
"สาลิกาดง" กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มตกหลังพ่ายแพ้สองเกมติดต่อกัน อีกทั้งยังต้องเจอกับปัญหานักเตะบาดเจ็บและติดโทษแบน ขณะที่เจ้าบ้านมีเป้าหมายคว้าชัยชนะ 3 นัดติดต่อกันในลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2023
หาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เก็บสามแต้มในเกมนี้ได้ จะถือเป็นครั้งแรกที่ เกรแฮม พ็อตเตอร์ สามารถพาทีมชนะในลีก 3 นัดรวด ซึ่งเป็นสิ่งที่กุนซือคนก่อนอย่าง ฆูเลน โลเปเตกี ไม่สามารถทำได้ในช่วงเวลาที่เขาคุมทีม
"ขุนค้อน" ไม่สามารถชนะในพรีเมียร์ลีก 3 นัดติดต่อกันได้เลยนับตั้งแต่ยุคของ เดวิด มอยส์ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2023 อย่างไรก็ตาม ทีมของพ็อตเตอร์กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจ หลังจากเอาชนะ อาร์เซนอล ได้อย่างสุดเซอร์ไพรส์ และคว้าชัยชนะเหนือ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างไม่ยากเย็นในเกมล่าสุด
เกมที่พบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ เวสต์แฮม ได้ประตูจากการเข้าชาร์จของ โทมัส ซูเช็ค และการทำเข้าประตูตัวเองของ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด ช่วยให้พวกเขาเก็บชัยชนะ 2-0 และเมื่อทีมมีคะแนนนำโซนตกชั้นถึงสองหลัก ก็แทบจะไม่ต้องกังวลกับการหนีตกชั้นในช่วงที่เหลือของฤดูกาล (แม้จะยังมีความเป็นไปได้ในทางทฤษฎีก็ตาม)
แม้จะเอาชนะ อาร์เซนอล และ เลสเตอร์ ได้โดยไม่เสียประตู แต่ปัญหาความเฉียบคมในการจบสกอร์ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข เวสต์แฮม มีอัตราการเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูเพียง 9% ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024-25 และมีเปอร์เซ็นต์ยิงตรงกรอบเพียง 30% เท่านั้น นี่เป็นเหตุผลที่พวกเขาทำประตูไม่ได้ถึง 3 จาก 4 เกมเหย้าก่อนหน้านี้
ด้าน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เคยเสมอกับ เวสต์แฮม 0-0 ในเกมเหย้าลีกล่าสุดที่พบกัน อย่างไรก็ตาม เกมเอฟเอ คัพ รอบห้า ที่พบกับ ไบรท์ตัน จบลงด้วยความผิดหวัง เมื่อ "สาลิกาดง" ต้องพ่ายแพ้ไป 1-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดย แดนนี่ เวลเบ็ค เป็นผู้ทำประตูชัยให้ทีมเยือน
ผลการแข่งขันดังกล่าวทำให้โอกาสคว้าแชมป์แรกในรอบ 70 ปีของ นิวคาสเซิล ลดลง เว้นแต่พวกเขาจะสามารถพลิกล็อกเอาชนะ ลิเวอร์พูล ในนัดชิง คาราบาวคัพ ได้ อย่างไรก็ตาม ฟอร์มของพวกเขาในช่วงหลังถือว่าน่าเป็นห่วง เนื่องจากพวกเขาเสียอย่างน้อย 2 ประตูใน 5 เกมติดต่อกันในทุกรายการ และแพ้เกมเยือน 2 นัดหลังสุดโดยไม่สามารถทำประตูได้เลย
นิวคาสเซิล ไม่เคยแพ้ติดต่อกัน 3 นัดโดยยิงประตูไม่ได้เลย นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2021 แต่หากเวสต์แฮมสามารถทำซ้ำผลงานที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค เมื่อเดือนพฤศจิกายน (ชนะ 2-0) พวกเขาอาจทำให้ทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ต้องเจอกับสถิติเลวร้ายอีกครั้ง
จะได้ตัว ลูคัส ปาเกต้า กลับมาจากอาการบาดเจ็บข้อเท้า แม้จะมีการพิจารณาคดีเรื่องการล้มบอลที่เขาปฏิเสธข้อกล่าวหาอยู่ก็ตาม ขณะที่ วลาดิเมียร์ คูฟาล (เอ็นร้อยหวาย) น่าจะฟิตทันลงสนาม แต่ นิคลาส ฟูลครูก (เอ็นร้อยหวาย), มิคาอิล อันโตนิโอ (ขา) และ คริเซนซิโอ ซัมเมอร์วิลล์ (ต้นขา) ยังคงต้องพักรักษาตัว
จะไม่มี ลูอิส ฮอลล์ (เท้า) ที่ต้องปิดเทอมฤดูกาลนี้ไปแล้ว รวมถึง จามาล ลาสเซลส์ (เข่า) และ สเวน บ็อตมัน (เข่า) ซึ่งต้องเข้ารับการผ่าตัด นอกจากนี้ แอนโธนี่ กอร์ดอน จะพลาดลงสนามเนื่องจากติดโทษแบน 3 นัด หลังจากโดนใบแดงจากการใช้ความรุนแรงในเกมกับ ไบรท์ตัน
อย่างไรก็ตาม ข่าวดีคือ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ฟิตพร้อมลงสนาม หลังมีอาการล้าในเกมเอฟเอ คัพ ขณะที่ คีแรน ทริปเปียร์ กำลังอยู่ระหว่างเรียกความฟิตจากอาการเจ็บหลัง แต่ก็น่าจะถูกเข็นลงสนาม