ประวัติศาสตร์หน้าใหม่! ลิเวอร์พูลปิดดีล "อิซัค" 125 ล้านปอนด์ ทุบสถิติพรีเมียร์ลีก
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สร้างดีลประวัติศาสตร์ด้วยการบรรลุข้อตกลงคว้าตัว อเล็กซานเดอร์ อิซัค จากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 125 ล้านปอนด์ ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
KEY
POINTS
- ลิเวอร์พูลบรรลุข้อตกลงคว้าตัว อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้าจากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
- ค่าตัวในการย้ายทีมครั้งนี้สูงถึง 125 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นการทำลายสถิติค่าตัวแพงที่สุดของพรีเมียร์ลีก
- อิซัคแสดงความต้องการย้ายออกจากนิวคาสเซิลอย่างชัดเจน และจะเซ็นสัญญากับลิเวอร์พูลเป็นระยะเวลา 6 ปี
วงการฟุตบอลอังกฤษต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อ ลิเวอร์พูล สร้างความฮือฮาในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะ ด้วยการบรรลุข้อตกลงคว้าตัว อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้าตัวเก่งจาก นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 125 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ของพรีเมียร์ลีก ทำลายสถิติเดิมของ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ที่ย้ายไปเชลซีด้วยค่าตัว 106 ล้านปอนด์
ดีลนี้มีมูลค่าสำหรับนิวคาสเซิลสูงถึง 130 ล้านปอนด์ เนื่องจากมีส่วนแบ่งค่าตัวจากการฝึกนักเตะ (Solidarity Payments คือกฎที่ฟีฟ่ากำหนดให้สโมสรที่ซื้อตัวนักเตะ จะต้องแบ่งเงินส่วนหนึ่งจากค่าตัวที่จ่ายไปให้กับสโมสรที่เคยมีส่วนในการฝึกฝนและพัฒนานักเตะคนนั้นในช่วงที่ยังอายุน้อย) เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และคาดว่า อิซัค จะเข้ารับการตรวจร่างกายในวันจันทร์นี้ ก่อนจะเซ็นสัญญากับสโมสรใหม่เป็นระยะเวลา 6 ปี
ดีลนี้ที่รอคอย
รายงานจากแหล่งข่าวระบุว่า ลิเวอร์พูลได้แสดงความสนใจในตัว อิซัค มาตลอด และถึงแม้ข้อเสนอแรกจำนวน 110 ล้านปอนด์จะถูกนิวคาสเซิลปฏิเสธ แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้และเดินหน้าเจรจาอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่า อิซัค คือกองหน้าตัวเป้าที่สมบูรณ์แบบที่สุด และจะเข้ามาเติมเต็มประสิทธิภาพในเกมรุกของทีม
ทางด้าน อิซัค เองก็แสดงความต้องการย้ายออกจากนิวคาสเซิลอย่างชัดเจนมาตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น โดยเขาไม่ยอมลงซ้อมกับทีม และไม่ได้ลงสนามเลยแม้แต่เกมเดียวในฤดูกาลนี้ จนถึงขั้นออกแถลงการณ์ว่าความสัมพันธ์ของเขากับสโมสร "ไม่สามารถไปต่อได้"
นิวคาสเซิลยอมอ่อนข้อ หลังเจอสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ตลอดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา นิวคาสเซิลยืนยันมาตลอดว่า อิซัค ไม่ได้มีไว้ขาย และจะปล่อยตัวก็ต่อเมื่อได้รับข้อเสนอตามที่ต้องการคือ 150 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตาม การที่ อิซัค แสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการอยู่กับทีม ทำให้สถานการณ์ของสโมสรตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก อีกทั้งการที่พวกเขาเพิ่งคว้าตัว นิค โวลเทอมาเดอ กองหน้าคนใหม่เข้ามา ทำให้การตัดสินใจขาย อิซัค เป็นไปได้ง่ายขึ้น
แม้ว่าการขาย อิซัค ในราคานี้จะยังต่ำกว่าที่นิวคาสเซิลตั้งเป้าไว้ แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น การปล่อยนักเตะออกจากทีมและนำเงินที่ได้มาเสริมทัพในตำแหน่งอื่น ๆ อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับสโมสรในตอนนี้ ซึ่งก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่า เอ็ดดี้ ฮาว ผู้จัดการทีม จะสามารถแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นและนำพาทีมเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร
ในขณะที่นิวคาสเซิลเพิ่งคว้าตัว โวลเทอมาเดอ เข้ามา และกำลังพยายามเจรจาคว้าตัวกองหน้าอีกรายอย่าง โยอัน วิสซ่า จากเบรนท์ฟอร์ด ซึ่งมีรายงานว่านักเตะต้องการย้ายมานิวคาสเซิลอย่างมาก และได้แสดงท่าทีไม่พอใจที่การย้ายทีมยังไม่เกิดขึ้น
ส่วน ลิเวอร์พูล การมาของ อิซัค จะเป็นผู้เล่นคนที่ 6 ที่ย้ายเข้าสู่แอนฟิลด์ในซัมเมอร์นี้ หลังจากที่พวกเขาคว้าตัว โฟลเรียน เวียร์ตซ์, อูโก้ เอกิติเก้, มิลอส เคอร์เคซ, เจเรมี่ ฟริมปง และ โจวานนี่ เลโอนี่ เข้ามาเสริมทีม โดยพวกเขายังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการชนะ 3 นัดรวดในพรีเมียร์ลีก และรั้งจ่าฝูงของตารางอยู่ในขณะนี้