svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

คู่กรณีคลิปสาวเกาะฝากระโปรงเจอหน้ากัน คนขับยกมือไหว้สวยผู้เสียหาย อ้างหนีเพราะตกใจ

คู่กรณีคลิปสาวใจเด็ดเกาะฝากระโปรงเข้าพบตำรวจ สน.ดุสิต ยกมือไหว้สวยผู้เสียหายหลังเจอหน้ากัน อ้างขับหนีเพราะตกใจ เบื้องต้นถูกตั้ง 3 ข้อหา

30 กรกฎาคม 2567 ความคืบหน้ากรณีโซเชียลแชร์คลิป ที่พลเมืองดีถ่ายไว้ ขณะที่มีผู้หญิง 2 คน กำลังมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันกลางถนน โดยผู้หญิงเสื้อสีน้ำเงินตะโกนขอความช่วยเหลือ พร้อมบอกว่า ผู้หญิงเสื้อฟ้าขับรถชนแล้วหนี จากนั้นผู้หญิงสวมเสื้อสีฟ้าได้ขับรถลากคู่กรณี ไปในลักษณะที่ผู้หญิงเสื้อน้ำเงินยังเกาะหน้ารถอยู่ ซึ่งคลิปวิดีโอดังกล่าว ถูกโพสต์ในเพจเฟซบุ๊กพร้อมระบุข้อความว่า “ชนแล้วหนี แยกวชิระ มุ่งหน้าสะพานกรุงธน” 


ล่าสุด คู่กรณีและเจ้าของรถ มาพบพนักงานสอบสวน พร้อมผู้เสียหาย เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน ชี้ภาพอัปเดตรายงานความเสียหายที่ สน.ดุสิต โดยสภาพรถของคู่กรณียี่ห้อฮอนด้าบริโอ้สีขาวมีสภาพยับเยิน ทั้งนี้ขณะที่ผู้เสียหายคือ คุณเปิ้ล อายุ 56 ปี เดินเข้าห้องสอบสวน ขณะนั้นสาวผู้ก่อเหตุ (เสื้อสีชมพู) ได้ยกมือไหว้คู่กรณี และมีการเจรจากัน 
คู่กรณีคลิปสาวเกาะฝากระโปรงเจอหน้ากัน คนขับยกมือไหว้สวยผู้เสียหาย อ้างหนีเพราะตกใจ
 

โดยคุณเปิ้ลผู้เสียหาย เปิดเผยภายหลังเข้าพบคู่กรณีเป็นครั้งแรกว่า ทางคู่กรณีได้ยกมือไหว้ขอโทษ ซึ่งมีท่าทีที่นิ่งเงียบ แตกต่างจากวันที่เกิดเหตุอย่างสิ้นเชิง เพราะวันนั้นเขาลงจากรถมาชี้นิ้วต่อว่าต่าง ๆ นานา แต่วันนี้เหมือนเป็นคนละคน ยืนยันว่าดําเนินต่อตามกฎหมายจนถึงที่สุด ส่วนค่ารักษาพยาบาลยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะล่าสุดแพทย์ระบุว่า มีซี่โครงราวเล็กน้อย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตํารวจบอกว่า ให้รักษาพยาบาลให้แล้วเสร็จ และจะนัดเข้ามาพูดคุยกันอีกครั้ง 

เมื่อถามว่า ทางคู่กรณีได้บอกหรือไม่ว่าจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล หรือช่วยเหลือเยียวยาอะไรเบื้องต้นบ้าง คุณเปิ้ล ระบุว่า เขาแค่ยกมือบอกขอโทษ แต่ไม่ได้บอกว่าจะช่วยเหลือหรือรับผิดชอบอะไร ในส่วนของคดีที่แจ้งเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อหาชนแล้วหนีที่ สน.พญาไท นั้น ยังไม่ได้ไปตามเพิ่มเนื่องจากเจ็บซี่โครง ส่วนคดีที่ สน.ดุสิต

เบื้องต้นคือข้อหาทําร้ายร่างกาย ยังไม่ได้แจ้งข้อหาพยามยามฆ่า เพราะทางตํารวจแนะนําว่า หากพยานหลักฐานไปไม่ถึง อาจถูกคู่กรณีฟ้องกลับได้ แต่หากในชั้นอัยการพบว่า พยานหลักฐานถึงขั้นพยายามฆ่า ค่อยฟ้องเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ผู้เสียหายกล่าวทิ้งท้ายว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทําให้ตนไม่สามารถทํางานได้ และต้องหยุดพักรักษาตัวตามแพทย์สั่ง ซึ่งสูญเสียรายได้วันละประมาณ 1,000 - 2,000 บาท 

ต่อมาเวลา 12:44 น. สาวผู้ก่อเหตุได้เดินมาพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกะปุกที่ตรวจปัสสาวะ
สาวคนขับรถคันเกิดเหตุ
 

สาวซิ่งรถหนีชี้แจงที่ทำไปเพราะตกใจ และจะไปตั้งหลัก

หลังสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง นางสาวพร อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้ขับรถยนต์ในวันที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์เฉี่ยวชนกันที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลราชวิถี ตนไม่รู้เรื่อง และมารู้อีกทีตอนที่คุณเปิ้ลตะโกนบอก ซึ่งตนก็พยายามโบกมือให้คู่กรณีชิดซ้ายเพื่อจอดมาพูดคุยกัน แต่ขณะนั้นก็มีความคิดแทรกเข้ามาในหัวว่า ตนไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และกังวลว่าถ้าหากลงไปพูดคุยจะเกิดอันตรายกับตน ทำให้ตนเลือกที่จะขับรถยนต์ไปต่อ ถึงแม้ว่าคู่กรณีจะกระโดดเกาะฝากระโปรงหน้ารถก็ตาม ยอมรับว่าตอนนั้น เกิดอาการกลัวเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่คนในพื้นที่

นางสาวพร กล่าวว่า หลังจากมีการนำเสนอข่าวออกไป เช้าวันรุ่งขึ้น (25 ก.ค.) ตนก็มีความตั้งใจจะมาพบตำรวจ แต่ขณะนั้นมีญาติโทรมาสอบถามตนว่า ได้เตรียมเงินมาใช้ประกันตัวหรือไม่ ซึ่งตนไม่ได้เตรียมเงินมา จึงได้ขับรถกลับไปที่กาญจนบุรี ยืนยันว่าไม่เคยเสพสารเสพติด และในวันที่เกิดเหตุไม่ได้มีอาการมึนเมาสุราแต่อย่างใด 

สำหรับวันนี้ทันทีที่ตนได้เจอกับคู่กรณี ก็ได้มีการยกมือไหว้ขอโทษ แต่เข้าใจว่าคู่กรณีน่าจะอยู่ในอารมณ์ที่โกรธอยู่ จึงไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันมาก อยากจะขอโทษคู่กรณี และขอโทษสังคมกับสิ่งที่ตนทำไป 
คู่กรณีคลิปสาวเกาะฝากระโปรงเจอหน้ากัน คนขับยกมือไหว้สวยผู้เสียหาย อ้างหนีเพราะตกใจ

ขณะที่ นายเต้ อายุ 26 ปี เจ้าของรถระบุว่า ก่อนหน้านี้นางสาวพรได้มาขอยืมรถไปใช้ตามปกติ เหมือนที่เคยยืมไปใช้อยู่บ่อยครั้ง โดยวันดังกล่าวนางสาวพรยืมรถไปสมัครงาน และหาเพื่อนที่กรุงเทพฯ ซึ่งตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่ทันทีที่นางสาวพรขับรถกลับมาถึงบ้าน ตนก็รู้สึกตกใจว่า ทำไมรถของตนถึงเกิดความเสียหาย จึงได้สอบถามและเข้าใจนางสาวพร เพราะโดยปกติแล้วนางสาวพรเป็นคนขี้กลัว และขี้ตกใจเป็นอย่างมาก 

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ตนหนีไฟแนนซ์นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ส่วนเรื่องที่รถยนต์ของตนไม่ได้ต่อ พ.ร.บ. มานานกว่า 3 ปี ตนก็ยอมรับในเรื่องนี้ พร้อมกับอ้างว่าไม่ค่อยมีเวลา และไม่ค่อยใช้รถยนต์ จึงทำให้ไม่ทราบว่า พ.ร.บ. หมดอายุนานแล้ว 

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้มีการแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา คือ ชนแล้วหนี, ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น, และข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งผู้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนจะให้ประกันตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ เนื่องจากผู้ต้องหาเดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนด้วยตนเอง โดยหลังจากนี้จะนัดวันให้ผู้ต้องหามาพบเพื่อส่งฟ้องศาลฯ ต่อไป ส่วนคดีจราจรนั้นก็ได้มีการปรับเป็นพินัยไปแล้ว
สาวคนขับรถและเจ้าของรถ