เก็บตก เอฟเอคัพ รอบ 4 "เชลซี" ร่วง, "แมนซิตี้" คว้าชัยท้ายเกม

• เชลซี พ่าย ไบรท์ตัน ร่วงรอบ 4

เชลซี ยังคงไร้แชมป์ฟุตบอลถ้วยในประเทศนับตั้งแต่คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อปี 2018 และต้องรอคอยต่อไปอีกฤดูกาล หลังจากปล่อยให้โอกาสหลุดลอยในเกมออกไปเยือนสนามเอเม็กซ์ สเตเดี้ยม ของ ไบรท์ตัน

ลูกทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 5 จากความผิดพลาดของ บาร์ต แฟร์บรุกเค่น นายทวารไบรท์ตัน ที่รับบอลจากการเปิดของ โคล พาลเมอร์ พลาดจนเข้าประตูตัวเอง  

อย่างไรก็ตาม เชลซีไม่สามารถฉวยโอกาสจากความได้เปรียบนี้ได้ โดยถูกเจ้าถิ่นตีเสมอได้ในนาทีที่ 12 เมื่อ โยเอล เฟลท์มัน เปิดบอลไปถึง จอร์จินโญ่ รุตแตร์ ที่หาช่องระหว่างแนวรับของเชลซีก่อนโหม่งเข้าไปอย่างเฉียบขาด  

และสุดท้าย ไบรท์ตัน ก็พลิกแซงนำในนาทีที่ 57 เมื่อ คาโอรุ มิโตมะ หลุดไปยิงผ่าน โรเบิร์ต ซานเชซ ผู้รักษาประตูเชลซี แม้ว่าฝั่งทีมเยือนจะประท้วงว่ามีแฮนด์บอลเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น  

"ผมคิดว่ามันเป็นแฮนด์บอลที่ชัดเจนมาก แต่ไม่มี VAR ก็ทำให้มันซับซ้อนขึ้น" มาเรสก้า กล่าวหลังเกม  "ครึ่งหลังพวกเขายิงได้จากโอกาสไม่กี่ครั้ง ส่วนเรามีโอกาสนำ 2-1 แต่ไม่สามารถทำได้ คุณต้องยอมรับผลการแข่งขัน"  

• แมนฯ ซิตี้ หวิดพ่าย เลย์ตัน โอเรียนท์ ก่อนพลิกแซงเข้ารอบ  

ที่สนามบริสเบน โร้ด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจอช็อกตั้งแต่ต้นเกม เมื่อ เจมี่ ดอนลีย์ ซัดไกลจากครึ่งสนาม บอลชนคานแล้วกระเด้งโดนหลังของ สเตฟาน ออร์เตก้า เข้าประตูไป ทำให้เจ้าบ้าน เลย์ตัน โอเรียนท์ ขึ้นนำ

ริชชี่ เวลเลนส์ กุนซือของเลย์ตัน โอเรียนท์ กล่าวว่า "น่าเสียดายที่ลูกยิงนี้ถูกนับเป็นออร์เตก้าทำเข้าประตูตัวเอง แต่สำหรับผม ดอนลีย์สมควรได้รับเครดิตเต็ม ๆ"  

อย่างไรก็ตาม แชมป์พรีเมียร์ลีกสามารถตีเสมอได้ในนาทีที่ 56 เมื่อ อับดูโคดีร์ คูซานอฟ แนวรับอุซเบกิสถาน เปลี่ยนทางบอลจากการยิงของ ริโก้ ลูอิส เป็นประตูแรกของเขาหลังย้ายมาจาก ล็องส์ เมื่อเดือนมกราคม  

และสุดท้าย เควิน เดอ บรอยน์ ก็เป็นตัวตัดสินเกม เมื่อเขาลงสนามมาช่วยทีมและทำประตูชัยในนาทีที่ 79  

"นี่คือเกมเอฟเอ คัพที่แท้จริง เป็นเหตุผลว่าทำไมการแข่งขันนี้ถึงยอดเยี่ยม" กวาร์ดิโอล่า กล่าว  

"เรารู้ว่าโอเรียนท์เป็นทีมที่แข็งแกร่ง และบรรยากาศของแฟนบอลที่นี่ก็น่าทึ่งมาก"  

อย่างไรก็ตาม กวาร์ดิโอล่า ยังต้องเจอข่าวร้ายเมื่อ นิโก้ กอนซาเลซ แข้งใหม่ที่เพิ่งเซ็นสัญญาในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะ ได้รับบาดเจ็บจนต้องออกจากสนามตั้งแต่ครึ่งแรก และยังต้องติดตามกันต่อว่าเจ็บหนักแค่ไหน

• นักบุญร่วง เอฟเอ คัพ หลังแพ้เบิร์นลีย์  

เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมบ๊วยของพรีเมียร์ลีก ยังคงเผชิญฤดูกาลที่ย่ำแย่ เมื่อพวกเขาตกรอบเอฟเอ คัพ หลังแพ้ เบิร์นลีย์ 0-1 ที่สนามเซนต์ แมรี่ส์  

ลูกทีมของ สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ ได้ประตูชัยในนาทีที่ 77 จาก มาร์คัส เอ็ดเวิร์ดส์ แข้งที่เพิ่งย้ายมาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน แบบยืมตัว และสามารถทำประตูแรกของเขาได้ทันที  

เบิร์นลีย์ยังคงฟอร์มเกมรับอันแข็งแกร่ง โดยพวกเขาไม่เสียประตูมาเกือบ 600 นาที และเก็บคลีนชีตได้ถึง 10 จาก 11 เกมหลังสุด  

"เราโชคร้ายที่เสียประตูจากจังหวะที่ไม่เป็นระเบียบ เราทำได้หลายอย่างดี และสร้างโอกาสได้เยอะ" อิวาน ยูริช กุนซือเซาธ์แฮมป์ตัน กล่าว  

ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่น ๆ  

• นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด บุกชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 3-2 โดย โจ วิลล็อค ทำสองประตู และ คัลลัม วิลสัน ยิงอีกหนึ่งลูก ขณะที่ ทาโมกิ อิวาตะ ยิงสุดสวยให้เจ้าบ้านตีเสมอช่วงครึ่งแรก  
• เอฟเวอร์ตัน พ่าย บอร์นมัธ 0-2 ในเกมเอฟเอ คัพ นัดสุดท้ายที่สนามกูดิสัน พาร์ค ก่อนที่พวกเขาจะย้ายไปสนามใหม่ในฤดูกาลหน้า โดย อ็องตวน เซเมนโย่ และ แดน เจบบิสัน ทำคนละประตูให้ทีมเยือน  
• ฟูแล่ม บุกชนะ วีแกน แอธเลติก 2-1 โดย โรดริโก้ มูนิซ ทำสองประตู  
• อิปสวิช ทาวน์ ที่อยู่รองบ๊วยของพรีเมียร์ลีก กลับมาคืนฟอร์มด้วยการถล่ม โคเวนทรี ซิตี้ 4-1 ผ่านเข้ารอบห้าของเอฟเอ คัพ ได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2007
• มิลล์วอลล์ ผ่านเข้ารอบ 5 ของเอฟเอ คัพ เป็นครั้งแรกตั้งแต่ฤดูกาล 2018-19 หลังจากเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-0 โดย เฟมี่ อาซีซ ทำคนเดียวสองประตู  
• เปรสตัน นอร์ท เอนด์ และ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบด้วยการชนะดวลจุดโทษเหนือ วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส และ สโต๊ค ซิตี้ ตามลำดับ