svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

ส่องผลงาน "อังเก้ ปอสเตโคกลู" กุนซือผู้พา "สเปอร์ส" รั้งจ่าฝูงแบบไร้พ่าย

24 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กลายเป็นทีมที่ทำผลงานได้น่าเซอร์ไพรส์ที่สุดของการออกสตาร์ทซีซั่นนี้ไปแล้ว สำหรับ "สเปอร์ส" ของกุนซือใหม่ "อังเก้ ปอสเตโคกลู" เขาทำอย่างไรทีมถึงร้อนแรงขนาดนี้ ทั้งที่ต้องเสียดาวยิงระดับตำนานอย่าง "แฮร์รี่ เคน" ไป

ทันทีที่ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงทีมชาติอังกฤษของ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ตัดสินใจอำลาทีมรักที่ค้าแข้งมาตั้งแต่วัยเยาว์ ย้ายไปหาประสบการณ์ใหม่ รวมถึงการไล่ล่าหาแชมป์แรกในชีวิตกับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่แห่งบุนเดสลีก้า ทำให้แฟนบอลต่างเป็นกังวลว่า น่าจะเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่ สเปอร์ส จะทำผลงานได้มาตรฐานเดิม หรืออาจจะหลุดจากตำแหน่งท็อป 6 ไปเสียด้วยซ้ำ

แต่เวลานี้ สเปอร์ส กลายเป็นทีมที่ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงที่สุดของพรีเมียร์ลีก ในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ไปแล้ว ด้วยสถิติชนะ 7 เสมอ 2 ยังไม่แพ้ใคร รั้งจ่าฝูงของตารางแบบเดี่ยวๆ โดยนำหน้าแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และรองแชมป์เก่า อาร์เซน่อล อยู่ 2 แต้ม แถมยังมีผลต่างประตูได้เสียดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีก (+12) เป็นรองแค่ นิวคาสเซิ่ล (+15) แค่ทีมเดียวเท่านั้น

หากย้อนไปมองสถานการณ์ก่อนหน้านี้ สเปอร์ส มีเค้าลางว่าจะต้องมาเริ่มต้นสร้างทีมใหม่ตั้งแต่จบซีซั่นที่ผ่านมา เพราะพวกเขาต้องเปลี่ยนกุนซือถึง 4 ครั้งในปีเดียว เริ่มจากการปลด อันโตนิโอ คอนเต้ ที่มีปัญหาขัดแย้งกับบอร์ดบริหาร ก่อนตั้ง คริสเตียน สเตลลินี่ ทำหน้าที่แทนชั่วคราว แต่คุมทีมได้ไม่นานก็เปลี่ยนมาเป็น ไรอัน เมสัน ที่เข้ามารักษาการแทนจนจบฤดูกาล กระทั่งสุดท้ายก็ได้แต่งตั้ง "อังเก้ ปอสเตโคกลู" กุนซือชาวออสเตรเลียที่ดึงตัวมาจาก กลาสโกว์ เซลติก มาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ 

อังเก้ ปอสเตโคกลู กุนซือคนใหม่ของ สเปอร์ส (ภาพจาก twitter: Tottenham Hotspur)

ซึ่งแม้ "แอนจ์" จะเป็นกุนซือที่ทำผลงานได้น่าสนใจ ด้วยการพา "ม้าลายเขียว-ขาว" คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ แต่แฟนบอลก็ยังเป็นกังวลว่านั่นเป็นเพียงลีกเล็กๆอย่างสกอตแลนด์ และเจ้าตัวยังไม่เคยพิสูจน์ตัวเองกับลีกใหญ่มาก่อน และจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา กุนซือจากลีกสกอตต์หลายรายต่างก็เอาชื่อมาทิ้งยามเมื่อย้ายมาคุมทัพในพรีเมียร์ลีกแทบทั้งสิ้น

และหลังจากแต่งตั้งกุนซือคนใหม่ได้แค่ไม่กี่สัปดาห์ สเปอร์ส ก็ต้องพบข่าวร้ายครั้งใหญ่ เมื่อดาวยิงตัวเก่งอย่าง แฮร์รี่ เคน ตัดสินใจย้ายไป บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนปิดตลาดซื้อขายนักเตะไม่นานนัก ทำให้ทีมไม่มีเวลาหาดาวยิงคนใหม่มาเสริมทัพ

แฮร์รี่ เคน ย้ายไปหาความท้าทายใหม่ในบุนเดสลีกา (ภาพจากเว็บไซต์ FC Bayern Much)

อย่างไรก็ตาม 9 เกมแรกในพรีเมียร์ลีก สเปอร์ส เก็บชัยชนะได้ถึง 7 นัด และเสมออีก 2 นัด ขณะที่ ปอสเตโคกลู ก็ผงาดคว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนได้ถึง 2 เดือนติดต่อกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากเจ้าตัวได้นำเอาแท็กติกใหม่ๆมาสู่ทีม โดยเฉพาะการเพรสซิ่งและการครองบอลที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง

จากสถิติของ “ออปต้า” พบว่า มีแค่ทีมเดียวเท่านั้นในพรีเมียร์ลีกที่มีสถิติการแย่งบอลในแดนคู่แข่งดีกว่า สเปอร์ส ซึ่งนั่นหมายความว่าแท็กติกการเพรสซิ่งตั้งแต่แดนบนของพวกเขามีประสิทธิภาพแค่ไหน ไม่นับถึงจำนวนประตูและโอกาสการยิง ที่ สเปอร์ส ก็อยู่ในระดับหัวแถวของลีกเช่นกัน

นอกจากแท็กติกการเพรสซิ่งหนักหน่วงที่นำมาใช้อย่างได้ผลแล้ว การเซ็นสัญญาคว้านักเตะใหม่ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา สเปอร์ส ก็บริหารจัดการได้ดีเช่นกัน โดยสโมสรได้ตัวเซ็นเตอร์แบ็กดาวโรจน์อย่าง มิกกี้ ฟาน เดอ เวน มาจับคู่กับ คริสเตียน โรเมโร่ ได้อย่างน่าประทับใจ เช่นเดียวกับนายทวาร กูเยลโม่ วิคาริโอ ที่ดึงตัวมาจาก เอ็มโปลี ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมชนิดที่แฟนๆแทบจะลืมคนเก่าอย่าง อูโก้ โยริส ไปแล้ว รวมไปถึงแข้งที่ยืมตัวมาตั้งแต่ซีซั่นก่อนแล้วทำผลงานได้ดีจนตัดสินใจซื้อขาด อย่าง เปโดร ปอร์โร่ และ เดยัน คูลูเซฟสกี้ 

แต่การเซ็นสัญญาที่น่าประทับใจที่สุดของ สเปอร์ส ในซีซั่นนี้ต้องยกให้ดีลของ เจมส์ แมดดิสัน เพลย์เมกเกอร์คนใหม่ที่ย้ายมาจาก เลสเตอร์ โดยเจ้าตัวไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวกับทีมใหม่แม้แต่น้อย เพราะแค่ 9 เกมแรก เขาก็ยิงไปแล้ว 3 ประตูกับอีก 5 แอสซิสต์ทีเดียว

เจมส์ แมดดิสัน การเซ็นสัญญาแห่งฤดูกาลของ สเปอร์ส (ภาพ: Reuters)

จึงอาจกล่าวได้ว่า สเปอร์ส กำลังเดินหน้าสู่การสร้างทีมใหม่อย่างเต็มตัวหลังยุคของ แฮร์รี่ เคน โดยมี อังเก้ ปอสเตโคกลู เข้ามาเป็นผู้เซตระบบ ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า กุนซือผู้นี้จะสามารถพาทีมคว้าแชมป์รายการใดได้หรือไม่ เพราะพวกเขาห่างหายความสำเร็จมานานถึง 15 ปีแล้ว นับตั้งแต่ได้แชมป์ คาร์ลิ่ง คัพ (ลีก คัพ) เมื่อฤดูกาล 2007/08 เป็นเกียรติยศครั้งสุดท้าย

logoline