
KEY
POINTS
แม้ในยุคพรีเมียร์ลีกจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่มีการแข่งขันลีกสูงสุดของอังกฤษเพียงนัดเดียวในวันบ็อกซิ่งเดย์ แต่ก็เป็นเกมที่คอบอลไม่ควรพลาด เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด คืนนี้ เวลา 03.00 น.
สถิติในอดีตดูจะเข้าข้าง “ปีศาจแดง” อย่างชัดเจน เพราะไม่มีทีมใดคว้าชัยในพรีเมียร์ลีกวันที่ 26 ธันวาคม ได้มากกว่าแมนฯ ยูไนเต็ด (22 นัด) ขณะที่ “สาลิกาดง” เป็นหนึ่งในทีมที่แพ้มากที่สุดในวันดังกล่าวถึง 16 นัด อย่างไรก็ตาม ฟอร์มและสถานการณ์ปัจจุบันบ่งชี้ว่า ประวัติศาสตร์อาจไม่มีความหมายมากนักสำหรับการดวลกันในเกมนี้
บรรยากาศหลังคริสต์มาสฝั่งสีแดงของแมนเชสเตอร์หม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากพ่าย แอสตัน วิลล่า 1-2 ในเกมล่าสุด จากสองประตูสุดสวยของ มอร์แกน โรเจอร์ส อดีตแข้งเยาวชนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งยิงได้ก่อนและหลังประตูตีเสมอของ มาเตอุส คุนญ่า
ความพ่ายแพ้นัดดังกล่าวทำให้ลูกทีมของ รูเบน อโมริม หยุดสถิติไม่แพ้ใครไว้ที่ 4 เกม และนับเป็นความปราชัยเพียงครั้งที่สองนับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม แม้ผลการแข่งขันจะสร้างความผิดหวังให้แฟนบอล แต่ข่าวร้ายยิ่งกว่าคือการบาดเจ็บแฮมสตริงของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีมคนสำคัญ
นับตั้งแต่ฤดูกาล 2022-23 เป็นต้นมา แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกโดยไม่มีบรูโน่เป็นตัวจริงเพียง 7 นัด และไม่สามารถคว้าชัยได้เลย แพ้ถึง 6 นัด เสมอ 1 นัด สะท้อนถึงความสำคัญของมิดฟิลด์โปรตุเกสรายนี้อย่างชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้น ปีศาจแดงยังไม่ชนะใครในเกมเหย้าพรีเมียร์ลีกตลอด 3 นัดหลังสุด และไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้ถึง 10 เกมติดต่อกัน นับตั้งแต่เอาชนะซันเดอร์แลนด์เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม
ฝั่ง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แม้จะยังมีปัญหาเรื่องความสม่ำเสมอ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในเกมล่าสุดที่เสมอ เชลซี 2-2 โดย นิค โวลเทอมาเดอ กองหน้าร่างยักษ์ชาวเยอรมัน ยิงสองประตูอย่างรวดเร็วในครึ่งแรก ก่อนที่ทีมจะเสียสมาธิจนโดนตีเสมออีกครั้ง ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดซ้ำหลายหนในฤดูกาลนี้
ปัจจุบัน “สาลิกาดง” มีแต้มตามหลังแมนฯ ยูไนเต็ดอยู่ 3 คะแนน และรั้งอันดับต่ำกว่าถึง 4 อันดับในตาราง โดยสถิติฤดูกาลนี้สะท้อนความแกว่งชัดเจน ชนะ 6 แพ้ 6 เสมอ 5 นัด
แม้เกมรับที่เคยเป็นจุดแข็งภายใต้การคุมทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว จะดูอ่อนลง หลังเสียประตูต่อเนื่องมาแล้ว 10 นัดติดต่อกัน แต่สถิตินอกบ้านยังพอมีมุมบวก เพราะนิวคาสเซิลเสียเพียง 10 ประตูในเกมเยือน ซึ่งน้อยกว่าเกือบทุกทีมในลีก ยกเว้นอาร์เซนอลและคริสตัล พาเลซ
ที่สำคัญ เกือบครบหนึ่งปีพอดีกับวันที่ฮาวเคยพานิวคาสเซิลบุกชนะที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด 2-0 และเป็นส่วนหนึ่งของการเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดได้ทั้งไป-กลับในฤดูกาลที่แล้ว
แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่มี บรูโน แฟร์นันด์ส ที่ต้องพักหลายเกมจากอาการบาดเจ็บแฮมสตริง ขณะที่ตัวแทนตามธรรมชาติอย่าง ค็อบบี้ เมนู ก็เจ็บน่องจากการซ้อมและหมดสิทธิ์ลงสนามเช่นกัน
คาดว่า กาเซมิโร่ ที่พ้นโทษแบนจะถูกส่งลงแทนในแดนกลาง ส่วน ลิซานโดร มาร์ติเนซ อาจได้รับโอกาสออกสตาร์ต หลังทำผลงานน่าประทับใจจากการลงมาเป็นตัวสำรองในเกมล่าสุด แทนที่ มานูเอล อูการ์เต้ ที่ฟอร์มไม่โดดเด่น
ขณะเดียวกัน มัทไธส์ เดอ ลิกต์ และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ยังไม่หายเจ็บ ส่วน ไบรอัน เอ็มเบอโม่, อาหมัด ดิยัลโล่ และ นุสแซร์ มาซราวี ติดภารกิจรับใช้ชาติในศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์
ทางฝั่งนิวคาสเซิล เอ็ดดี้ ฮาว อาจได้ข่าวดีเล็กน้อย เมื่อ นิค โป๊ป ผู้รักษาประตูมือหนึ่งมีลุ้นกลับมาลงสนาม หลังเจ็บโคนขาหนีบ โดยอาจเบียด แอรอน แรมส์เดล กลับไปเป็นตัวสำรอง
อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ยังคงเป็นแนวรับที่บาดเจ็บระนาว ไม่ว่าจะเป็น แดน เบิร์น, ติโน่ ลิฟราเมนโต้, คีแรน ทริปเปียร์, เอมิล คราฟธ์, สเวน บอตมัน และ จามาล ลาสเซลส์ ทำให้ดาวรุ่งอย่าง ลูอิส ไมลีย์ ต้องรับบทแบ็กขวาจำเป็นต่อไป