"พายุฤดูร้อน" ถล่มหลายจังหวัด อึ้ง "ลูกเห็บ" ขนาดเท่าไข่ไก่ เสียชีวิตแล้ว 3

5 พฤษภาคม 2567 จากกรณีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน "พายุฤดูร้อน" ถล่มประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง กระทั่งล่าสุดหลายจังหวัดได้รับผลกระทบในวงกว้าง ทรัพย์สิน บ้านเรือน และพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ซึ่งหน่วยรายการได้เร่งให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยพายุฤดูร้อนจะยังส่งผลกระทบกับประเทศไทยอีกลายวัน

อึ้ง "ลูกเห็บ" เท่าไข่ไก่พัดถล่มชัยภูมิ
จังหวัดชัยภูมิ ถูกพายุฤดูร้อนซัดถล่มอย่างหนัก พบลูกเห็บขนาดเท่าไข่ไก่ พัดถล่มใน 4 อำเภอของ จ.ชัยภูมิ ได้แก่ อ.เมืองชัยภูมิ อ.บ้านเขว้า หนักสุดที่อ.จตุรัส และ อ.ภูเขียว เสาไฟล้มหลังคาบ้านปลิวว่อน ไฟฟ้าดับเสียหายหลายจุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นของวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุพายุลูกเห็บฝนตกกระหน่ำ พายุลูกเห็บขนาดหัวนิ้วโป้งมือพัดตกกระหน่ำใส่หลังคาบ้านเรือนประชาชนเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะที่อำเภอภูเขียว ได้เกิดพายุลูกเห็บขนาดเท่ากับไข่ไก่ หรือนิ้วโป้งและ นิ้วก้อย ตกใส่บ้านเรือนประชาชนเป็นบริเวณกว้าง และหลังคาบ้านปลิวว่อน ต้นไม้หักโค่นจำนวนมาก

ส่วนที่ อำเภอจัตุรัส พายุพัดหมุนได้พัดเอาหลังคาบ้านเรือนประชาชนปลิวว่อน สายไฟแรงสูงขาดไฟฟ้าดับ ทำให้การการจราจรบนถนนสาย201ชัยภูมิ-สีคิ้ว ช่วงอำเภอจัตุรัส ถูกปิดตาย การสัญจรไปมาไม่ได้

นอกนั้นยังได้รับแจ้งว่าได้เกิดเหตุพายุยังได้พัดหลังคาบ้านเรือนชาวบ้านในอำเภอจัตุรัส หลังคาปลิวพังเสียหายกว่า 20 หลังคาเรือนรวมทั้ง ทำให้หลายหมู่บ้านในหลายหมู่บ้านตกอยู่ในความมืดมิด 

"พายุฤดูร้อน" ถล่มอุทัยธานี เสียหายกว่า 70 หลังคาเรือน
ขณะที่ จ.อุทัยธานี หลังจาก "พายุฤดูร้อน" ถล่มเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา นายสุรศักดิ์ วงนาค นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไผ่แบนและกรมทหารราบที่ 4 ค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่ ตำบลหนองไผ่แบนโดยพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 70 หลังคาเรือน

ทั้งนี้ความเสียหายมีทั้งพักหลังคาพัง ต้นไม่หรือเสาไฟฟ้าล้มทำบบ้าน ไฟฟ้าดับนานกว่า 2 ชั่วโมง

นางโสน เหลืองแดง อายุ 55 ปี เลขที่ 50 บ้านหล่อมอ้ายหมอง หมู่ที่ 3 ตำบลหนองไผ่แบน อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าลมพายุนั้นเริ่มรุนแรงในช่วงเวลา 17.30 น.ของเมื่อวาน (4 พ.ค.) จากนั้นก็เริ่มแรงขึ้นเรื่อยเป็นเวลากว่า 30 นาทีจากนั้นก็สงบลง ตอนเกิดเหตุต้องพาคนในคอรบครัววิ่งออกจากบ้านเพราะกลัวว่าต้นไม้ที่ทับหลังคานั้นจะพังลงมาถูกหัว จากนั้นฟ้านั้นก็ดับเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ต้องอยู่กับความมืด

"น่ากลัวมากเสียงลมและลูกเห็บที่ลงมานั้นแรงมากจนเสียงดังทั่วหมู่บ้าน"

ขณะเดียวกันที่บ้านของ งนางระพีพันธ์ อินทมร อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 14 หมู่ 2 บ้านเนินซาก ตำบลหนองไผ่แบน อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี เล่าถึงนาทีระทึกว่า ลมมาแรงมากพร้อมกับลูกเห็บลูกเล็กๆตกใส่หลังคาสังกะสีจนเสียงดังไปหมด

จากนั้นก็มีลมเข้ามาทางหลังบ้านจนหลังคาบ้านนั้นปลิวไปกับแรงลมยกทั้งหลังคาตกอยู่ข้างบ้าน ต้องอพยบหลานและผู้สูงอายุออกจากบ้านอย้างลำบากเพราะไปฟ้านั้นดับลงนานกว่า 5 ชั่วโมง

บึงกาฬ พายุถล่มเดือดร้อน 184 ครัวเรือน ดับแล้ว 3
ขณะที่ บึงกาฬ พายุถล่มเป็นรอบที่ 5 พายุฤดูร้อน กระหน่ำตลอดคืนวันที่ 3 พ.ค.ต่อเนื่องถึงวันที่ 4 พ.ค. ทำให้มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง รวมไปถึงทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 ราย 

ปภ.จังหวัดบึงกาฬ รายงานข้อมูลสาธารณวาตภัย (พายุฤดูร้อน) พบว่า ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ 13 ตำบล 51 หมู่บ้าน 184 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 ราย ดังนี้ 

• 1. อำเภอเมืองบึงกาฬ 5 ตำบล 26 หมู่บ้าน 116 ครัวเรือน
• 2. อำเภอเซกา 2 ตำบล 10 หมู่บ้าน 27 ครัวเรือน และคอกสัตว์ 2 หลัง
• 3. อำเภอปากคาด 4 ตำบล 1 หมู่บ้าน 38 ครัวเรือน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการขับรถจักรยานยนต์ชนต้นไม้ใหญ่
• 4. อำเภอบุ่งคล้า 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน 2 ครัวเรือน
• 5. อำเภอบึงโขงหลง 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน 1 ครัวเรือน 

ทั้งนี้กรณีการเสียชีวิต เกิดจากแรงลมพัดเครนล้มลงมาทับคนงาน 3 รายเสียชีวิต ติดอยู่ใต้หลังคาเหล็กท้ายรถ บริเวณแคมป์คนงานก่อสร้างสะพานแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ ริมถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ-หนองคาย ท้องที่บ้านหนองแวง ม.3 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ

หลังเกิดเหตุนายราชันย์ วะนาพรม นายกเทศมนตรีเมืองบึงกาฬ สั่งการให้ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองบึงกาฬ ตั้งกองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากวาตภัย ที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองบึงกาฬ พร้อมรับข้อมูลและลงทะเบียนเบื้องต้นในเขตเทศบาลเมืองบึงกาฬ มีบ้านเรือเสียหายกว่า 130 หลังคาเรือน