"ปลัด ก.อุตสาหกรรม" แจงแผนขนย้าย "กากแคดเมียม" กลับ จ.ตาก 7 พ.ค. นี้

17 เมษายน 2567 ที่ อาคารรัฐสภา นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาเรื่องการขนกากแร่อุตสาหกรรมแคดเมียม โดยได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการ

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ชี้แจงลำดับเหตุการณ์การติดตามกากแคดเมียมที่ขนออกมา 13,800 ตัน จากจังหวัดตาก ก่อนจะตรวจสอบหลายจุดในจังหวัดสมุทรสาคร จ.ชลบุรี และเขตบางซื่อ รวม 12,535 ตัน โดยพบว่ากากแร่อุตสาหกรรมที่ส่วนผสมของแร่สังกะสี แคดเมียม และทองแดง ซึ่งจะสืบหาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กากตะกอนที่ตรวจพบไม่มีกำมันตภาพรังสี ประชาชนขอให้วางใจในประเด็นนี้ และปัจจุบันแคดเมียม นับเป็นกากแร่อุตสาหกรรมที่มีค่า

สำหรับแผนการเคลื่อนย้ายกากตะกอนกลับที่เดิม โดยแนวทางการจัดเก็บ ณ สถานที่ที่ตรวจพบ ได้เก็บกากตะกอนทั้งหมดไว้ในอาคาร และมีการทำความสะอาดดูดฝุ่นจากในโรงงาน ส่วนที่อยู่ตามชายคาต้องใช้พลาสติกคลุมทับอีกครั้ง ให้มีความมิดชิด และไม่ถูกชะล้าง

เตรียมการขนย้ายโดยใส่ในรถเปิด แต่ใส่ในถุงซ้อนที่ปิดมิดชิด คลุมด้วยพลาสติกอีกครั้ง จะขนได้ประมาณ 30 ตันต่อคันรถ และใช้รถ 30 คันคาดว่าจะเพียงพอ

วันนี้จะทดสอบความแข็งแรงของบ่อว่าพร้อมหรือไม่ ซึ่งตนและผู้บริหารจะลงไปตรวจสอบด้วยตนเอง เมื่อปรับปรุงบ่อเสร็จจะตรวจองค์ประกอบต่างๆ เช่น ตรวจสถานะของกากตะกอนทุกถุงว่าต้องเป็นด่าง ตามที่ EIA กำหนดไว้ ปรับระบบบ่อน้ำเสีย และมีเจ้าหน้าที่ควบคุมตลอดเวลา ปิดบ่อและดูดฝุ่นทุกวัน รวมถึงตรวจสอบคุณภาพน้ำใต้ดินทุก 3 เดือน

ส่วนวันที่ 18 เมษายน ที่จะถึงนี้ จะสรุปความเห็นต่อคณะกรรมการ 6 กระทรวง หากมีจุดสุ่มเสี่ยงก็จะดำเนินการให้เหมาะสม และดำเนินการตรวจสอบอย่างเรียบร้อย ขณะการสืบหาสาเหตุที่กากตะกอนมาปรากฏที่กรุงเทพฯ ได้นั้น คาดว่าในกรุงเทพฯ เป็นจุดพักของ พร้อมตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง และดำเนินการอย่างเต็มที่ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตามทางกรรมาธิการฯ เสนอให้นำกากตะกอนใส่ตู้คอนเทนเนอร์ไว้ก่อน เพราะประชาชนในพื้นที่กังวลเรื่องความปลอดภัย และไม่ควรรอการดำเนินการของภาคเอกชนเพียงอย่างเดียว แต่ทางกระทรวงฯ ควรของบประมาณดำเนินการจากนายกรัฐมนตรีมาก่อนได้

โดย ปลัดกระทรวงฯ ชี้แจงเหตุที่ไม่ใส่ในตู้คอนเทนเนอร์ เพราะจะมีความยุ่งยากเรื่องการขนย้ายเข้าออก พร้อมย้ำว่า กากตะกอนไม่มีกัมมันตภาพรังสี หากไม่มีการฟุ้งกระจายก็สามารถควบคุมได้ แต่ให้เร่งทำถุงซ้อนสองชั้นเพื่อปกคลุมไม่ให้มีการฟุ้งกระจายไปก่อน ซึ่งมาตรการนี้เป็นไปตามมาตรฐานของสหประชาชาติ

จากนั้น นายอัครเดช ได้ตั้งคำถามว่า ทำไมต้องขนย้ายในวันที่ 7 พฤษภาคม ไม่ใช่วันที่ 17 เมษายน ตามที่รัฐมนตรีได้เคยแถลงไว้

นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและเหมืองแร่ ชี้แจงว่า กระบวนการในการขนย้ายกากตะกอนกลับ ต้องมีการอนุญาตและเตรียมดำเนินการ ซึ่งต้องเผื่อระยะเวลาในการตรวจสอบและซ่อมแซมบ่อสำหรับฝังกลบใน จ.ตาก ให้เรียบร้อยก่อน และต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ พร้อมขออนุญาตหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย

นอกจากนี้จะใช้เวลา 1 สัปดาห์ เพื่อขนย้ายกากตะกอนที่อยู่ใน จ.ตาก แล้ว ลงบ่อ จากนั้นเป็นการขนย้ายกากตะกอนจากพื้นที่ต่างๆ โดยเรียงตามลำดับความสำคัญและความพร้อมในการขนส่ง กระบวนการนี้เป็นร่างที่กระทรวงฯ เห็นว่ามีความเหมาะสม โดยจะเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่เพื่อรับฟังความเห็นอีกครั้ง

ตัวแทนอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ปทส.

เมื่อช่วงสายวันนี้ (17 เมษายน 2567)ตั วแทนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เข้าให้ข้อมูลและชี้แจงตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. กรณีที่พบกากแร่แคดเมียม ที่โรงงานบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่พบถุง Big Bag บรรจุกากแคดเมียม เกือบ 6,500 ตัน โดยผู้ที่เข้ามาให้ข้อมูลนั้นไม่ได้ให้รายละเอียดกับสื่อมวลชน

หมายเรียกครั้งที่ 2 เจ้าของโรงงานซุกกากแคดเมียม ไม่มาพบพนักงานสอบสวนเจอหมายจับ

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พล.ต.ต.ชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) บอกว่า สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ครอบครองกากแร่แคดเมียม ตอนนี้มีการดำเนินคดีไปแล้ว 5 คดี แบ่งเป็น

• จังหวัดสมุทรสาคร 3 คดี
• จังหวัดชลบุรี 1 คดี
• กทม. 1 คดี

ส่วนวันนี้ที่ตัวแทนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคเดินทางมานั้น เพื่อชี้แจงว่า กากแร่คาดเมียมที่พบมีการนับแบบใด มีรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งจะต้องชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ทั้งหมด สำหรับการติดตามกากแคดเมียม กว่า 12,000 ตัน คาดว่าน่าจะครบแล้ว ส่วนตัวเลขตอนแรกที่บอกว่า หายไป 13,000 ตัน เป็นความคลาดเคลื่อน เนื่องจากมีเรื่องค่าความชื้นที่ระเหยออกไป ทำให้น้ำหนักลดลงจากเดิม

ส่วนที่ กมธ.อุตสาหกรรม เชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับการขนย้ายจากแร่แคดเมียม พล.ต.ต.ชรินทร์ กล่าวว่า การขออนุญาตขนย้าจกากแร่แคดเมียมนั้นมีความผิดปกติ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งจะต้องตรวบสอบตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่โรงงาน จ.ตาก ว่า สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ใครเป็นคนอนุญาตให้ขนย้ายจากแร่แคดเมียมและเอกสารการขนย้ายนั้นถูกต้องหรือไม่

"จนถึงขณะนี้ทางอุตาหกรรมจังหวัดตาก ยังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์บริษัทต้นเรื่อง ส่วนที่จะให้เร่งขนย้ายกากแร่แคดเมียมกลับไปยังหลุมฝังกลบที่จังหวัดตากนั้น คาดว่าจะย้ายได้เร็วที่สุด 7 พฤษภาคม นี้" ผบก.ปทส. กล่าว

ขณะที่พรุ่งนี้ (18 เมษายน 2567) จะครบกำหนดที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกนายเจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย บริษัท เจแอนด์บี เมทอล จำกัด  มาสอบปากคำตามหมายเรียกครั้งที่ 2 เพื่อถามความชัดเจนว่ามีการขนย้ายกากแน่แคดเมียมไปไว้ที่จุดอื่นอีกหรือไม่ แต่หากพรุ่งนี้ไม่มา ทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการออกหมายจับ รวมถึงพนักงานสอบสวนได้ออกหนังสือเชิญบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) มาให้ข้อมูลอีกด้วย ในช่วงบ่ายพรุ่งนี้

ชาวบ้านหนองบัวใต้ จ.ตาก ค้านเอากากแคดเมียมกลับเข้าพื้นที่

ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ (16 เมษายน 2567) เจ้าหน้าที่จากกรมอุตสาหกรรม ได้นำคณะลงพื้นที่ร่วมกับจังหวัดตาก และอุตสาหกรรมจังหวัดตาก เพื่อดูความพร้อมของพื้นที่ ที่จะนำกากแคดเมียมกลับมาฝังกลบ ทั้งเรื่องความพร้อมของการกักเก็บ สิ่งแวดล้อม ความแน่นหนาของจุดเก็บไม่ให้รั่วไหลออกมา

ด้าน น.ส.ปาริชาด แอนละม่อม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ตำบลหนองบัวใต้ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านทั้งตำบลหนองบัวใต้ ต้องการให้เอาไปแปรรูป หรือเอาไปสกัด กำจัด หรือเอาออกไปนอกประเทศเลย ไม่ต้องการให้เอากลับมา และเท่าที่ตนเองทราบมาจากชาวบ้านว่า หากนำมาชาวบ้านจะรวมตัวกันปิดทางเข้าสถานประกอบการที่จะนำกากแคดเมียมเข้าไปทันที

ฉะนั้นอย่านำมาให้เอาออกไปทำอย่างอื่นที่ถูกวิธี หรือ เอาออกนอกประเทศไปเลย "ถ้าขืนเอามา อย่างไงก็ไม่มั่นใจ มันต้องมีการรั่วไหลแน่นอน"