
ควันหลงจากศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา (21 ก.พ.) ที่ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดบ้านพ่ายต่อ เรอัล มาดริด แชมป์เก่า ไปแบบขาดลอย 2-5
โดยเกมนี้ "หงส์แดง" เริ่มต้นได้ดีกว่า และขึ้นนำก่อน 2-0 จาก ดาร์วิน นูนเญซ นาทีที่ 4 และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในนาทีที่ 14 แต่ "ราชันชุดขาว" ก็มายิงคืน 5 ประตูรวด จาก วินิซิอุส จูเนียร์ นาทีที่ 21 และ 36, เอแดร์ มิลิเตา นาทีที่ 47 ปิดท้ายด้วย คาริม เบนเซม่า นาทีที่ 55 และ 67 ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ต้องบุกไปเอาชนะถึงถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ให้ได้ถึง 3 ประตูเพื่อตีเสมอ หรือยิงให้มากกว่านั้นถึงจะผ่านเข้ารอบต่อไป
หลังจบเกม เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ "หงส์แดง" กล่าวว่า "เราเริ่มต้นกันได้ดีมาก มันเป็นการออกสตาร์ทที่สมบูรณ์แบบอย่างที่เราต้องการ เป็นครึ่งแรกที่ดีทุกอย่างยกเว้นประตูที่เราเสียไป ประตูแรกเราดันขึ้นสูงมากไปและไล่ตามพวกเขาไม่ทัน ส่วนประตูที่สองเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น"
"การป้องกันของเราไม่ดีเอาเสียเลย จากนั้นมันก็เป็น 3-2 เราไม่สามารถคุมจังหวะเกมเอาไว้ได้ และหลังจากนั้นก็กลับสู่เกมไม่ได้อีกเลย มาดริดมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะมาทำได้อีกประตูจากลูกยิงแฉลบ"
"นัดที่สองเราจะบุกไปที่นั่นและพยายามเล่นฟุตบอล มันเป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ แต่ก่อนหน้านั้นเราต้องเล่นเกมพรีเมียร์ลีกก่อน และเราต้องทำให้แน่ใจว่าเราได้บทเรียนและเรียนรู้จากเกมนี้"
ขณะที่ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ เรอัล มาดริด กล่าวว่า "การชนะได้แบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เหนือสิ่งอื่นใดนั่นเพราะวิธีการที่เกมเริ่ม เราไม่เคยเสียความมั่นใจ เราเริ่มคอนโทรลเกมได้ทีละนิด เรามีประสิทธิภาพในแดนหน้า และ วินิซิอุส ก็โชว์ฟอร์มได้น่าเหลือเชื่อ"
"นี่เป็นเพียงยกแรกของรอบน็อกเอาต์ มันเข้าทางเรา แต่เราต้องจินตนาการด้วยว่าในเลกสอง เราอาจจะเจอความเจ็บปวดและต้องทำงานให้หนักต่อไป"
"ลิเวอร์พูล เป็นสุดยอดทีมซึ่งทำให้เราเจอปัญหาในครึ่งแรก ดังนั้นผมจึงอยากจะบอกว่าการแข่งขันยังไม่จบ ไม่มีทาง"