
ในค่ำคืนวันอาทิตย์นี้ ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีกทีมล่าสุด จะเริ่มต้นขบวนพาเหรดฉลองแชมป์ของพวกเขาด้วยเกมบิ๊กแมตช์ที่ต้องบุกเยือนถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของเชลซี ซึ่งพร้อมตั้งแถว Guard of Honour ต้อนรับพวกเขาเข้าสนาม
"หงส์แดง" เพิ่งแสดงพลังถล่มท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 5-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมผงาดคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 เทียบเท่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขณะที่เชลซีก็เพิ่งไล่ถล่ม เยอร์การ์เดน จากสวีเดน 4-1 ในศึกยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก เมื่อคืนวันพฤหัส
แม้โดมินิก โซลันกี้ อดีตแข้งลิเวอร์พูลจะยิงให้สเปอร์สขึ้นนำได้ในแอนฟิลด์ แต่ลูกทีมของอาร์เน่อ ชล็อต ก็แสดงให้เห็นถึงความนิ่งและความเฉียบขาดด้วยการรัวคืน 5 ประตูรวด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกก่อนจบฤดูกาลถึง 4 นัด
ชัยชนะครั้งนั้นไม่เพียงทำให้ลิเวอร์พูลเทียบสถิติคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 20 สมัยเท่ากับแมนฯ ยูไนเต็ด แต่ยังทำให้ ชล็อต กลายเป็นกุนซือชาวดัตช์คนแรกที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลเปิดตัวของเขา
ขณะเดียวกัน แม้จะได้แชมป์แล้ว ลิเวอร์พูลยังมีเป้าหมายอีกเล็กน้อย นั่นคือการเก็บให้ได้อีก 8 แต้มเพื่อแตะหลัก 90 คะแนน โดยสถิติในเดือนพฤษภาคมก็น่าทึ่งไม่น้อย เพราะพวกเขาไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ลีกตลอด 20 นัดหลังสุดที่ลงเล่นในเดือนนี้
สำหรับเชลซี พวกเขากำลังมั่นใจจากชัยชนะ 3 นัดรวดในทุกรายการ และมีโอกาสลุ้นโควต้าบอลยุโรปเต็มตัว เกมล่าสุดพวกเขาถล่มเยอร์การ์เดน 4-1 ในรอบรองชนะเลิศ คอนเฟอเรนซ์ ลีก นัดแรก และก่อนหน้านั้นก็ชนะทั้งฟูแล่มและเอฟเวอร์ตันในลีก
ฟอร์มในบ้านของเชลซีน่าจับตามอง พวกเขายิงประตูได้ในทุกนัดที่เล่นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ตั้งแต่แพ้แมนฯ ซิตี้เมื่อต้นฤดูกาล รวมแล้วคือ 24 เกมติด ขณะที่ 6 ครั้งหลังสุดในฐานะทีมที่เจอแชมป์ลีก พวกเขาชนะได้เพียงครั้งเดียว (ชนะแมนฯ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2012-13)
ยังคงมีผู้เล่นบาดเจ็บหลายคน โดยโรเบิร์ต ซานเชซ และคริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ต้องรอเช็กความฟิตอีกครั้ง ขณะที่เวสลีย์ โฟฟานา, โอมาริ เคลลีย์แมน, มาร์ก กีอู, อารอน แอนเซลมีโน และไมไคโล มูดริก (ติดโทษแบน) จะพลาดเกมนี้แน่นอน
เอ็นโซ่ มาเรสก้า อาจพักนักเตะบางรายเช่นเดียวกับชล็อต และอาจให้ นิโกลัส แจ็คสัน ออกสตาร์ทตัวจริง หลังโชว์ฟอร์มดีใน 2 เกมล่าสุด
จะได้ข่าวดีเมื่อคอเนอร์ แบรดลีย์ กลับมาลงซ้อมได้แล้ว และอาจมีชื่อในเกมนี้ ส่วนโจ โกเมซ ยังต้องพักต่อจากอาการเจ็บแฮมสตริง
อาร์เน่อ ชล็อต ยืนยันว่าจะมีการโรเตชั่นนักเตะ แต่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะยังได้ออกสตาร์ทแน่นอน เพราะกำลังล่าประวัติศาสตร์ โดยเขาต้องการอีกเพียง 1 ประตู เพื่อเทียบเท่าสถิติเป็นนักเตะอายุมากกว่า 30 ปี ที่ยิงได้มากที่สุดในลีก ที่ดิดิเยร์ ดร็อกบา เคยทำไว้ 29 ประตูในฤดูกาล 2009-10