15 พฤษภาคม 2567 เป็นประเด็นที่สังคมถกเถียงกันเป็นสองฝ่าย กรณีแม่ของเด็กชายวัย 14 ปี พาลูกชายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ว่า ถูก พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ทำร้ายร่างกายภายในโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และบังคับให้แก้ผ้าออกจากพื้นที่โรงพยาบาล หลังเด็กชายคนดังกล่าว สูบบุหรี่ภายในห้องน้ำโรงพยาบาล เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา
โดยสิ่งที่กลายเป็นดราม่าเนื่องจาก "หมอเหรียญทอง" ออกมายอมรับว่า ตบเด็ก-สั่งแก้ผ้าจริง เนื่องจากโมโหที่เด็กคนดังกล่าวสูบบุหรี่ในโรงพยาบาล ทั้งที่มีการประกาศแจ้งเตือน พร้อมยืนยันไม่ขอโทษ ไม่แคร์โดนรุมประณาม และยินดีต่อสู้คดี
ทั้งนี้ในส่วนของคดีความดังกล่าว อยู่ระหว่างขั้นตอนตามกฎหมาย แต่ล่าสุดวันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา น.ส.กานต์ ภัสรินทร์ รามวงศ์ สส.เขตดุสิตบางซื่อ นายชยพล สท้อนดี สส.หลักสี่ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมธิการสิทธิเด็กเเละสตรี เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิวินวิน ได้พาเเม่ของเด็กชายวัย 14 ปี เข้ามาขอรับทรัพย์สิน เป็นเสื้อผ้ากับมือถือที่ถูกทางหมอเหรียญทองยึดไว้คืน เเต่ปรากฏว่าต้องรับคืนจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล เนื่องจากหมอเหรียญทองประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า ไม่อยากคุยกับพวกกุ๊ย
จากนั้นทั้งหมดได้ขึ้นไปบนชั้น 8 เพื่อรับเสื้อผ้าเละมือถือคืน แต่ปรากฎว่าช่วงที่เจ้าหน้าที่ ไปหยิบเสื้อผ้าเด็กในถุง ในช่วงที่เทถุงเสื้อผ้า ได้มีซองบรรจุผงลักษณะเป็นผงสีขาว หลอดตักยา เเละไฟเเช็ค ร่วงลงมา ทำให้ทุกคนที่ขึ้นไปรับทรัพย์สินต่างตกใจ และพยายามจะไม่เชื่อว่า เป็นของเด็กที่ถูกเก็บไว้ในเสื้อผ้า เมื่อถามว่า วัตถุเหล่านี้มาจากไหน เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่ทราบ เเต่พบในเสื้อเด็ก
โดยผู้สื่อข่าวต้องอธิบายว่า สามารถตรวจลายนิ้วมือ หรือดีเอ็นเอได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิวินวิน ได้ถามว่า มีคลิปวิดีโอตอนที่เก็บเสื้อผ้าเด็กไว้หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยืนยันว่า มีกล้องวงจรปิดในโรงพยาบาล แม่ของเด็กเป็นตัวแทนเดินทางไปที่โรงพยาบาล เพื่อไปขอรับเสื้อผ้าและโทรศัพท์คืน แต่พอเปิดถุงเก็บเสื้อผ้ากลับพบถุงซิปล็อกขนาดเล็ก มีผงสีขาวอยู่ด้านใน มีหลอดขนาดเล็ก และไฟแช็คอยู่ข้างใน ซึ่งโรงพยาบาลได้ประสานไปที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้มาตรวจสอบว่า วัตถุที่อยู่ในถุงซิปล็อกคืออะไร
ภายหลังจากตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง มานำถุงเสื้อผ้าต่าง ๆ ไปตรวจสอบ คุณแม่เด็กวัย 14 ปี ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง โดยยอมรับว่า ตกใจที่เห็นถุงซิปล็อกที่มีผงสีขาว อยู่ในถุงเสื้อผ้าของลูก ซึ่งตอนแรกยังไม่เห็น แต่พอเทถุงแล้วพบว่าเจออยู่ในก้นถุง ซึ่งยังไม่รู้ว่าคืออะไร ตอนนี้เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และยังไม่ได้คุยกับลูกชาย ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นพฤติกรรมของลูกที่คล้ายคนเสพยา แต่ถ้าหลังจากนี้ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นของลูกชายก็จะพาไปตรวจหาสารเสพติด
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาน้องเคยมีประวัติเสพสารเสพติดหรือไม่ แม่บอกว่าไม่รู้เลย และถ้าผลตรวจออกมาว่าลูกชายเสพสารเสพติด ก็จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
ขณะที่ น.ส.กานต์ ภัสรินทร์ รามวงศ์ สส.เขตดุสิตบางซื่อ ในฐานะกรรมาธิการเด็กเเละสตรี เปิดเผยว่า ในกรณีนี้ ต้องเเยกให้ออกเป็นประเด็น ประเด็นการสูบบุหรี่มีความผิด ประเด็นการทำร้ายร่างกาย เรื่องความรุนเเรงที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับเด็ก ส่วนเรื่องยาเสพติดก็ต้องพิสูจน์ความจริง เเละต้องให้ความยุติธรรม
จากนั้นนั้นตำรวจได้เชิญตัวเเม่ขอบเด็กชายวัย14ปี เเละ เด็กชายวัย14 ปี มาที่ สน.ทุ่งสองห้อง อีกครั้ง เพื่อสอบปากคำ พร้อมกับเชิญเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลมาให้ข้อมูล เเละนำตัวเด็กตรวจหาสารเสพติดในร่างกายว่า เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริงหรือไม่
ทั้งนี้มีรายงานว่า ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี ได้สอบถามจากเด็กชายวัย 14 ปี ยอมรับกับผู้สื่อข่าวเป็นที่เเรกว่า ซองถุงสีขาวนั้นคือ "เเป้ง" เอาไว้ดม ไม่รู้ว่ามันผิดกฎหมายหรือไม่ เเละเพิ่งจะดมเป็นครั้งเเรก
รายงานระบุว่า สำหรับเเป้งในที่นี่ก็คือ "เฮโรอีน" ขณะนี้ตำรวจยังคงสอบปากคำ เเละนำซองที่ได้สีขาวทีได้มาส่งตรวจพิสูจน์เพื่อดำเนินคดี
ขณะที่ พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ได้มีการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เหรียญทอง แน่นหนา ระบุว่า
ได้โปรดแชร์ให้ทราบว่า 'ซองบรรจุผง' ตามภาพนี้ร่วงหล่นออกมาจากกางเกงของไอ้กุ๊ย ท่านผู้รู้ได้โปรดให้ข้อมูลผมด้วยว่า น่าจะเป็นผงอะไร
อย่างไรก็ตามผมเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง มาตรวจ และขอให้ตรวจสอบประวัติยาเสพติดไอ้กุ๊ยขยะสังคมแล้ว
'ซองบรรจุผง' ร่วงหล่นจากกางเกงของไอ้กุ๊ย โดยปรากฎขึ้นต่อหน้าแม่ของไอ้กุ๊ย , สส.(หลักสี่) , สส.(บางซื่อ) และนักข่าวที่เดินทางมาทำข่าวแม่ของไอ้กุ๊ย เดินทางมารับสิ่งของที่ผมยึดคืน
หากเป็นผงยาเสพติดจริง จะเป็นผงอะไรครับ ท่าทางไอ้กุ๊ยตัวนี้มันดูพิรุธมาก และน่าสงสัยว่าจะติดยาเสพติดซึ่งหากเป็นเรื่องจริง ผมขอให้ ปปส.หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ขยายผลไปถึงขบวนการผู้ค้ายาเสพติดด้วย
ผมขอความกรุณาเจ้าหน้าที่ ปปส. และ/หรือท่านทั้งหลาย ได้โปรดให้ข้อมูลไอ้กุ๊ยตัวนี้ในเรื่องผิดกฎหมายให้ผมด้วยครับ ทั้งนี้ผมจะขยายผลการดำเนินการกับไอ้กุ๊ยตัวนี้ทันที
พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ
15 พ.ค.67 เวลา 16.06 น.
หมายเหตุ ผมขอความกรุณาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของไอ้กุ๊ยตัวนี้ แล้วน่าจะปรากฎรายชื่อผู้ค้ายาเสพติดและขบวนการด้วย ...ไม่แน่นะครับ ครอบครัวไอ้กุ๊ยอาจจะเกี่ยวข้อง หรือรู้ตัวขบวนการยาเสพติดด้วย
เด็ก14 อ้างซื้อเฮโรอีน ผสมเเป้ง 50 บาท
ต่อมาเมื่อเวลา 18.00 น. ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง สอบปากคำเด็กชายวัย 14 เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งเด็กชายวัย 14 ปี ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้งว่า ซื้อมาจากเพื่อนในราคาซองละ 50 บาท แล้วนำมาผสมกับแป้ง แต่เมื่อดมแล้วไม่รู้สึกอะไร เเต่เเสบจมูก
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ตำรวจจะแยกคดีเป็น 3 ส่วน ในส่วนของการทำร้ายร่างกายว่าไปตามกระบวนการอาญา ซึ่งส่วนนี้ยอมความกันไม่ได้ ส่วนเรื่องสูบบุหรี่ในโรงพยาบาลเด็ก 14 ก็มีความผิด ถูกดำเนินการปรับ เเต่ตอนนี้ทางโรงพยาบาลยังไม่มีการแจ้งความเอาผิด จึงไม่สามารถปรับเงิน 5,000 บาทได้ ส่วนเรื่องการพบยาเสพติด ตำรวจจะตรวจสอบว่า เป็นยาเสพติดชนิดใด จะเป็นเฮโรอีนผสม ตามที่เด็กกล่าวอ้างหรือไม่
เเหล่งข่าวเปิดเผยว่า ยาเสพติดดังกล่าว อาจจะไม่ใช่เฮโรอีน อาจจะเป็นยาเค เพราะไม่สมเหตุสมผลที่เฮโรอีนจะซื้อมาในราคาเเต่ 50 บาท เด็กอาจจะไม่รู้ว่าสารเสพติดชนิดที่มีอยู่เรียกว่าอะไร
โดยหลังจากนี้จะต้องมีกระบวนการตรวสอบกันต่อไป ภายหลังเส็จสินการสอบปากคำ พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวเด็กชายวัย 14 กลับบ้าน ขณะที่ทางกรรมธิการสิทธิเด็กเเละสตรี ก็ประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อคุ้มครองเด็กตามกระบวนการ