ประเดิม ฮัดสัน! "ช้างศึก" พร้อมจัดทัพใหญ่ดวล "สิงคโปร์" อุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์

ค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน 2568 เวลา 19.30 น. นี้ ณ ธรรมศาสตร์ สเตเดียม จะเป็นนัดสำคัญของ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย เมื่อเตรียมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ทีมชาติสิงคโปร์ ในเกม อุ่นเครื่อง ตามปฏิทิน ฟีฟ่าเดย์ โดยนี่คือการประเดิมคุมทีมนัดแรกของ แอนโธนี ฮัดสัน หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่

ทีมชาติไทย: ผสมผสานดาวรุ่งและตัวเก๋า

ทีมชาติไทย (อันดับ 96 ของโลก) ภายใต้การนำของ ฮัดสัน ที่เข้ามารับตำแหน่งแทน มาซาทาดะ อิชิอิ ได้มีการเรียกผู้เล่นชุดใหญ่กลับมาสร้างความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการกลับมาของแกนหลักที่ห่างหายไปในยุคก่อนอย่าง ธีราทร บุญมาทัน และ สารัช อยู่เย็น

ขณะเดียวกันก็มีแข้งตัวหลักที่ยังคงเป็นกำลังสำคัญ เช่น ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ, และ ศุภชัย ใจเด็ด และที่น่าจับตาที่สุดคือการลุ้นลงสนามของ จู๊ด ซุ่นทรัพย์ เบลล์ กองหน้าลูกครึ่งที่ติดทีมชาติเป็นครั้งแรก

คาดว่า ฮัดสัน จะจัดทัพเต็มที่เพื่อทดสอบแท็กติกและเรียกขวัญกำลังใจของทีม ก่อนมีคิวไปเยือน ศรีลังกา ในศึก เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก

คาดการณ์ 11 ตัวจริง ทีมชาติไทย (4-2-3-1): ปฏิวัติ คำไหม (GK); นิโคลัส มิคเกลสัน, ณัฐพงษ์ สายริยา, พรรษา เหมวิบูลย์, เควิน ดีรมรัมย์; พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, ธีราทร บุญมาทัน; เสกสรรค์ ราตรี, ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ; ศุภชัย ใจเด็ด

สิงคโปร์: ฟอร์มดีและแข้งไทยลีกเพียบ

ทีมชาติสิงคโปร์ (อันดับ 155 ของโลก) ภายใต้การนำของ เกวิน ลี มีฟอร์มที่พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดย 4 เกมหลังสุดชนะ 2 เสมอ 1 แพ้เพียง 1 นัดเท่านั้น

ผู้เล่นชุดนี้มาแบบฟูลทีม โดยมี 3 ผู้เล่นหลักที่ค้าแข้งอยู่ใน ไทยลีก นำโดย ไรฮาน สจ๊วร์ต, อิลฮาน ฟานดี และ อิคซาน ฟานดี รวมถึง ชาวัล อานัวร์ กองหน้าจอมเก๋า ที่พร้อมลงล่าตาข่าย

สถิติและผลงาน 5 นัดหลังสุด

• สถิติที่พบกันในบ้านไทย (17 นัด): ไทย ชนะ 14, เสมอ 1, สิงคโปร์ ชนะ 2 (สิงคโปร์เคยบุกมาชนะไทยครั้งล่าสุดเมื่อปี 2009 ด้วยสกอร์ 1-0)
• ผลงาน 5 นัดหลังสุดของไทย: ชนะ 3, แพ้ 2 (ล่าสุดชนะ ไชนีส ไทเป 6-1)
• ผลงาน 5 นัดหลังสุดของสิงคโปร์: ชนะ 3, เสมอ 1, แพ้ 1 (ล่าสุดชนะ อินเดีย 2-1)

ช่องทางการถ่ายทอดสด

แฟนบอลสามารถรับชมการถ่ายทอดสดเกมอุ่นเครื่องนัดสำคัญนี้ได้ทาง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32, YouTube : BG SPORTS และ แอพพลิเคชั่น ทรูวิชันส์ นาว ตั้งแต่เวลา 19.30 น.