svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

ย้อนสถิติเฮดทูเฮด "ลิเวอร์พูล-เรอัล มาดริด" ก่อนดวลเดือดคืนนี้

21 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ย้อนประวัติศาสตร์การพบกันของทั้ง "ลิเวอร์พูล" และ "เรอัล มาดริด" ก่อนที่ทั้งคู่จะมีคิวพบกัน ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนนี้

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกแรก คืนนี้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จะเปิดสนาม แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ในเวลา 03.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง beIN Sports 1

สำหรับเกมนี้ถือเป็นการรีแมตช์จากนัดชิงชนะเลิศฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นเป็น เรอัล มาดริด ที่ผงาดคว้าแชมป์สมัยที่ 14 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ หลังเอาชนะ ลิเวอร์พูล หวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ วินิซิอุส จูเนียร์

ส่วนสถิติการพบกันของทั้งคู่ เคยเจอกันมาแล้ว 9 ครั้งในรายการนี้ โดยเป็น เรอัล มาดริด ที่มีสถิติเหนือกว่า ชนะไป 5 ครั้ง ลิเวอร์พูลชนะ 3 ครั้ง และเสมอกัน 1 ครั้ง

ครั้งแรกที่เจอกันของทั้งคู่ เกิดขึ้นในนัดชิงชนะเลิศ ยูโรเปี้ยน คัพ ฤดูกาล 1980-81 ซึ่งเป็น "หงส์แดง" ที่ชนะไปได้ 1-0 คว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยที่ 3

จากนั้นทั้งคู่มาเจอกันอีกครั้งในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งเป็น ลิเวอร์พูล ที่บุกไปชนะถึงสเปน 1-0 ก่อนกลับมาถล่มที่แอนฟิลด์อีก 4-0
ย้อนสถิติเฮดทูเฮด \"ลิเวอร์พูล-เรอัล มาดริด\" ก่อนดวลเดือดคืนนี้

ต่อมาในรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาล 2014/15 ทั้งคู่มีโอกาสมาเจอกันอีกครั้ง คราวนี้ "ราชันชุดขาว" ล้างตาได้สำเร็จ ด้วยการชนะได้แบบไปกลับ 3-0 และ 1-0

การเจอกันครั้งที่ 6 ของทั้งคู่ เกิดขึ้นในนัดชิงชนะเลิศฤดูกาล 2017/18 ซึ่งเป็นเกมในความทรงจำของแฟนบอลหลายๆคน จากเหตุการณ์ที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปะทะกับ เซร์คิโอ รามอส จนบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว รวมถึงจังหวะผิดพลาดของ ลอริส คาริอุส และ 2 ประตูสุดสวยของ แกเร็ธ เบล สุดท้ายเป็น เรอัล มาดริด ที่ชนะไป 3-1

ฤดูกาล 2020/21 ทั้งคู่เจอกันอีกครั้งในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งก็เป็น "ราชันชุดขาว" ที่จัดการย้ำแค้นได้อีกครั้ง ด้วยการชนะในบ้าน 3-1 ก่อนมายันเสมอที่แอนฟิลด์ 0-0 ส่วนนัดล่าสุดเกิดขึ้นในนัดชิงปีที่ผ่านมาดังที่กล่าวไปแล้ว

logoline