svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

“โอลิมปิก 2024” ความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจของทัพนักกีฬาไทย

ในวงการกีฬาตลอดปี 2024 สิ่งที่ทำให้แฟนกีฬาชาวไทยมีความสุขมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการที่ทัพนักกีฬาไทยประสบความสำเร็จอย่างงดงามใน โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส “เนชั่นทีวี” จึงขอย้อนกลับไปสรุปเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง

ผลงานของนักกีฬาไทยในการแข่งขันโอลิมปิกปี 2024 “ปารีสเกมส์” ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของไทยในกีฬาหลายประเภท โดยไทยคว้าโควตาไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์รอบสุดท้ายได้ทั้งสิ้น 51 คนจาก 16 ชนิดกีฬา และผลการแข่งขันก็ถือว่าโดดเด่น นักกีฬาของไทยนำเหรียญรางวัลกลับบ้านได้ทั้งสิ้น 6 เหรียญ ประกอบด้วย 1 เหรียญทอง, 3 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง จบอันดับที่ 44 ร่วมกับ จาเมกา และแอฟริกาใต้ โดยนับเป็นอันดับที่ 11 ของทวีปเอเชีย ต่อจาก จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อุซเบกิสถาน, อิหร่าน, บาห์เรน, ไต้หวัน, ฮ่องกง, ฟิลิปปินส์, และอินโดนีเซีย รวมถึงเป็นอันดับที่ 3 นับเฉพาะชาติในอาเซียน ต่อจาก ฟิลิปปินส์ (2 ทอง 2 ทองแดง) และ อินโดนีเซีย (2 ทอง 1 ทองแดง)

“โอลิมปิก 2024” ความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจของทัพนักกีฬาไทย

พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ กับเหรียญทองสมัย 2
หนึ่งในไฮไลท์ของไทยในโอลิมปิกปี 2024 คือการคว้าเหรียญทองของ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ในกีฬาเทควันโด โดย เทนนิส เข้าแข่งขันในโอลิมปิกครั้งนี้ด้วยความหวังที่จะคว้าเหรียญทองอีกครั้ง และสุดท้ายก็ทำได้ตามความคาดหวังเมื่อคว้าเหรียญทองในรุ่น 49 กิโลกรัมหญิงได้สำเร็จ กลายเป็นนักเทควันโดไทยคนแรกที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้ถึง 2 ครั้ง

ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงแต่ยกระดับ พาณิภัค ให้เป็นหนึ่งในไอคอนของวงการกีฬาไทย แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นของประเทศไทยในกีฬาชนิดนี้ในระดับโลก

อย่างไรก็ตาม จากการอำลาวงการของ พาณิภัค ทำให้มีคำถามที่แฟนกีฬาชาวไทยต่างกังวลกันว่า แล้วใครที่จะก้าวขึ้นมาสานต่อความสำเร็จนี้ต่อไป

และนั่นก็เป็นการบ้านที่สมาคมกีฬาเทควันโดต้องเร่งหาคำตอบกันต่อไป

“โอลิมปิก 2024” ความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจของทัพนักกีฬาไทย

เหรียญเงินประวัติศาสตร์ของ “วิว กุลวุฒิ”
เหรียญเงินในกีฬาแบดมินตันของ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จใหญ่ของไทย โดย กุลวุฒิ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นและสามารถเอาชนะผู้เล่นระดับโลกหลายคน ก่อนที่จะพ่ายให้กับ วิคเตอร์ อักเซลเซ่น คู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศ ได้เหรียญเงินมาครอง

เหรียญเงินของ วิว ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จส่วนตัว แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในกีฬาแบดมินตัน ซึ่งสร้างผลงานได้ดีในระดับนานาชาติอยู่เสมอในช่วงหลัง

“โอลิมปิก 2024” ความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจของทัพนักกีฬาไทย

การกลับมาอีกครั้งของจอมพลังไทย
ในวงการยกน้ำหนัก ประเทศไทยเป็นชาติที่มีความแข็งแกร่งมาโดยตลอด น่าเสียดายที่ในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศไทยไม่ได้เข้าแข่งขันจากกรณีพบสารต้องห้ามในร่างกายของนักกีฬา โอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จึงเป็นเวทีพิสูจน์ตัวเองของจอมพลังไทย ว่ายังอยู่ในระดับแนวหน้าเหมือนเดิมหรือไม่

และสุดท้าย ทัพนักกีฬายกน้ำหนักไทยก็กลับมาอีกครั้งอย่างสมศักดิ์ศรีเมื่อ ออย สุรจนา คำเบ้า คว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขัน รุ่น 49 กิโลกรัม ในขณะที่ ฟ่าง ธีรพงศ์ ศิลาชัย คว้าเหรียญเงินจากกีฬายกน้ำหนัก โดยทำน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 303 กิโลกรัม และนับเป็นเหรียญเงินเหรียญแรก ของกีฬายกน้ำหนักชายอีกด้วย และอีก 1 เหรียญเงินจาก เวฟ วีรพล วิชุมา รุ่น 73 กิโลกรัม ชาย ทำน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 346 กิโลกรัม

“โอลิมปิก 2024” ความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจของทัพนักกีฬาไทย

นอกจากนี้ นักกีฬาไทยยังได้อีก 1 เหรียญทองแดง จากผลงานของ บี จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ในรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 66 กิโลกรัมหญิง โดยแพ้ต่อ อีมาน เคลิฟ จากโมร็อกโกไปด้วยสกอร์ 5 ต่อ 0 คะแนนเหมือนคราวที่เคยพบกันในการแข่งขันชิงแชมป์โลก 2023 ที่ประเทศอินเดียครั้งก่อน อย่างไรก็ตาม จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ยังคงถือเป็นอีกหนึ่งที่น่าภาคภูมิใจของชาวไทยที่คว้าเหรียญทองแดงมาได้

ผลการแข่งขันที่น่าประทับใจของประเทศไทยในโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2024 ส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อวงการกีฬาไทย การคว้าเหรียญรางวัล 6 เหรียญดังกล่าวไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของประเทศ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ และได้ดึงดูดความสนใจและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ในการหันมาสนใจกีฬา

ผลงานเหล่านี้ยังสร้างความสนใจในกีฬาหลายประเภท เช่น เทควันโด, แบดมินตัน, มวย และยกน้ำหนักในประเทศไทย เมื่อเหล่านักกีฬาเหล่านี้กลายเป็นฮีโร่ของชาติ ความสำเร็จของพวกเขาน่าจะช่วยส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจอาชีพในวงการกีฬาและสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ที่จะเป็นอนาคตของวงการกีฬาไทย

นอกจากนี้ การที่ประเทศไทยสามารถคว้าเหรียญในโอลิมปิกครั้งนี้ยังทำให้ประเทศมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติในด้านกีฬา แม้ว่าไทยอาจจะยังไม่สามารถถูกมองว่าเป็นมหาอำนาจทางกีฬาโอลิมปิก แต่ความสำเร็จที่ต่อเนื่องในกีฬาเช่นเทควันโดและยกน้ำหนัก รวมถึงพัฒนาการของแบดมินตันและมวย ชี้ให้เห็นถึงการเติบโตของประเทศไทยในวงการกีฬาระดับโลก

“โอลิมปิก 2024” ความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจของทัพนักกีฬาไทย

การบ้านในอนาคต
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นผลงานที่ดีกว่าการคว้าเหรียญทอง 1 เหรียญและเหรียญทองแดง 1 เหรียญในโอลิมปิกโตเกียว 2020 แต่ผลงานนี้ก็ยังห่างไกลกับเป้าหมายที่ กกท. และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้วางไว้ก่อนการแข่งขัน ที่ตั้งเป้าไว้ถึง 6 เหรียญทอง

นอกจากนี้ ผลงานของนักกีฬายังไม่สามารถเทียบเคียงกับโอลิมปิกครั้งก่อนๆ ของไทยที่เคยคว้าเหรียญทองหลายเหรียญจากการแข่งขันในกรุงเอเธนส์ (2004), ปักกิ่ง (2008) และริโอ (2016) รวมถึงการที่ประเทศไทยสามารถคว้าเหรียญทองเพียง 1 เหรียญในสองโอลิมปิกล่าสุด โดยเป็นเหรียญทองที่ได้จากนักกีฬาคนเดียวกัน ยังทำให้สถานะของไทยในฐานะมหาอำนาจทางกีฬาของภูมิภาคดูไม่ชัดเจนนัก

เช่นเดียวกับการที่เราได้เห็นว่ายุคทองของมวยได้สิ้นสุดแล้ว โดยเหรียญของ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ไม่สามารถเทียบได้กับประวัติศาสตร์อันยาวนานของมวยไทยในโอลิมปิกที่เคยคว้าเหรียญทองมาแล้ว 4 เหรียญนับตั้งแต่ปี 1996 และการที่ทีมชายไม่สามารถคว้าเหรียญใดๆ นับตั้งแต่โอลิมปิกที่ลอนดอนเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ยิ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของมวยไทยเพิ่มมากขึ้น

“กอล์ฟ” ก็เช่นเดียวกัน โดย แม้ว่ากอล์ฟจะเป็นกีฬาอีกชนิดหนึ่งที่ประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในระดับสากล แต่นักกอล์ฟหญิงของไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอในการแข่งขัน LPGA ก็ไม่สามารถแสดงผลงานที่ดีในโอลิมปิกได้

จากนี้จึงน่าติดตามอย่างยิ่งว่าทั้งสมาคมกีฬาต่างๆรวมถึงการกีฬาแห่งประเทศไทยจะมีวิธีพัฒนานักกีฬาของตัวเองอย่างไรเพื่อทำผลงานให้ได้ดีกว่าการแข่งขันครั้งนี้