svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

แฟนบอลไทยว่าไง? ถ้า“อ๋อ วังโอ่ง” ลงสมัคร“นายกสมาคมฟุตบอล” จะทำ 13 ข้อนี้!!

02 ธันวาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แฟนฟุตบอลไทยว่ายังไง “อ๋อ วังโอ่ง” คอลัมนิสต์ฟุตบอลไทยรุ่นเก๋าของวงการ อดีตผู้สื่อข่าวเครือเนชั่น โพสต์เฟซบุ๊กบอก ถ้าสมัคร “นายกสมาคมฟุตบอล” จะทำนโยบาย 13 ข้อนี้!!

2 ธันวาคม 2566 จากกรณี คณะกรรมการการเลือกตั้ง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะจัดการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกตั้งสภากรรมการ เนื่องจาก “พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง” นายกสมาคมฟุตบอล แสดงความประสงค์จะลาออกจากตำแหน่ง ภายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งจะทำให้สภากรรมการทั้งหมดพ้นจากตำแหน่งด้วย 

สภากรรมการ จึงได้มีมติกำหนดให้มีการเลือกตั้งสภากรรมการชุดใหม่ ภายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ (แห่งใหม่ด้านหลังราชมังคลากีฬาสถาน) เลขที่ 286 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 

ขณะที่ แคนดิเดต จะลงช่วงชิง ประมุขลูกหนังไทย ในตำแหน่ง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เริ่มเปิดตัวกันแล้วหลายราย พร้อมเปิดนโยบายสำคัญ หากมีโอกาสเข้ามาบริหารสมาคมฟุตบอล

ล่าสุด “อ๋อ วังโอ่ง” โพสต์ถึงหากลงสมัครนายกสมาคมฟุตบอล เขาจะทำอะไรบ้าง  

สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กำหนดการเลือกตั้ง นายกฟุตบอลไทย ช่วงกุมภาพันธ์ 2567

“อ๋อ วังโอ่ง” นายคมกฤช นภาลัย ผู้สื่อข่าวและคอลัมนิสต์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “อ๋อ วังโอ่ง” ถึงแนวทางการพัฒนาฟุตบอลไทย ในฐานะ นายกสมาคมฟุตบอล มีรายละเอียดระบุว่า... 

ถ้าผมสมัครชิงเก้าอี้นายกสมาคม ผมจะทำแบบนี้
นโยบายฟุตบอลไทย


1. แก้ข้อบังคับฯ ยกเลิกสโมสรรับรองผู้สมัครเพื่อให้เปิดโอกาสคนทั่วไปมาสมัครได้กว้างขึ้น และคืนสิทธิ์ให้สโมสรสมาชิกทุกแห่งให้มีสิทธิ์เป็นโหวตเตอร์ และเข้าร่วมประชุมใหญ่

2. เลิกความฝ้นไปฟุตบอลโลก หันมาเผชิญความจริง ด้วยการสร้างระบบรากฐานฟุตบอลไทยอย่างจริงจัง

3. จัดให้ครูพละทั่วประเทศเข้าอบรมผู้ฝึกสอนขั้นพื้นฐาน

  • จากนั้นสนับสนุนหางบประมาณ เพื่อให้ครูมีโอกาสอบรมในระดับที่สูงขึ้น
  • จัดอบรมโค้ช ให้ครอบคลุมในทุกประเภทของฟุตบอล ฟุตซอล

4. จัดระบบฟุตบอลไทย ให้ความสำคัญกับลีกรากหญ้ามากขึ้น โดยเฉพาะลีกมหาวิทยาลัย ต้องจริงจัง มีการคัดเลือกนักเตะเพื่อมาทดสอบให้สโมสรมานั่งชมแล้วคัดเลือกไปเข้าทีม เหมือนระบบเทรล ระบบดราฟท์ ประสานกรมพลศึกษา

  • พัฒนารูปแบบการแข่งขันให้สอดคล้องปฏิทินฟุตบอลเอเชีย

5. แยกบริษัท ไทยลีก จำกัด ออกจากการบริหารของสมาคม ให้สโมสรสมาชิกบริหารกันเอง โดยสมาคมจะมีหน้าที่เพียงสมัครทีมตัวแทนแข่งขันระดับสโมสรเอเชีย

  • สร้างความแข็งแกร่งให้ลีกรอง เพื่อบริหารกันเองในแนวทางเดียวกับไทยลีก

อ๋อ วังโอ่ง แชมป์แฟนพันธุ์แท้ ฟุตบอลไทย

6. แยกงานผู้ตัดสินออกจากสมาคม หาสิทธิประโยชน์เลี้ยงตัวเอง ภายในระยะเวลา 4 ปี

7. ประสานรัฐบาล เพื่อออก พรก.ลดหย่อนภาษีให้แก่ผู้สนับสนุน เป็นแรงจูงใจ และนำเสนอเป็น พรบ.ต่อไปในอนาคต

8. ยกระดับ และส่งเสริมฟุตซอล ชาย/หญิง ทั้งใน และเกมนานาชาติอย่างจริงจัง ตั้งแต่เยาวชนถึงชุดใหญ่ รวมไปถึงฟุตบอลหญิง, ฟุตบอลชายหาด ต้องมีลีกอาชีพรองรับ

9. จัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือนักฟุตบอล โดยอาจใช้วิธีหักเปอร์เซ็นต์จากรายได้ของสมาคม และ/หรือหักจากรายได้สนับสนุนสโมสร

10. หักเงินส่วนหนึ่งจากรายได้สมาคม เพื่อสะสมเป็นเงินของสมาคมในการหาที่ดินจัดสร้างที่ทำการ ศูนย์ฝึกเป็นของสมาคมเอง ภายในกรอบระยะเวลา 10-15 ปี โดยกู้เงินสร้าง และใช้เงินแต่ละปีผ่อนจ่าย

11. จัดทำทะเบียนเลขประจำตัวนักเตะในระบบทุกคน มีฐานข้อมูล ตั้งแต่ระดับยุวชน เพื่อทำระบบ compensation ให้สมบูรณ์

12. จัดตั้งกองทุนสวัสดิการ ช่วยเหลือนักฟุตบอล

13. ข้อสุดท้ายลักกี้นัมเบอร์ เพิ่มบทลงโทษในข้อบังคับฯ สภากรรมการที่ทุจริตให้รับโทษทางกฎหมาย ทั้งยึดทรัพย์ และลากเข้าซังเต
อ๋อ วังโอ่ง ผู้คร่ำหวอดในวงการฟุตบอลไทย
   ย้อนประวัติ “อ๋อ วังโอ่ง”   
สำหรับ “อ๋อ วังโอ่ง” นอกจากเป็นผู้สื่อข่าวและคอลัมนิสต์กีฬาแล้ว ยังมีตำแหน่ง "แชมป์แฟนพันธุ์แท้" ตอน "แฟนพันธุ์แท้บอลไทย" การันตีในความเชี่ยวชาญด้านฟุตบอลไทยอีกด้วย 

ย้อนประวัติดู ก่อนจะมาเป็น “อ๋อ วังโอ่ง” ที่รู้จริงเรื่องฟุตบอลไทยนั้น “บับเบิ้ล”  ยิ่งรัก รักษ์สุวรรณ เคยเขียนไว้ว่า อ๋อ วังโอ่ง เขาแจ๋วจริง ถ้าย้อนประวัติดูกันจะรู้ซึ่งว่าทำไม!!

สำหรับ อ๋อ วังโอ่ง กว่าจะรู้จริงเรื่องฟุตบอลไทยอย่างวันนี้ เริ่มตั้นแต่เป็นเด็กบ้านนอกที่อุบลราชธานี เตะบอลตามประสาเด็กไทยทั่วไปมีหนังสือฟุตบอลสยามเป็นเพื่อนคู่กาย 

ฝีเท้าของ “อ๋อ วังโอ่ง” ในวัยเด็กถือว่าไม่ธรรมดา เลยได้ดีติดเป็นตัวแทนจังหวัดในระดับเยาวชน "โค้กคัพ" ก่อนจะเข้าสู่เมืองกรุงมาร่ำเรียนที่ ม.กรุงเทพ ในโควต้านักกีฬาช้างเผือก 

แม้ว่าชีวิตจะเอาดีทางการเป็นนักเตะไม่ได้ แต่พอจบจากระดับมหาวิทยาลัย "อ๋อ วังโอ่ง" ก็มาเอาดีทางการเป็นนักข่าวสายฟุตบอลไทยนับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเข้าสู่แวดวงสื่อสารมวลชนหลากหลายสังกัด รวมทั้งฝ่ายกีฬาของ "หนังสือพิมพ์คมชัดลึก"  กระทั่งวันนี้เขายังคงทำงานสายงานข่าวในโลกออนไลน์ ติดตามทำข่าวฟุตบอลไทยในทุกรายการ

   “อ๋อ วังโอ่ง” ผู้บันทึกสถิติฟุตบอลไทย   
นอกจากความสามารถทางฟุตบอลแล้ว “อ๋อ วังโอ่ง” เป็นบุคคลคนเดียวในประเทศนี้ที่มีข้อมูลสถิติของนักเตะไทยแบบฟูลออฟชั่น ทั้งใครติดทีมชาติครั้งแรกเมื่อไร ลงเล่นไปเล่นกี่นัด ยิงไปกี่ประตู ซึ่งข้อมูลนี้ไม่ได้มั่วเต้าเขียนเอง แต่เป็นการบันทึกสถิติมาตลอดหลายปี

อ๋อ วังโอ่ง เก็บบันทึกสถิติฟุตบอลทุกอย่าง กระทั่งเคยมีโอกาสเข้าไปทำงานร่วมกับ สมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในตำแหน่งประชาสัมพันธ์ ทำหน้าที่เก็บบันทึกและเผยแพร่เรื่องราวของฟุตบอลไทยสู่สาธารณชน ตามอุดมการณ์อันแรงกล้าของเขาที่อยากจะบอกคนไทยว่า “บอลไทยน่ะ เชียร์เป็นมั้ย”

ด้วยอุดมการณ์และทุกลมหายใจที่มีแต่คำว่าฟุตบอลไทย ตามประโยคเด็ดของแฟนบอลไทยที่ว่า “บอลนอกแค่สะใจ บอลไทยอยู่ในสายเลือด” จึงไม่น่าแปลกใจที่ “อ๋อ วังโอ่ง” จะครองตำแหน่งแชมป์แฟนพันธุ์แท้บอลไทย และถือเป็นห้องสมุดฟุตบอลไทยที่มีชีวิต
คมกฤช นภาลัย หรือ "อ๋อ วังโอ่ง"
ขอบคุณข้อมูล :

logoline