svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

6 ก.พ. "วันมวยไทย" ย้อนดูประวัติ กับการผลักดันเป็น Soft Power ให้ไปสู่เวทีโลก

06 กุมภาพันธ์ 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

6 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็น "วันมวยไทย" ศิลปะการต่อสู้ที่มีพิษสงรอบด้าน ชวนรู้จักความเป็นมา กับการผลักดันให้เป็น Soft Power สู่เวทีโลก

"มวยไทย" นับเป็นศิลปะการต่อสู้ที่เก่าแก่ประเภทหนึ่งของโลก เป็นการใช้อาวุธของร่างกายที่เรียกว่า นวอาวุธ ได้แก่ มือ 2 / เท้า 2 / เข่า 2 / ศอก 2 และศีรษะ 1 ได้อย่างมีพิษสงรอบด้าน นอกจากนี้ ยังเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของชนชาติไทยมาตั้งแต่โบราณ ดังปรากฏในประวัติศาสตร์และพงศาวดารมาทุกยุคทุกสมัย 

รู้หรือไม่? แต่เดิม "วันมวยไทย" ไม่ใช่วันที่ 6 ก.พ.

มีชายคนหนึ่ง ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของ "มวยไทย" ชื่อของเขา คือ "นายขนมต้ม" นักมวยคาดเชือกสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเรื่องราวของนายขนมต้ม ปรากฏครั้งแรกใน พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ฉบับตัวเขียน โดยกล่าวว่า

"ฝ่ายพระเจ้าอังวะยังอยู่ ณะ เมืองย่างกุ้ง ทำการยกฉัตรยอดพระมหาเจดีย์เกษธาตุสำเรจ์แล้วให้มีการฉลอง จึ่งขุนนางพม่ากราบทูลว่า คนมวยเมืองไทมีฝีมือดียิ่งนัก จึ่งตรัสสั่งให้จัดหามาได้นายขนมต้มคนหนึ่ง เปนมวยดีมีฝีมือแต่ครั้งกรุงเก่า เอาตัวมาถวายพระเจ้าอังวะ พระเจ้าอังวะจึ่งให้จัดพม่าคนมวยเข้ามาเปรียบกับนายขนมต้มได้กันแล้ว ก็ให้ชกกันหน้าพระธินั่ง แลนายขนมต้มชกพม่าไม่ทันถึ่งยกก็แพ้ แล้วจัดคนอื่นเข้ามาเปรียบชกอิก 

นายขนมต้มชกพม่าชกมอญแพ้ถึ่งเก้าคนสิบคนสู้ไม่ได้ พระเจ้าอังวะทอดพระเนตรยกพระหัตถ์ตบพระอุระตรัสสรรเสรีญฝีมือนายขนมต้มว่า ไทมีพิศม์อยู่ทั่วตัว แต่มือเปล่าไม่มีอาวุธเลยยังสู้ได้ คนเดียวชณะถึ่งเก้าคนสิบคนฉนี้ เพราะจ้าวนายไม่ดีจึ่งเสียบ้านเมืองแก่ข้าศึก ถ้าจ้าวนายดีแล้วไหนเลยจะเสียกรุงศรีอยุทธยา แล้วพระราชทานรางวัลแก่นายขนมต้มโดยสมควร"

6 ก.พ. \"วันมวยไทย\" ย้อนดูประวัติ กับการผลักดันเป็น Soft Power ให้ไปสู่เวทีโลก
ความกล้าหาญของนายขนมต้ม ดังที่ปรากฏในพงศาวดาร ทำให้ในวงการมวยไทยได้ยกให้เหตุการณ์ที่เขาชกกับนักมวยพม่าในวันที่ 17 มี.ค. เป็น "วันมวยไทย" เพื่อเชิดชูเกียรติของนายขนมต้ม นักมวยไทยผู้พิชิตนักมวยชาวพม่าในวันนั้น

สถาปนา 6 ก.พ. ของทุกปี เป็น "วันมวยไทย" 
6 ก.พ. \"วันมวยไทย\" ย้อนดูประวัติ กับการผลักดันเป็น Soft Power ให้ไปสู่เวทีโลก

ช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา "มวยไทย" ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ครบเครื่อง ได้มีการถ่ายทอดและเผยแพร่อย่างกว้างขวาง ไม่ใช่แค่เฉพาะในเมืองไทย แต่ยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศโซนยุโรปและทั่วโลก จึงเป็นกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอย่างไม่ต้องสงสัย 

ด้วยความสำคัญนี้เอง กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จึงได้ประกาศขึ้นทะเบียนมวยไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2553 ซึ่งจะเป็นมาตรการสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดความตระหนักในคุณค่าการยกย่ององค์ความรู้และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ

นอกจากนี้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับภาคเอกชนที่ดำเนินการเกี่ยวกับมวยไทย และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มีมติเป็นเอกฉันท์ในการร่วมกันผลักดันให้มีการสถาปนา "วันมวยไทย" ขึ้น โดยได้พิจารณาจากข้อเสนอต่าง ๆ อย่างรอบคอบ

จนในที่สุดได้เห็นชอบให้วันขึ้นเสวยราชสมบัติของสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) คือ วันที่ 6 ก.พ. เป็นวันมวยไทย (วันเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติตรงกับวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2245) เนื่องจากมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ปรากฏชัดเจน

พระปรีชาสามารถด้านมวยไทย ของ "สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8" 

สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถด้านมวยไทยเป็นที่ประจักษ์ คือ

  1. สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 เป็นพระมหากษัตริย์เพียงพระองค์เดียวที่เสด็จออกไปชกมวยกับสามัญชน
  2. สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 เป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีความสามารถเกี่ยวกับมวยไทยมาก ทรงคิดท่าแม่ไม้ ไม้กลมวยไทยขึ้นมาเป็นแบบฉบับเฉพาะพระองค์ เรียกว่า "มวยไทยตำรับพระเจ้าเสือ" และได้รับการถ่ายทอดเป็นตำรามวยไทยให้แก่คนรุ่นหลังจนถึงทุกวันนี้
  3. สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 เป็นพระมหากษัตริย์ที่ใช้ศิลปะมวยไทยในการปกป้องราชอาณาจักรให้รอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของชาวต่างชาติ

ในการนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2554 กำหนดให้วันที่ 6 ก.พ. ของทุกปี เป็น "วันมวยไทย" อย่างเป็นทางการ ส่วนวันที่ 17 มี.ค. ซึ่งเคยถือว่าเป็น วันมวยไทย แต่เดิมนั้น ได้มีการปรับเปลี่ยนเป็น "วันนายขนมต้ม" หรือ "วันนักมวยไทย" แทนในเวลาต่อมา

รัฐบาลผลักดัน "มวยไทย" เป็น Soft Power สู่เวทีโลก

นายพิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านกีฬา นำคณะผู้บริหารวัน แชมป์เปี้ยนชิพ และ "บัวขาว บัญชาเมฆ" เข้าพบ นายกฯ เศรษฐา
ย้อนไปเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2566 นายพิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านกีฬา ในฐานะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา นำคณะผู้บริหารวัน แชมป์เปี้ยนชิพ และ ร.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ "บัวขาว บัญชาเมฆ" นักมวยไทย เข้าพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดย นายกฯ เศรษฐา ระบุภายหลังนายพิมลและคณะเข้าพบว่า มวยไทย เป็นซอฟต์พาวเวอร์อันดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่มีคุณค่า และต่างประเทศให้การยอมรับ ทั้งการจัดตั้งค่ายมวยไทยในต่างประเทศ จึงถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ อันดับ 1 สร้างมูลค่าให้ประเทศได้มหาศาล รวมทั้ง ยังมีการถ่ายทอดสดการแข่งขัน การจำหน่ายอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย 

อีกทั้ง ประเทศไทย ยังมีนักมวยระดับโลก อย่าง "บัวขาว บัญชาเมฆ" ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่ ที่อยากเข้าสู่วงการมวยไทยด้วย ดังนั้น มวยไทย จึงเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ที่มีศักยภาพ และสามารถไปต่อได้
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง
ทั้งนี้ รัฐบาลมีแผนการผลักดันมวยไทยในการเป็นซอฟต์พาวเวอร์ โดยควรจะต้องเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว ทั้งเกาะสมุย และ จ.ภูเก็ต ที่มีนักท่องเที่ยว มาเข้าค่ายอบรมมวยไทย และสนามมวยราชดำเนิน และลุมพินี ยังเป็นสนามมวยที่ยิ่งใหญ่ ที่ผู้ที่สนใจอยากเรียนมวยไทย ก็จะมาตามสถานที่เหล่านี้ รวมถึงการสนับสนุนนำมวยไทยไปบรรจุไว้ในหลาย ๆ กิจกรรมทั่วโลก ทั้งในหลักสูตรพลศึกษา หรือค่ายอบรมมวยในต่างประเทศ ก็จะสามารถช่วยขยายอาชีพให้กับนักมวยได้
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง

"เหมือนนักฟุตบอลอาชีพ ที่เป็นผู้ฝึกสอนแต่ละสโมสร เพื่อต่อยอดอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคงได้ จึงมั่นใจว่า หลังจากนี้จะเป็นการคิกออฟซอฟต์พาวเวอร์ อันดับ 1 ของประเทศ สามารถเดินหน้าทันที ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุน และอำนวยความสะดวก"  นายเศรษฐา กล่าว

ตั้งเป้าให้ "มวยไทย" ไป "โอลิมปิก" - พัฒนาให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกมากขึ้น

นายกฯ เศรษฐา และคณะ เข้าชมกิจกรรมการแสดงมวยไทยและการไหว้ครู ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี
หลัง "นายกฯ เศรษฐา" แย้มว่าเตรียมจะคิกออฟ "มวยไทย" ให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ อันดับ 1 ของประเทศ ก็ได้เดินทางไปเยี่ยมชมกิจกรรมการแสดงมวยไทยและการไหว้ครูของเยาวชนมวยไทยและนักมวยต่างประเทศ ณ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2567 
6 ก.พ. \"วันมวยไทย\" ย้อนดูประวัติ กับการผลักดันเป็น Soft Power ให้ไปสู่เวทีโลก

โดยวันนั้น นอกจาก นายกฯ แล้ว ยังมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ,นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง , น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ,นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร , พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ,ร.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ "บัวขาว บัญชาเมฆ" ยอดนักมวยชื่อดังระดับโลก เยี่ยมชมกิจกรรมดังกล่าว ซึ่ง "บัวขาว" ก็ได้ร่วมทำการแสดงด้วย
6 ก.พ. \"วันมวยไทย\" ย้อนดูประวัติ กับการผลักดันเป็น Soft Power ให้ไปสู่เวทีโลก
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลตั้งเป้าให้ "มวยไทย" ไปสู่โลกให้ได้ เธอเชื่อว่าทุกคนอยากเห็นชาติตัวเองไปอยู่บนเวทีโลก ซึ่งเป็นความฝันของคนไทย และแน่นอนว่าการบอกว่า มวยไทยจะไปโอลิมปิกก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่รัฐบาลก็เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน เราจะให้มวยไทยมีรากฐานมีเป็นที่ยอมรับที่ชัดเจนขึ้น และจะสร้างมาตรฐานที่มีหลักสูตรมวยไทยที่ชัดเจนเป็นระบบแล้วก็มีการให้ความรู้แก่ชาวต่างชาติ ให้ชาวต่างชาติเข้ามาในไทยมากขึ้น

นอกจากนั้น เราจะยกระดับอาชีพครูมวย ให้มีใบประกอบวิชาชีพแล้วก็พัฒนาองค์ความรู้ทั้งระบบ รวมถึงเรื่องของการสอนมวย รวมทั้ง การจัดแข่งขันมวยให้มากยิ่งขึ้นให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ถือเป็นการสื่อสารอย่างหนึ่งจากด้านกีฬาของประเทศไทยให้ไปสู่สายตาโลก 

รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ บอกด้วยว่า รัฐบาลได้มองเห็นว่า การกีฬาของไทยที่โดดเด่นและอยากให้เป็นศูนย์กลางหนึ่งของการกีฬาที่จะได้เผยแพร่วัฒนธรรมไทยของเรา อย่างการไหว้ การออกอาวุธ รวมถึงเสื้อผ้าให้สามารถส่งออกวัฒนธรรมของเราได้ 

"มวยไทยถือว่าเป็นอาวุธสำคัญที่ทำให้ต่างชาติสามารถรักประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้คือยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลได้มองเห็น เราจะพัฒนาทั้งระบบให้มวยไทยมีศักยภาพให้มากยิ่งขึ้น และให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกมากยิ่งขึ้น" น.ส.แพทองธาร  กล่าวทิ้งท้าย

logoline