ย้อนไทม์ไลน์ศึกใหญ่ "ปาเกียว vs บัวขาว" ไฟต์ตำนานที่แฟนมวยต้องรอกันต่อไป

กระแสข่าวการชกระหว่าง 2 ตำนานกำปั้น "แมนนี่ ปาเกียว" ยอดมวยชาวฟิลิปปินส์เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก 8 รุ่น กับ "บัวขาว บัญชาเมฆ" นักมวยไทยระดัยตำนาน เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อกลางเดือน ก.ค. 66 เมื่อ โดย "บี บางปะกง" วรเทพ มากโภคา คอลัมนิสต์สายกีฬาชื่อดัง แจ้งข่าวใหญ่ว่า นายวินิจ เลิศรัตนชัย บิ๊กบอสใหญ่ บ.เฟรชแอร์ เฟสติวัล เผยถึงโปรเจกต์กีฬาระดับโลกลำดับต่อไปของบริษัท นั่นก็คือศึกมวยไฟต์ถล่มโลก “เดอะแมตช์ 3” ระหว่าง บัวขาว กับ ปาเกียว โดยไฟต์นี้จะระเบิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงต้นปี 2567 ที่ประเทศไทย 

จากนั้นในวันที่ 21 ก.ค. 66 ก็ได้มีการจัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ โดยนายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด เผยว่า การชกในครั้งนี้เกิดขึ้นได้เพราะ บัวขาว บัญชาเมฆ เอ่ยปากเป็นการส่วนตัวว่าอยากดวลกำปั้นกับ แมนนี่ ปาเกียว สักครั้งในชีวิต ซึ่งตนเห็นว่ามีความน่าสนใจและมีความเป็นไปได้ จึงประสานทุกฝ่ายจัดการชกไฟต์นี้ขึ้น

"เสี่ยวินิจ" ยังกล่าวว่า ศึกมวยไฟต์นี้ถือเป็นแมตซ์ประวัติศาสตร์ ที่จะได้เห็น 2 ยอดมวยโลกได้มาดวลหมัดกัน ที่สำคัญจะเป็นครั้งแรกที่ บัวขาว มาต่อยมวยสากล ซึ่งถือเป็นความท้าทายของ บัวขาว ในขณะที่ ปาเกียว เองถือเป็นนักมวยที่รู้จักกันทั่วโลกด้วยผลงานที่ยังไม่มีนักมวยคนไหนมาล้มได้ และที่สำคัญทั้งสองยังคงโลดแล่นอยู่บนสังเวียนผืนผ้าใบ การนำเอา 2 นักชกระดับตำนานมาดวลหมัดกันจึงเป็นปรากฏการณ์ที่เชื่อว่าวงการกีฬาโลกจะให้ความสนใจกับแมตช์นี้

ในส่วนของค่าตัวของนักมวยทั้งคู่นั้น ปธ. บริษัท เฟรชแอร์ ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่บอกถึงงบประมาณสำหรับการจัดศึกครั้งประวัติศาสตร์นี้ว่า ใช้เงินมากกว่า 25 ล้านดอลลาร์ (ราว 860 ล้านบาท) ทีเดียว

ส่วนกติกาการชก "เสี่ยวินิจ" เผยว่า จะชกกันในกติกาพิเศษของ The Match เพื่อให้มีความเป็นกลางสำหรับทั้งคู่ที่ถนัดกันคนละด้าน และความปลอดภัยของนักกีฬา โดยทั้งคู่จะชกกันในรูปแบบมวยสากล กำหนดการชก 6 ยก ยกละ 3 นาที พัก 2 นาที 

ผู้ชนะจะมีเงินรางวัลซึ่งคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และนอกจากนี้ยังจะได้เข็มขัดสำหรับผู้ชนะที่ WBC ทำขึ้นเป็นพิเศษโดยเฉพาะสำหรับนักชกระดับตำนาน ซึ่งหากมีการน็อกเกิดขึ้นจะมีรางวัลพิเศษให้กับผู้ชนะด้วย 

จากการแถลงข่าวดังกล่าวรวมถึงการที่ แมนนี่ ปาเกียว เดินทางมาร่วมงานด้วยตัวเอง ทำให้เป็นเรื่องที่แฟนมวยทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยทุกฝ่ายมั่นใจว่า การชกไฟต์นี้จะเกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน 

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไป กระแสข่าวการชกครั้งนี้ก็ค่อยๆเลือนหาย กระทั่งช่วงต้นเดือน ก.พ. 67 ที่ผ่านมา เริ่มมีข่าวว่าไฟต์นี้อาจ "ไม่ได้ไปต่อ"

เริ่มจากการที่ แชดด์ คอลลินส์ แชมป์โลกของดับเบิ้ลยูบีซีมวยไทย ซึ่งกำหนดขึ้นชกป้องกันตำแหน่งพบ ซาฟฟาส ไมเคิล เป็นคู่ประกอบรายการของศึกมวยครั้งนี้ ได้โพสต์ในอินสตาแกรมว่า “ข่าวร้าย - จากการที่ผมได้ร่วมชกประกอบรายการของไฟต์ระหว่าง บัวขาว กับ ปาเกียว วันที่ 20 เมษายน แต่ตอนนี้ผมได้รับการยืนยันว่าไฟต์นี้จะไม่ได้เดินหน้าต่อ"

เช่นเดียวกับ ''เสี่ยทิม'' ทิมาธี ธรรมมาชีวะ เจ้าของค่ายมวย ศิษย์สองพี่น้อง ก็ได้เปิดเผยผ่าน X (ทวิตเตอร์) ระบุว่า คู่มวยระหว่าง ธนัญชัย ศิษย์สองพี่น้อง กับ โจ ไรอัน ที่จะขึ้นชกในวันเดียวกัน มีอันต้องยกเลิกแล้ว

ซึ่งจากความเคลื่อนไหวทั้งหมดดังกล่าว ทำให้เกิดกระแสข่าวลือว่า ศึก “The Match of Legend” น่าจะถูกยกเลิกไป

อย่างไรก็ตาม เพจเฟซบุ๊กของ Fresh Air Festival ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธกระแสข่าวลือดังกล่าว โดยยืนยัน ว่า "The Match of Legends" ยังไม่ได้มีการถูกยกเลิกแต่อย่างใด กระแสข่าวที่ออกมาเป็นเพียงการรายงานที่ไม่ถูกต้องจากสื่อบางฉบับเท่านั้น

แม้ฝ่ายจัดการแข่งขันจะปฏิเสธข่าวลือ แต่แฟนมวยบางส่วนต่างก็เริ่มเชื่อแล้วว่า ไฟต์ระหว่าง ปาเกียว และ บัวขาว คงไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ เนื่องจากผ่านพ้นมาถึงเดือน ก.พ.แล้ว เหลือเวลาอีกแค่ 2 เดือนเศษก็จะถึงวันกำหนดชกที่วางไว้ในวันที่ 20 เม.ย. แต่กลับยังไม่มีการเปิดจำหน่ายบัตรแต่อย่างใด รวมถึงยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมใดๆทั้งสิ้น

กระทั่งล่าสุดในช่วงกลางดึกของวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา ฝ่ายจัดฯก็ได้แจ้งข่าวร้ายอย่างเป็นทางการว่า ศึก "The Match of Legends" มีอันต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปด้วยเหตุสุดวิสัย แต่ยังมั่นใจว่าจะจัดการชกไฟต์นี้ได้ภายในปี 2567 แน่นอน