
KEY
POINTS
การแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรในช่วง ฟีฟ่าเดย์ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา คู่บิ๊กแมตช์ระหว่างยักษ์ใหญ่ของโลกและคู่ของแชมป์โลก สร้างผลการแข่งขันที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
ที่สนามกีฬาอายิโนะโมโตะ กรุงโตเกียว "ซามูไรบลูส์" ญี่ปุ่น สร้างความสุขให้กับแฟนบอลที่เข้าชมเต็มสนาม ด้วยการพลิกสถานการณ์จากตามหลัง 0-2 กลับมาเอาชนะ บราซิล ได้อย่างสุดมันส์ 3-2 ซึ่งเป็นชัยชนะเหนือมหาอำนาจจากอเมริกาใต้ครั้งประวัติศาสตร์ในการพบกันครั้งที่ 14 ของทั้งสองชาติ
เกมนี้ บราซิล ที่แม้จะมีการปรับผู้เล่นบางตำแหน่งภายใต้การคุมทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ออกนำไปก่อนในครึ่งแรก 2-0 จากประตูของ เปาโล เอ็นริเก้ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี
แต่ในครึ่งหลัง ญี่ปุ่น กลับมาเร่งเครื่อง ยิง 3 ประตูรวด จากจังหวะที่ ทาคุมิ มินามิโนะ ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของ ฟาบริซิโอ บรูโน ยิงตีไข่แตกได้ในนาทีที่ 52 ตามด้วยประตูตีเสมอจากลูกยิงที่แฉลบเปลี่ยนทางของ เคโตะ นากามูระ ในนาทีที่ 62 ก่อนที่ อายาเซะ อุเอดะ จะโหม่งทำประตูชัยในนาทีที่ 71 ส่งผลให้ ญี่ปุ่น คว้าชัยชนะอันน่าจดจำไปครอง
ด้าน อาร์เจนตินา แชมป์โลก 2022 ลงสนามทำศึกฟุตบอลอุ่นเครื่องที่ฟอร์ต ลอเดอร์เดล รัฐฟลอริดา โดยถล่มทีมรองบ่อนอย่าง เปอร์โตริโก (ทีมอันดับ 155 ของโลก) ไปอย่างขาดลอย 6-0
ลิโอเนล เมสซี สตาร์ดังที่ลงเล่นในสนามเหย้าของสโมสร อินเตอร์ ไมอามี โชว์ฟอร์มเป็นเพลย์เมกเกอร์ชั้นยอด โดยทำได้ 2 แอสซิสต์ และมีส่วนในการเริ่มเกมที่นำไปสู่การทำประตูอีกครั้ง รวมถึงการจ่ายลูกชิพให้ กอนซาโล มอนเทียล ทำประตูในครึ่งแรก และลูกจ่ายไขว้หลังอันเหนือชั้นที่นำไปสู่ประตูที่สองของ เลาตาโร มาร์ติเนซ ในนาทีที่ 83 นอกจากนี้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ทำได้ 2 ประตู และอาร์เจนตินายังได้ประโยชน์จากการทำเข้าประตูตัวเองของคู่แข่ง
อนึ่ง การแข่งขันนัดนี้มีประเด็นเรื่องการย้ายสนามแข่งขันจากเดิมที่ชิคาโก เนื่องจากมีรายงานอ้างถึงปัญหาการขายตั๋วที่ไม่เป็นไปตามเป้า รวมถึงปัญหาการกวาดล้างผู้อพยพในพื้นที่ชิคาโก