธูปมีไม่มาก จากการที่สุขอนามัยและการแพทย์ในยุคก่อนไม่ดีนักจึงไม่มีผลการศึกษาระยะยาว อีกทั้งขาดการศึกษาพิษภัยจากธูปหรือสิ่งที่อยู่ในวิถีชีวิตของเราอย่างจริงจัง เป็นสาเหตุให้เราค้นพบพิษภัยจากควันธูปที่เผาไหม้กันมาไม่นาน

 

          จากการตรวจสอบของกระทรวงสาธารณสุข ธูปที่ใช้งานในหีบห่อปัจจุบันหลายชนิดเมื่อเกิดการเผาไหม้ ควันที่ปล่อยออกมามีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับ ควันบุหรี่ และ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ อุดมไปด้วยสารพิษหลายชนิด ตั้งแต่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ มีเทน ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ ฯลฯ
 

          นอกจากธูปที่ถูกจุดในเทศกาลตรุษจีนแล้ว อีกสิ่งที่มีมากไม่แพ้กันคือการเผากระดาษเงินกระดาษทองเพื่อโชคลาภและความร่ำรวย แต่แท้จริงอันตรายจากการเผาสิ่งนี้ไม่ได้เบาไปกว่าควันธูปที่จุดกัน เพราะหลายครั้งส่วนประกอบผสมในกระดาษเหล่านี้คือโลหะหนักที่เป็นอันตราย

 

          สารที่ตรวจพบมากในกระดาษเงินกระดาษทองทั้งหลายคือโลหะหนักและสารเคลือบ สารบางชนิดทำให้มีสีสันสวยงาม ความมันวาว ให้กลายเป็นสีเงินหรือทองดูล้ำค่า แต่เมื่อเผาไหม้สารที่ถูกปล่อยออกมามีตั้งแต่ นิกเกิล, ตะกั่ว, แมงกานีส, โครเมี่ยม ฯลฯ ล้วนเป็นพิษกับร่างกายของคนเราทั้งสิ้น

 

          สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอันตรายกับร่างกายในแบบที่บรรพบุรุษที่ผ่านมาของเราไม่เคยบอกหรือรับรู้กันมาก่อน
 
Did you know? ควันจากการเผาในเทศกาลตรุษจีนอันตรายขนาดไหน? อันตรายจากสารที่เกิดจากการเผาไหม้ธูปและกระดาษเงินกระดาษทอง ภัยเงียบที่ไม่อาจมองข้าม
          การเผาไหม้ควันธูปทำให้เกิดสารพิษมากมายไม่ต่างจากการสูบบุหรี่หรือท่อไอเสียรถยนต์ ล้วนมีความเป็นพิษกับร่างกายไม่สามารถสูดดมได้เป็นระยะเวลานาน สร้างผลกระทบกับร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาวขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน

 

          นอกจากนี้ควันธูปยังมีสารก่อมะเร็งอันตรายอีกหลายชนิดที่เป็นพิษต่อร่างกายอย่างมาก เช่น
          - สารเบนโซเอไพรีน(Benzo (a) pyrene) ถือเป็นสารอันครายที่ก่อนให้เกิดมะเร็งผิวหนัง มะเร็งปอด ไปจนถึงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
          - สารเบนซีน(Benzene) อีกหนึ่งต้นตอของมะเร็งเม็ดเลือดขาว
          - สารบิวทาไดอีน(Butadiene) เป็นสารที่ทำให้เกิดมะเร็งในเม็ดเลือด

 

          โดยนักวิจัยไทยพบว่า ในสถานที่ที่มีการจุดธูปต่อเนื่อง เช่น วัด ศาลเจ้า หรือโรงทาน จะมีสารเบนโซเอไพรีนสูงกว่าปกติ 63 เท่า อีกทั้งคนทำงานในวัดมีสารก่อมะเร็งในเลือดและปัสสาวะสูงกว่าคนทั่วไป 4 เท่า ซึ่งอาจนำไปสู่มะเร็งหลากหลายชนิดได้ในอนาคต

          เช่นเดียวกับสารที่เกิดการเผาไหม้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองตาและจมูก อาจนำไปสู่การอักเสบของเยื่อบุตา แต่ที่มากกว่าคือทางเดินหายใจที่นอกจากอาการ ไอ ระคายคอ หายใจลำบาก ในกรณีร้ายแรงอาจถึงขั้นหมดสติ นอกจากนี้ยังอาจทำให้เป็นปัญหาทางเดินหายใจในระยะยาวจนอาจลุกลามไปถึงมะเร็งปอดได้เลยทีเดียว

 

          ส่วนสารโลหะหนักในกระดาษเงินกระดาษทอง คือสารชนิดเดียวกับที่พบจากโรงงานอุตสาหกรรมหนักทั้งหลาย ที่หากสูดเข้าไปสะสมเป็นเวลานานจะทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงทั้ง เด็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัว

 

          โดยอันตรายที่เกิดขึ้นเป็นไปได้ตั้งแต่ ผลกระทบต่อสมองและการพัฒนาในเด็กเล็ก, อาการโลหิตจาง เวียนศีรษะ ชักกระตุก หมดสติ จนอาจทำให้ไตวายในผู้สูงอายุ,  ผลกระทบต่อพัฒนาการลูกในท้องของสตรี ไปจนถึงอาการในระบบทางเดินหายใจ ตั้งแต่ภูมิแพ้ หอบหืน ถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง จนถึงโรคหัวใจ จึงเป็นสิ่งอันตรายควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยง

 

          นอกจากประเด็นด้านสุขภาพแล้วอีกส่วนที่มีความสำคัญไม่แพ้นกันคือประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม เขม่าหรือเถ้าที่เกิดภายหลังการเผาไหม้มีโลหะหนักซึ่งเป็นสารพิษความอันตรายสูง จำเป็นต้องจัดการอย่างเป็นระบบและรัดกุม ต้องปฏิบัติเป็นขยะมลพิษ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟุ้งกระจายไปในอากาศ แหล่งน้ำ จนถึงอาหาร

 

          ดังนั้นก่อนการเผาในแต่ละครั้งถ้าจะให้ดีระมัดระวังตัว สิ่งใดที่สามารถเลี่ยงใช้งานได้ด้วยวิธีอื่นก็ขอให้เลี่ยง ใช้งานอุปกรณ์ทดแทนอย่างธูปไฟฟ้า ลดการจุดธูปรวมถึงการเผาลง หรือหากจำเป็นต้องกระทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพต่อตัวเราและคนรอบข้าง เพื่อให้นี่เป็นเทศกาลรื่นเริงที่ทุกคนสามารถฉลองได้โดยมีความสุข

--------------------

ที่มา

logoline