svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

"อาร์เซน่อล–แมนฯ ซิตี้" เหนือชั้นสุด-ส่องค่า "xG" ชี้ชัดใครเล่นดีจริง-ใครแค่ภาพลวงตา

สถิติ xG เปิดเผยข้อมูลเบื้องหลังตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกต้นซีซั่น "อาร์เซน่อล-แมนฯ ซิตี้" ครองเกมเหนือชั้น ขณะที่ "แมนฯ ยูไนเต็ด" และ "เชลซี" เกมรับรั่วน่าห่วง

KEY

POINTS

  • จากสถิติ xG ชี้ว่า อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นสองทีมที่เล่นได้เหนือกว่าทีมอื่นในลีก โดยอาร์เซน่อลมีเกมรับดีที่สุด ส่วนแมนฯ ซิตี้ มีเกมรุกที่ดีที่สุด
  • แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี มีจุดอ่อนที่เกมรับอย่างชัดเจน แม้เกมรุกจะดี แต่แนวรับกลับอยู่ใน 5 อันดับสุดท้ายตามค่าสถิติ
  • ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ คือทีมที่ผลงานดีเกินจริงที่สุด โดยยิงประตูได้มากกว่าค่า xG ที่ควรจะเป็น ซึ่งอาจไม่สามารถรักษาระดับฟอร์มนี้ได้ในระยะยาว

ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกเริ่มจะเป็นรูปร่างให้เห็นกันชัดขึ้น แต่ถ้ามองเพียง “ผลการแข่งขัน” มันยังไม่สะท้อนทั้งหมดของสิ่งที่แต่ละทีมทำในสนามได้จริง เพราะสิ่งที่สำคัญไม่แพ้ผลก็คือ “กระบวนการเล่น” ที่อยู่เบื้องหลัง และหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยเปิดโปงความจริงข้อนั้นได้ดีที่สุดก็คือ สถิติ xG (Expected Goals)

xG คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?

xG คือค่าที่บอกว่า “แต่ละทีมควรจะยิงได้กี่ประตู” จากคุณภาพของโอกาสที่สร้างขึ้น ไม่ใช่แค่จำนวนลูกยิงทั้งหมด กล่าวง่าย ๆ คือ ทีมที่สร้างโอกาสคุณภาพดีและจำกัดการบุกของคู่แข่งได้ ก็มีแนวโน้มประสบความสำเร็จในระยะยาวมากกว่า แม้ผลการแข่งขันระยะสั้นอาจยังไม่เป็นไปตามนั้นก็ตาม

*** ดูตัวเลขสถิติของทุกทีม จาก Opta ได้ >> ที่นี่ <<

(การวิเคราะห์นี้ตัดลูกจุดโทษออกไป เพราะจะทำให้ข้อมูลบิดเบือน โดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูกาลซึ่งจำนวนเกมยังน้อย)

"อาร์เซน่อล–แมนฯ ซิตี้" เหนือชั้นสุด-ส่องค่า "xG" ชี้ชัดใครเล่นดีจริง-ใครแค่ภาพลวงตา

อาร์เซน่อล-แมนฯ ซิตี้: สองเสาหลักแห่งความเหนือชั้น

จากสถิติของ Opta ชี้ชัดว่า อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือสองทีมที่ “เหนือกว่า” ทุกด้าน

  • อาร์เซน่อล มีแนวรับดีที่สุดในลีก และแนวรุกติดอันดับ 4
  • แมนฯ ซิตี้ ครองตำแหน่งแนวรุกดีที่สุดร่วมกับทีมอื่น และแนวรับก็ติดอันดับ 4 เช่นกัน

อีกทีมที่น่าประทับใจคือ คริสตัล พาเลซ ซึ่ง xG บ่งบอกว่าพวกเขามีเกมรุกเฉียบคมพอจะเทียบชั้นกับทีมอย่างซิตี้ ส่วน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขา “แน่น” ไม่แพ้อาร์เซน่อลในเกมรับ

"อาร์เซน่อล–แมนฯ ซิตี้" เหนือชั้นสุด-ส่องค่า "xG" ชี้ชัดใครเล่นดีจริง-ใครแค่ภาพลวงตา

แมนฯ ยูไนเต็ด-เชลซี: เกมรุกดี แต่แนวรับพัง

ตัวเลข xG ยังเผยให้เห็นภาพน่ากังวลของสองยักษ์ใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ที่มีเกมรุกติด 1 ใน 5 อันดับแรกของลีก แต่ในขณะเดียวกันแนวรับกลับอยู่ใน 5 อันดับสุดท้าย ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสร้างโอกาสได้มาก แต่ก็เปิดพื้นที่ให้คู่แข่งโจมตีมากเช่นกัน

สำหรับ ลิเวอร์พูล ผลแพ้สองนัดติดหลังชนะรวด 5 เกม (นับเฉพาะเกมลีก) อาจสะท้อนภาพที่แท้จริงกว่า ว่าทีมของ อาร์เน่อ ชล็อต ยังมีช่องโหว่ในสมดุลเกมรุก-รับ ขณะที่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ต้องเล่นอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะพวกเขาไม่ได้ครองเกมเหนือคู่แข่งเหมือนทีมระดับท็อป

ด้าน แอสตัน วิลล่า แม้จะเริ่มต้นฤดูกาลย่ำแย่ แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การจบสกอร์อีกต่อไป (ยิงได้ 6 ประตูจากค่า xG 6.0) หากแต่อยู่ที่ “รูปเกม” ที่ยังไม่ดีพอ

ส่วนทีมน้องใหม่อย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด และ ซันเดอร์แลนด์ ปรับตัวได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ เบิร์นลี่ย์ กลับดูจะยังไม่พร้อมกับพรีเมียร์ลีก ทั้งแนวรุกและแนวรับรั้งอันดับสุดท้ายของลีกตามค่า xG

"อาร์เซน่อล–แมนฯ ซิตี้" เหนือชั้นสุด-ส่องค่า "xG" ชี้ชัดใครเล่นดีจริง-ใครแค่ภาพลวงตา

เจาะลึกเกมรุก: คุณภาพโอกาสสำคัญกว่าปริมาณ

แม้จะเป็น แมนฯยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล ที่ยิงเฉลี่ยมากที่สุดในลีก (ราว 15 ครั้งต่อเกม) แต่ แมนฯซิตี้ และ คริสตัล พาเลซ กลับมีเกมรุกดีที่สุด เพราะพวกเขาสร้าง “โอกาสที่มีคุณภาพสูงกว่า” โดยค่าเฉลี่ย xG ต่อหนึ่งลูกยิงอยู่ที่ 0.14 ซึ่งหมายถึง โอกาสยิงแต่ละครั้งมีโอกาสเป็นประตูถึง 14% ในขณะที่ทีมอย่างยูไนเต็ดหรืออาร์เซน่อลอยู่เพียงราว 10%

กรณีของ เบรนท์ฟอร์ด ก็เป็นตัวอย่างน่าสนใจ เพราะพวกเขายิงน้อย (เฉลี่ยเพียง 8 ครั้งต่อเกม) แต่ว่าแต่ละโอกาสที่ทำได้นั้นมีคุณภาพสูงจนทำให้เกมรุกโดยรวมอยู่ระดับกลางตาราง

"อาร์เซน่อล–แมนฯ ซิตี้" เหนือชั้นสุด-ส่องค่า "xG" ชี้ชัดใครเล่นดีจริง-ใครแค่ภาพลวงตา

เกมรับ: ความแน่นอนของอาร์เซน่อล–นิวคาสเซิ่ล กับหลุมรั่วของผี–เบิร์นลี่ย์

ด้านเกมรับ ตัวเลขชัดเจนว่า อาร์เซน่อล และ นิวคาสเซิ่ล คือสองทีมที่ยืนพื้นแน่นที่สุด ทั้งในแง่จำนวนลูกยิงที่ปล่อยให้คู่แข่งทำได้ (น้อยที่สุดในลีก) และคุณภาพของโอกาสที่เปิดให้คู่แข่งยิง ซึ่งต่ำมาก หมายความว่าแทบไม่มีช่องให้คู่แข่งได้ลุ้นจบสกอร์ชัด ๆ

แต่สองทีมที่หลุดกราฟอย่างชัดเจนคือ แมนฯ ยูไนเต็ด และ เบิร์นลี่ย์

แม้ “ปีศาจแดง” จะดูเหมือนเหนียวแน่นจากสถิติ เพราะเสียโอกาสให้คู่แข่งเพียง 9.1 ครั้งต่อเกม เป็นรองแค่อาร์เซน่อลกับนิวคาสเซิ่ล ทว่าในความจริง ตัวเลข xG ต่อการยิงที่โดนอยู่ที่ 0.16 ซึ่งหมายความว่าคู่แข่งได้โอกาสยิงที่ “มีโอกาสเป็นประตูมากที่สุด” ในลีก ขณะที่เบิร์นลี่ย์เสียโอกาสถึง 18.4 ครั้งต่อเกม สูงกว่าทีมอื่นถึง 4 ครั้ง แม้คุณภาพของโอกาสเหล่านั้นจะไม่สูงเท่าก็ตาม

"อาร์เซน่อล–แมนฯ ซิตี้" เหนือชั้นสุด-ส่องค่า "xG" ชี้ชัดใครเล่นดีจริง-ใครแค่ภาพลวงตา

ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ : ทีมฟอร์มร้อนที่อาจไม่ยั่งยืน

สุดท้าย ถ้าดูช่องว่างระหว่าง “ผลการแข่งขันจริง” กับ “ผลที่คาดตาม xG” จะเห็นว่า ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ คือทีมที่ร้อนแรงเกินจริงที่สุดในลีกตอนนี้ พวกเขายิงได้มากกว่าที่ควรจะเป็นถึง 5 ประตู จากโอกาสที่มี และผู้รักษาประตู กุยเยลโม่ วิคาริโอ ก็ป้องกันประตูไว้ได้มากที่สุดในลีก (ช่วยทีมเซฟได้แบบเกินความคาดหมายไป 2.9 ประตู)

แม้ตัวเลขนี้จะสะท้อนฟอร์มสุดยอดในระยะสั้น แต่ในระยะยาว โธมัส แฟรงค์ อดีตกุนซือสายสถิติจากเบรนท์ฟอร์ดที่เพิ่งเข้ามาคุมทีม คงรู้ดีว่าการ “เล่นเกินค่า xG” แบบนี้ไม่สามารถยั่งยืนได้ตลอดฤดูกาล

---

ผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ของฤดูกาล แต่สถิติ xG เริ่มแสดงให้เห็นแนวโน้มของแต่ละทีมได้อย่างชัดเจน

  • ทีมที่ครองเกมเหนือคู่แข่งอย่าง อาร์เซน่อล, ซิตี้, นิวคาสเซิ่ล มีรากฐานที่มั่นคง
  • ทีมที่ผลยังดีแต่ค่า xG สั่นคลอนอย่าง สเปอร์ส หรือ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจต้องระวังแรงแผ่วในช่วงที่เหลือ
  • และทีมที่ค่า xG ต่ำเตี้ยอย่าง เบิร์นลี่ย์ ก็คงต้องเร่งหาทางเอาตัวรอดให้ได้โดยเร็ว

ในโลกของฟุตบอล ผลลัพธ์คือทุกสิ่งก็จริง แต่ตัวเลขเหล่านี้แหละ ที่อาจจะบอกเราได้ว่า “อนาคต” แต่ละทีมกำลังจะเดินไปทางไหน

---

แปลและเรียบเรียงจาก: