
28 พฤษภาคม ของทุกปี เป็น "วันสุขบัญญัติแห่งชาติ" เกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลประกาศให้ดำเนินการและเผยแพร่ "สุขบัญญัติ 10 ประการ" เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2539 เพื่อเสริมสร้างและปลูกฝังพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง อันจะนำไปสู่การมีสุขภาพดีทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม
อะไรคือ "วันสุขบัญญัติแห่งชาติ"
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก "สุขบัญญัติ" หมายถึง ข้อกำหนดที่เด็กและเยาวชนตลอดจนประชาชนทั่วไป พึงปฏิบัติ อย่างสม่ำเสมอ จนเป็นสุขนิสัย เพื่อให้มีสุขภาพดี ทั้งร่างกาย และจิตใจ
ส่วน "สุขบัญญัติแห่งชาติ" เป็นนโยบายส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับประชาชน เน้นการปลูกฝังพฤติกรรมสุขภาพขั้นพื้นฐานให้เกิดขึ้นในเด็กและเยาวชน โดยนำแนวทางของสุขบัญญัติแห่งชาติ 10 ประการ มาประยุกต์ใช้
"วันสุขบัญญัติแห่งชาติ" เป็นวันที่มีความสำคัญในการรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนได้ตระหนักในการดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ตามแนวทางของสุขบัญญัติแห่งชาติ โดยเป็นวันที่คณะกรรมการสุขศึกษาแห่งชาติ ได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติและประกาศใช้เป็น "สุขบัญญัติแห่งชาติ" เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2539
สุขบัญญัติแห่งชาติ มีข้อปฏิบัติ 10 ประการ ดังนี้
1.ดูแลรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาด
2.รักษาฟันให้แข็งแรงและแปรงฟันทุกวันอย่างถูกต้อง
3.ล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหารและหลังการขับถ่าย
4.กินอาหารสุกสะอาด ปราศจากสารอันตรายและหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด สีฉูดฉาด
5.งดบุหรี่ สุรา สารเสพติด การพนัน และการสำส่อนทางเพศ
6.สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่น
7.ป้องกันอุบัติภัยด้วยการไม่ประมาท
8.ออกกำลังกายสม่ำเสมอและตรวจสุขภาพประจำปี
9.ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ
10.มีสำนึกต่อส่วนรวม ร่วมสร้างสรรค์สังคม
การปฏิบัติตามสุขบัญญุติ 10 ประการ จะทำให้มีสุขภาพที่ดี จิตใจแข็งแรง มีสมรรถนะในการเรียนหรือทำงาน และมีความสามารถในการต้านทานโรค ซึ่งการละเลยในการปฏิบัติสุขบัญญัติข้อใดข้อหนึ่ง ทำให้เรามีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย หรืออันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งอาจจะเริ่มต้นด้วยการเจ็บป่วยเล็กน้อย แต่อาจเป็นบ่อเกิดของโรคแทรกซ้อนที่อันตรายร้ายแรงตามมาได้
การดูแลสุขภาพในช่วงหน้าฝน
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ เราสามารถดูแลสุขภาพได้ โดยการปฏิบัติตามแนวทางของสุขบัญญัติข้อที่ 1 ดูแลรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาด ซึ่งเป็นเรื่องของสุขอนามัยส่วนบุคคลที่เป็นพื้นฐานของการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคสำหรับทุกคน หมั่นใส่ใจความสะอาด ทำให้เป็นนิสัย จะช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ลดโอกาสในการเกิดโรคที่จะตามมา ดังนี้
1.ดูแลร่างกายให้สะอาดและไม่เปียกชื้น สวมใส่เสื้อผ้าที่แห้งสะอาดเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ
2.เสื้อผ้าเครื่องใช้ส่วนตัว เครื่องนอน ซักให้สะอาดและตากแดดให้แห้งสนิทก่อนนำมาใช้
3.ห้องนอนไม่ควรมีความชื้นจากฝน หากที่นอนเปียกละอองฝนไม่ควรนำมาใช้ เมื่อแดดออกให้รีบนำออกผึ่งแดด เปิดห้องให้อากาศไหลเวียนและขจัดความชื้นในห้อง
4.หลีกเลี่ยงการตากฝนหรือโดนละอองฝน หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้รีบหาที่หลบฝนให้เร็วที่สุดและ ทำให้ตัวแห้ง ทำความสะอาดร่างกาย เช็ดตัวและผมให้แห้ง สวมใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่น ทำร่างกายให้อบอุ่น โดยอาจแช่เท้าในน้ำอุ่นๆ หรือดื่มน้ำขิงอุ่นๆ
5.หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าที่ซักไม่แห้ง มีกลิ่นอับชื้น ซึ่งส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพของผู้สวมใส่และก่อให้เกิดโรคผิวหนังตามมา
เคล็ดลับซักและตากผ้าในช่วงหน้าฝน
ซักผ้า
ตากผ้า
ขอบคุณข้อมูลจาก :
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
โรงพยาบาลบุรีรัมย์
Rattinan Medical Center
สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ)
กองสุขศึกษา กระทรวงสาธารณสุข