"อัลการาซ" แซงชนะ "ซินเนอร์" 3-2 เซต ผงาดแชมป์เฟรนช์โอเพ่น

คาร์ลอส อัลการาซ ยืนยันสถานะยอดนักสู้อีกครั้ง หลังพลิกสถานการณ์จากตามหลัง 0-2 เซต กลับมาเอาชนะ ยานนิก ซินเนอร์ มือ 1 ของโลก 3-2 เซต 4-6, 6-7(4), 6-4, 7-6(3), 7-6(10-2) คว้าแชมป์เฟรนช์โอเพ่น 2025 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมจารึกสถิติเป็นแมตช์ชิงชนะเลิศที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์เฟรนช์โอเพ่นยุค Open Era (ยุคที่อนุญาตให้นักเทนนิสอาชีพลงแข่งแกรนด์สแลมได้ หรือนับตั้งแต่ปี 1968 เป็นต้นมา) โดยที่ใช้เวลาดวลกันถึง 5 ชั่วโมง 29 นาที

แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ และต้องเซฟถึง 3 แมตช์พอยต์ในเซตที่ 4 แต่อัลการาซวัย 22 ปีก็แสดงให้เห็นถึงหัวใจของแชมป์ ด้วยการเร่งฟอร์มตีเสมอในไทเบรก ก่อนปิดฉากด้วยไทเบรกเซตตัดสินอย่างเหนือชั้น 10-2 คว้าแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 5 จากการเข้าชิงทั้งหมด 5 ครั้ง

“เมื่อทุกอย่างเป็นรอง คุณต้องสู้ต่อไป เพราะนี่คือรอบชิงแกรนด์สแลม ไม่มีเวลาจะเหนื่อย ไม่มีเวลาจะยอมแพ้” อัลการาซกล่าวหลังจบเกม “แชมป์ตัวจริงจะปรากฏตัวในสถานการณ์แบบนี้”

แมตช์นี้เต็มไปด้วยความดราม่า โดยซินเนอร์เคยมีโอกาสคว้าแชมป์อยู่ในมือหลายครั้ง ทั้งการได้แมตช์พอยต์ในเกมที่ 9 ของเซตที่ 4 และการขึ้นนำหลายช่วงในเซตตัดสิน แต่สุดท้ายก็ไม่อาจต้านทานพลังและความเชื่อมั่นของนักหวดจากสเปนได้

ซินเนอร์ วัย 23 ปี ที่เข้าชิงแกรนด์สแลมเป็นครั้งแรก ยังคงไม่สามารถลบฝันร้ายในการเจอกับอัลการาซได้ โดยนี่เป็นความพ่ายแพ้ต่อคู่แข่งรายนี้เป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน

อัลการาซยังสร้างสถิติใหม่ด้วยการกลายเป็นนักเทนนิสคนที่ 9 ในยุค Open Era ที่สามารถกลับมาชนะในแมตช์รอบชิงแกรนด์สแลมจากการตามหลัง 0-2 เซต เทียบชั้นรุ่นพี่อย่างบียอร์น บอร์ก, อังเดร อากัสซี่, อิวาน เลนเดิล และราฟาเอล นาดาล

ชัยชนะครั้งนี้ยังทำให้อัลการาซคว้าแชมป์ระดับ ATP รายการที่ 20 และมีสถิติชนะ 22 จาก 23 แมตช์บนพื้นคอร์ตดินในปีนี้ พร้อมส่งสัญญาณว่าเขาคือผู้ท้าชิงตัวจริงของยุคต่อไปในวงการเทนนิสชาย