svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

แม่น้ำกกพบปลาป่วยเพิ่ม! ตุ่มขึ้นผิดปกติ ส่งตรวจอีก 5 ชนิด

ปลาซอมบี้! แม่น้ำกกพบปลาป่วยเพิ่ม! ตุ่มขึ้นผิดปกติ ส่งตรวจอีก 5 ชนิด ชาวประมงเดือดร้อนหนัก ต้องการเห็นความรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่คำอธิบายว่า "ยังไม่เกินมาตรฐาน"

12 มิถุนายน 2568 ภายหลังเพจเฟซบุ๊ก "สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต" โพสต์รูปภาพ พร้อมข้อความระบุถึงการตรวจพบ ปลาในแมน้ำกก ติดเชื้อรุนแรงเพิ่มเติม ซึ่งเป็นปลาที่ชาวประมงจับได้ที่บริเวณแม่น้ำกก ก่อนโทรประสานให้หน่วยงานมารับไปตรวจ

ต่อมา "สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต" ได้นำปลาทั้งหมด ที่มาจากแม่น้ำกก 3 จุด คือ

  1. ต้นน้ำที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่  
  2. กลางน้ำกก ต.ริมกก อ.เมือง
  3. ปลายน้ำกก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

จำนวนทั้งหมด 11 ตัว จำแนกได้ 5 ชนิด ได้แก่ ปลาแข้ , ปลากดคัง , ปลาไหล , ปลานวลจัน และกลุ่มปลาตะเพียน ส่งไปยังห้องแลป ม.นเรศวร เพื่อตรวจหาสารตกค้างในตัวปลา ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

แม่น้ำกกพบปลาป่วยเพิ่ม!  ตุ่มขึ้นผิดปกติ ส่งตรวจอีก 5 ชนิด

ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์ปลาในลุ่มน้ำโขงเหนือของทาง "สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต" ยังพบปลาติดเชื้อกระจายเพิ่มมากขึ้น ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าจำนวนปลาที่ผิดปกติมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแม่น้ำกก และแม่น้ำโขง และมีตุ่มตามตัวที่รุนแรงขึ้น ทั้งแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก รวมถึงแม่น้ำโขง จนส่งผลต่อความเชื่อมั่นของชุมชนในจังหวัดเชียงราย ได้สร้างผลกระทบเป็นอย่างมาก 

โดยเฉพาะชาวประมงริมแม่น้ำกก ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากกรณีการปนเปื้อนสารพิษในแม่น้ำ หลังจากพบว่าค่าน้ำมีสารปนเปื้อนเกินมาตรฐาน แม้ผลการตรวจสอบสารโลหะหนักในตัวปลายังไม่เกินเกณฑ์ จากผลตรวจห้องปฏิบัติการกลางจังหวัดเชียงใหม่ ส่งตรวจโดยกรมประมง ทั้ง 3 ครั้ง คือ

  • ครั้งที่ 1 วันที่ 11 เมษายน 2568 หลังฝายเชียงราย พบสารหนู 0.013 mg/kg  สารปรอท(Hg) 0.09 mg/kg  
  • ครั้งที่ 2 วันที่ 28 เมษายน 2568 แม่น้ำโขงอำเภอเชียงแสน พบสารปรอท(Hg) 0.14 mg/ kg  สารตะกั่ว(pb) 0.05 mg/kg  
  • ครั้งที่ 3 วันที่ 1-2 พฤษภาคม 2568 จุดที่ 1 โป่งนาคำ พบปลากินเนื้อ มีสารปรอท(Hg) 0.054 mg/ kg  สารตะกั่ว(pb) 0.11 mg/kg  

จุดที่ 2 ฝายเชียงราย ตัวอย่างปลากินเนื้อ พบมีสารปรอท(Hg) 0.089 mg/ kg  

จุดที่ 3 บริเวณแม่น้ำกก ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน ตัวอย่างปลากินเนื้อ พบมีสารปรอท(Hg) 0.13 mg/ kg  

ข่าวสารการพบปลาติดเชื้อ และผลตรวจสารปนเปื้อน ได้สร้างความกังวลและส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทำให้ชาวบ้าน ไม่สามารถจำหน่ายปลาได้ตามปกติ รายได้หดหายอย่างต่อเนื่อง

แม่น้ำกกพบปลาป่วยเพิ่ม!  ตุ่มขึ้นผิดปกติ ส่งตรวจอีก 5 ชนิด

“ปัญหาแม่น้ำมีสารพิษ อยากให้รัฐบาลหรือหน่วยงานเข้ามาช่วยชาวประมงเราเดือดร้อนกันทุกคนเลย แม่ค้าที่มารับซื้อปลาเขาไม่ซื้อเลย ตอนนี้เขาปิดโทรศัพท์หนีไม่ยอมซื้อปลา พบปลาติดเชื้อในปลากดและปลาแข้ตัวขนาดเล็ก ชาวบ้านสบคำ ทุกหลังคาหากินกับแม่น้ำ ทั้งในแม่น้ำคำ แม่น้ำกก และแม่น้ำโขง น้ำรวกก็เข้าไปหา รวมถึงข้ามเขตแดนไปหาปลาทางฝั่งลาวก็มี เพราะชาวบ้านต้องอาศัยทำมาหากินอยู่กับแม่น้ำ ต้องอาศัยพึ่งพาแม่น้ำ ถ้าไม่มีแม่น้ำก็ไม่มีอาหารการกิน ผลกระทบตอนนี้ไม่มีใครมาซื้อปลาเลย แม่ค้าก็ไม่มีเลย อยากให้หน่วยงานมาช่วยเหลือ ตอนนี้ชาวประมงต้องไปหาจับปลาในหนอง ในหลง ตอนนี้อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่เข้ามาดูแลพัฒนาแหล่งน้ำ หรือนำปลามาปล่อยให้ชาวบ้านได้มีปลากิน ได้บริโภค ได้มีแหล่งอาหารสำรองแทนปลาในแม่น้ำสายหลัก” 

แม่น้ำกกพบปลาป่วยเพิ่ม!  ตุ่มขึ้นผิดปกติ ส่งตรวจอีก 5 ชนิด

นายบุญสุข สุวรรณดี ชาวประมงบ้านสบคำ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ให้สัมภาษณ์ด้วยความกังวล พร้อมระบุว่าหลังเกิดเหตุการณ์ รายได้จากการประมงลดลงจนแทบไม่มีเหลือ

ด้าน สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต ได้เร่งลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลผลกระทบและหาแนวทางช่วยเหลือชาวประมงท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการเก็บรวบรวมตัวอย่างปลาจากหลายจุดตลอดลำน้ำกก และแม่น้ำโขงเพื่อเก็บตัวอย่างปลาให้ครอบคลุมพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ปลาในแม่น้ำอย่างต่อเนื่อง และเตรียมนำปลาตัวอย่างส่งตรวจสอบในเชิงวิทยาศาสตร์ต่อไป เป็นหลักฐานเพื่อเรียกร้องการเจรจาปิดเหมืองที่คาดว่าเป็นต้นตอของการปล่อยสารพิษลงสู่แม่น้ำ  พร้อมสนับสนุนข้อมูล ผลักดันให้รัฐบาลเปิดการเจรจาเพื่อ “ปิดเหมือง” ดังกล่าวอย่างถาวร

แม่น้ำกกพบปลาป่วยเพิ่ม!  ตุ่มขึ้นผิดปกติ ส่งตรวจอีก 5 ชนิด

ด้านนายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต ได้กล่าวถึงแนวทางการติดตามเรื่องสถานการณ์ผลกระทบต่อปลาติดเชื้อว่า “สถานการณ์ปลา ณ ตอนนี้เราก็ยังพบปลาที่มีลักษณะการติดเชื้ออยู่ เราได้ติดตามเพื่อนำปลาไปตรวจ หากพบว่าปลาที่พบมีสารพิษในตัวปลาก็สันนิษฐานได้ว่ามาจากเหมือง ตอนนี้สถานการณ์ปลาได้กระจายไปถึงแม่น้ำโขงแล้ว ตอนนี้เราพบปลาที่มีความผิดปกติภายนอกหลังจากนี้เราจะส่งเข้าสู่กระบวนการทางวิทยาศาตร์เพื่อหาสาเหตุและการวิเคราะห์สารปนเปื้อน ตอนนี้ทั้งลุ่มน้ำโขงเหนือยืนยันได้แล้วว่ามีการปนเปื้อนสารโลหะหนัก ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ก็จะนำไปเป็นข้อมูลพื้นฐานในอนาคต ในการเรียกร้องปิดเหมือง”

ปัญหานี้ไม่ใช่แค่เรื่องปลา หรือชาวประมง แต่เป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมและความมั่นคงทางอาหารของประชาชนในระยะยาว เราต้องการเห็นความรับผิดชอบจากต้นตอของปัญหา ไม่ใช่เพียงแค่คำอธิบายว่า ยังไม่เกินมาตรฐาน ขณะนี้ ยังไม่มีท่าทีจากหน่วยงานรัฐต่อข้อเรียกร้องดังกล่าวอย่างชัดเจน แต่กระแสกดดันจากภาคประชาชนและองค์กรสิ่งแวดล้อมกำลังเพิ่มสูงขึ้น โดยเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการตรวจสอบอย่างโปร่งใส และพิจารณาทางเลือกในการปิดเหมืองที่สร้างผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง