ศึกพรีเมียร์ลีกคืนวันอังคารนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมเปิดบ้านรับมือ แอสตัน วิลล่า ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ในเกมสำคัญสำหรับการลุ้นพื้นที่แชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้า
แม้ฤดูกาลนี้จะมีโควต้าทีมอังกฤษในถ้วยใหญ่ยุโรปเพิ่มเป็น 5 ทีม แต่การแข่งขันก็ยังคงดุเดือดไม่แพ้เดิม โดยทั้งสองทีมต่างกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี และมีโอกาสลุ้นตั๋วใบสำคัญ
แมนฯ ซิตี้ เก็บชัยชนะ 2-0 เหนือเอฟเวอร์ตันในเกมล่าสุด จากประตูช่วงท้ายเกมของ นิโก โอไรลี่ย์ และ มาเตโอ โควาซิช พร้อมกับทำแต้มไล่จี้นิวคาสเซิลที่อยู่อันดับสาม
แนวรับของทีมเรือใบสีฟ้ากำลังโชว์ฟอร์มเหนียวแน่น เก็บคลีนชีตได้ถึง 3 จาก 4 เกมหลังสุด ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ฟอร์มของทีมกระเตื้องขึ้น
อย่างไรก็ตาม ซิตี้เสียไปแล้วถึง 21 ประตูในบ้านฤดูกาลนี้ เท่ากับสถิติที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2003-04 ทั้งที่ยังเหลืออีก 3 นัดในบ้าน จึงต้องเร่งรักษาความแข็งแกร่งแนวรับหากหวังจบท็อปโฟร์
ซิตี้แพ้ในบ้านให้แค่ลิเวอร์พูลและเรอัล มาดริดในปี 2025 และมีสถิติดีเยี่ยมในการเจอกับวิลล่าที่เอติฮัด โดยชนะรวดมาแล้ว 14 นัดติดต่อกัน ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานเป็นอันดับสองในพรีเมียร์ลีก รองจากการชนะนิวคาสเซิล 16 นัดติด
แต่ก็ต้องระวังให้ดี เพราะวิลล่ากำลังอยู่ในช่วงมั่นใจ และสามารถเอาชนะซิตี้ได้ถึง 2 จาก 3 ครั้งหลังสุด รวมถึงชนะในเกมเลกแรก 2-0 เมื่อเดือนธันวาคม ซึ่งถือเป็นโอกาสทำ "ดับเบิล" ใส่ซิตี้ครั้งแรกในลีกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1962-63
ลูกทีมของอูไน เอเมรี่ เพิ่งโชว์ฟอร์มสุดยอด เปิดบ้านถล่มนิวคาสเซิล 4-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไล่บี้กลุ่มท็อปโฟร์อย่างกระชั้นชิด โดยตามหลังนิวคาสเซิล 2 แต้ม และห่างจากซิตี้แค่แต้มเดียว
แม้จะแพ้เปแอสเชในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบก่อนรองฯ เลกแรก แต่นั่นก็เป็นเพียงนัดเดียวจาก 11 เกมหลังสุดที่วิลล่าไม่ชนะ ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของสโมสรในรอบหลายปี
พวกเขาชนะเกมเยือนในลีกมาแล้ว 3 นัดติดโดยไม่เสียประตูเลย ซึ่งถ้าชนะซิตี้ได้อีกนัด พร้อมคลีนชีต จะกลายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ชนะเกมเยือน 4 นัดติดโดยไม่เสียประตูในพรีเมียร์ลีก
แต่ในซีซั่นนี้ วิลล่ากลับมีผลงานไม่ดีนักเมื่อต้องเจอทีมใหญ่เวลาบุกนอกบ้าน โดยเก็บได้เพียง 1 แต้มจาก 5 เกมเท่านั้น