svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

1 ปี "มาดามแป้ง" กับการฝ่าฟันสารพันปัญหา

ครบ 1 ปีกับตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯของ "มาดามแป้ง" ซึ่งแม้เธอจะยอมรับตั้งแต่วันรับตำแหน่งว่ามีปัญหารออยู่ แต่คงไม่คาดคิดว่าปัญหาดังกล่าวจะหนักหนาเพียงนี้

โดย "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แถลงผลงานหลังเข้ามาบริหารสมาคมฯ ผ่านพ้นการดำรงตำแหน่ง 1 ปีแรก นับตั้งแต่ที่ การกีฬาแห่งประเทศไทยฯ (กกท.) รับรองอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 

"มาดามแป้ง" ชนะการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ด้วยคะแนนโหวตสูงถึง 68 จาก 73 เสียง หรือ คิดเป็น 93% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ขึ้นแท่นเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในฐานะผู้หญิงคนแรกของประเทศไทย , คนแรกของทวีปเอเชีย และ คนที่ 7 ของโลก ในปัจจุบัน 

มาดามแป้ง เผยความรู้สึกตั้งแต่วันที่เข้ารับตำแหน่งแล้วว่า ตนเชื่อว่า ต้องเผชิญปัญหาและอุปสรรคมากพอควร เพราะวิกฤตศรัทธาเกี่ยวกับฟุตบอลเกิดได้หลายมิติ

แต่แน่นอนว่าหลังผ่านพ้นการทำงานมา 1 ปี เธอคงไม่คาดว่าว่าปัญหาที่ว่าจะหนักหนาและมากมายถึงเพียงนี้

และนี่คือสารพันปัญหาที่เกิดขึ้นตามการแถลงในวันนี้

แก้ปัญหาลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด

ภารกิจแรกที่มาดามแป้งและทีมงานเข้ามาแก้ไขก็คือ ปัญหาลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกที่ยังเป็นสุญญากาศ ณ เวลานั้น โดยมีการเจรจาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะได้ ทรูวิชั่นส์ เข้ามาสนับสนุน ซึ่งแม้จะได้ค่าลิขสิทธิ์ที่ลดลงกว่าเดิม แต่ก็ทำให้ได้เงินมาผันเป็นเงินสนับสนุนให้แต่ละสโมสรได้

มาดามแป้ง ยกเครดิตให้ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เป็นที่ปรึกษาของสมาคมฯและช่วยเจรจาในทุกขั้นตอน แม้จะเป็นสัญญาระยะสั้นแต่ก็ถือเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และจะมีการประมูลลิขสิทธิ์ระยะยาว 4 ปี ในอนาคต

1 ปี \"มาดามแป้ง\" กับการฝ่าฟันสารพันปัญหา

มรดก "หนี้" ที่ได้รับ

“มาดามแป้ง” เผยว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่ง ก็ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบบัญชีและการเงินของสมาคม ซึ่งได้พบว่า ในวันที่ตนมาทำงาน (20 ก.พ.67) สมาคมมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 27,706,866.97 บาท ขณะเดียวกัน มีหนี้สิน ณ วันนั้น จากเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น ที่ต้องชำระเลย อยู่ที่ 132,476,476.65 บาท

นั่นหมายความว่า มาดามแป้ง ไม่ได้เข้ามารับตำแหน่งในเวลาที่สมาคมฯ "พร้อมทุกด้าน" และไม่ได้มีเงินหลายพันล้านอย่างที่หลายคนเข้าใจและอ้างถึง

เงินสนับสนุนจากฟีฟ่าที่ลดลง

นอกจากมีหนี้ที่ต้องชำระกว่า 130 ล้านบาทแล้ว ยังมีประเด็นเงินสนับสนุนจากฟีฟ่าที่สมาคมได้รับลดน้อยลงกว่าเดิม เนื่องจากผู้บริหารชุดก่อนได้กู้ยืมเงินจากฟีฟ่า เป็นจำนวนเงิน 5 ล้านดอลลาร์ (155 ล้านบาท) โดยให้เหตุผลว่าเพื่อนำเงินมาพยุงฟุตบอลไทย หลังเผชิญปัญหาโควิด-19 โดยเบิกรับครั้งเดียว เมื่อวันที่ 9 ต.ค.63 และต้องแบ่งจ่ายคืนจำนวน 10 งวด ใน 10 ปี หรือจนถึงปี 2573 เท่ากับว่า เงินสนับสนุนของฟีฟ่า ที่แต่ละชาติจะได้รับ 1,250,000 ดอลลาร์ต่อปี จะโดนหักคืนไปปีละ 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 17 ล้านบาท)

1 ปี \"มาดามแป้ง\" กับการฝ่าฟันสารพันปัญหา

มรดกด้านสิทธิประโยชน์

มาดามแป้ง เปิดเผยว่า การที่ บ.แพลนบี มาเป็นผู้บริหารสิทธิประโยชน์ให้สมาคมนั้น เกิดจากสัญญาที่ผู้บริหารชุดเดิมเซ็นไว้ก่อนตนจะเข้ามารับตำแหน่ง ตนจึงไม่สามารถยกเลิกสัญญาได้ เพราะไม่อยากให้เกิดกรณีเช่นเดียวกับ สยามสปอร์ต (ที่มีคดีความกันอยู่) ดังนั้น หลังจากเข้ามาทำงาน ตนจึงได้เจรจา แพลนบี เพื่อปรับปรุงสัญญาบางส่วน ซึ่งการเจรจาเป็นไปด้วยดี แพลนบีตกลงที่จะเพิ่มเงินการันตีรายได้สิทธิประโยชน์ให้มากขึ้น และลดรายได้ส่วนผลประโยชน์ (คอมมิชชั่น) ลง นอกจากนี้ยังคืนสิทธิบางอย่างกับสมาคม เช่น ขายตั๋วไทยทิคเก็ตเมเจอร์ หรือการถ่ายทอดสด เป็นต้น

ส่วนลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ไทยลีก 1-3 ก่อนหน้านี้ถูกขายไปต่างประเทศแล้ว ตนต้องไปซื้อกลับมา แต่การขายสิทธิบางด้านตนก็ยังไม่สามารถซื้อกลับมาได้ นั่นคือ Data Analysis (การวิเคราะห์ข้อมูล) ที่ขายให้บริษัทจากมาเลเซียไปแล้ว ซึ่งนั่นเป็นข้อมูลที่ต่อยอดไปสู่ธุรกิจต่างๆได้ ทำให้เมื่อไปขอซื้อคืนก็ไม่ยอมแล้ว ต้องรอให้หมดสัญญาปี 2571

เงินที่หายไป

มาดามแป้ง เผยว่า ตนเองทำงานนี้โดยไม่รับเงินเดือน แต่ในยุคก่อน อดีตนายกสมาคมฯ ได้รับเงินเดือนจากสมาคมฯ และบริษัท ไทยลีก รวมกันเดือนละ 1 ล้านบาท ไม่รวมโบนัส ส่งผลให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เข้าตรวจสอบความเหมาะสมของการบริหารงาน

ต่อมา อดีตนายกฯ ได้ออกมาชี้แจงว่านำเงินเดือนทั้งหมด 32 ล้านบาท บริจาคคืนให้สมาคมฯ แล้ว ขณะนี้แป้งได้สั่งให้ฝ่ายบัญชีและการเงินตรวจสอบหลักฐานว่ามีการคืนเงินจริงหรือไม่ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่พบหลักฐานการคืนเงินดังกล่าว

ด้านคณะทำงานตรวจสอบการเงินของสมาคม ยังพบพิรุธการจ่ายเงินของ ผู้บริหารสมาคมชุดเก่าฯ ในกรณีค่าใช้จ่ายให้กับทนายความในชั้นฎีกา คดีพิพาทกับสยามสปอร์ต เพราะตามหลักฐานที่พบ ทนายเรียกเงินค่าจ้างในศาลชั้นต้น 700,000 บาท และชั้นต่อ ๆ ไป 300,000 บาท แต่กลับมีการอนุมัติจ่ายค่าทนายสูงถึง 30 ล้านบาท ก่อนสิ้นสุดวาระของอดีตนายกสมาคม

1 ปี \"มาดามแป้ง\" กับการฝ่าฟันสารพันปัญหา

360 ล้านที่ต้องชดใช้

เรื่องที่หลายฝ่ายให้ความสนใจที่สุดในการแถลงวันนี้ก็คือคดีที่สมาคมฯภายใต้การบริหารของทีมงานชุดเก่าได้ยกเลิกสัญญากับ สยามสปอร์ต ก่อนที่ศาลฎีกาจะพิพากษาให้สมาคมฯ ต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ 

ประเด็นนี้ มาดามแป้ง เผยว่า ส่วนตัวพร้อมจะเดินหน้าฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ คนเก่า รวมถึงสภากรรมการในชุดนั้น แต่เพื่อความถูกต้อง ตนจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การประชุมสภากรรมการวาระเร่งด่วน เพื่อขอมติรับรองจากสภากรรมการให้ทำการฟ้องไล่เบี้ยเอาเงินคืนจาก อดีตนายกสมาคมและสภากรรมการชุดที่แล้ว 

"แม้จะมีการตัดสินว่า จำเลยที่ 2-19 (อดีตนายกสมาคมและสภากรรมการ) ไม่ต้องรับผิดชอบการเงินของสมาคมเป็นการส่วนตัว เพราะเป็นการกระทำในกรอบอำนาจหน้าที่ พูดง่ายๆคือไม่ต้องรับผิดชอบต่อโจทย์คือสยามสปอร์ต"

"แต่อย่างไรก็ตาม แป้งและฝ่ายกฎหมายศึกษาอย่างเด่นชัดแล้วว่า สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรา 76 จึงเป็นที่มาว่า แป้งตัดสินใจแล้ว จะนำเรื่องนี้เข้าสู่สภากรรมการเฉพาะกิจเร่งด่วนเพื่อฟ้องไล่เบี้ยแก่จำเลยที่ 2 และสภากรรมการยุคนั้น"

"ตอนที่แป้งเข้ามา สมาคมฯ ไม่มีอะไรเลย มีเพียงหนี้สิน แป้งขอแค่ความเห็นใจ และกำลังใจจากแฟนบอล รวมถึงสื่อมวลชน ปัญหาเหล่านี้ต้องถูกแก้ไข แต่แป้งไม่ได้เป็นผู้ก่อมันขึ้นมา แป้งเป็นผู้หญิง มีจิตใจ และรู้สึกไม่ดีทุกครั้งที่ถูกกล่าวหาในทางลบ"

มาดามแป้งเผยแนวทางต่อไปว่า เตรียมเข้าเจรจากับทาง สยามสปอร์ต และ ทรูวิชั่นส์ ต่อไป "เราเคารพคำตัดสินของศาล และขณะเดียวกัน แป้งก็เคารพต่อคุณูปการของคุณระวิที่มีต่อวงการฟุตบอลไทย ทุกคนยอมรับว่าสยามกีฬามีบทบาทสำคัญต่อความรุ่งเรืองของฟุตบอลไทย ดังนั้นแป้งเชื่อว่าการพูดคุยกับคุณระวิจะช่วยหาทางออกได้ ขณะเดียวกัน เราต้องเจรจากับทรูวิชั่นส์ด้วย เพราะนี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด"

แฟนบอลแห่ให้กำลังใจ

“ปกติทุกท่านคงจะทราบ แป้งเป็นมือประสานสิบทิศ ไม่อยากเป็นศัตรูของใครเลย แต่การทำงานของแป้งในวันนี้ แป้งทำด้วยผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก”

“กีฬาฟุตบอลไทย เป็นกีฬาที่คนไทยดูมากที่สุด 70% และคนเล่นสูงสุดรองจากมวย ดังนั้น แป้งคิดว่า ฟุตบอลเป็นกีฬาของคนทั้งชาติ สิ่งที่แป้งและคณะกรรมการ จะทำต่อไป ไม่ได้มีความขัดแย้งส่วนตัวกับท่านใด แต่ทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสมาคมฯ และของชาติไทย”

นี่คือข้อความบางช่วงบางตอนจากการแถลงในวันนี้ ซึ่งก็ทำให้แฟนบอลชาวไทยต่างส่งข้อความให้กำลังใจอย่างล้นหลามในโลกออนไลน์