สถานทูตไทยในกรุงโซล เตือนคนไทยในเกาหลีใต้ ทำผิดข้อหายาเสพติดมีโทษรุนแรง

6 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ประกาศเตือนชาวไทยที่จะเดินทางมา หรือพำนักอยู่ในเกาหลีใต้ ว่า กฎหมายของประเทศเกาหลีใต้กำหนดบทลงโทษผู้กระทำผิดข้อหายาเสพติดที่รุนแรง

โดยความผิดฐานลักลอบนำเข้า โทษจำคุก 5 ปีขึ้นไป หรือตลอดชีวิต - จำหน่ายหรือเสพ โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และผู้กระทำผิดจะถูกเนรเทศและห้ามเดินทางเข้าเกาหลีใต้อีก

ขอให้พี่น้องชาวไทยในเกาหลีใต้ ร่วมมือ ร่วมใจ ห่างไกลยาเสพติด เพื่ออนาคตของตนเอง ครอบครัว และคนที่รัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อปลายปี 2566 สื่อเกาหลีใต้รายงานมีจำนวนคนไทยที่อาศัยอยู่อย่างผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้น พร้อมไปกับการเพิ่มขึ้นของผู้กระทำผิดคดียาเสพติดที่มีสัญชาติไทย ในเกาหลีใต้ หลังประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ได้ประกาศโครงการทำสงครามกับยาเสพติดในเดือนเมษายน ต้นปี

ขณะที่ สส. จากพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของเกาหลีใต้ ได้รวบรวมข้อมูลจากตำรวจเกาหลีใต้ที่ระบุว่า มีผู้กระทำผิดชาวไทยคดียาเสพติดเพิ่มจาก 189 คน ในปี 2561 มาอยู่ 812 คนในปี 2565

และเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานตำรวจคยองบุก จังหวัดคย็องซังเหนือ ประเทศเกาหลีใต้ ได้จับกุมชาวไทยจำนวน 47 คน ในฐานความผิดลักลอบ และแจกจำหน่ายยาบ้ามีมูลค่ากว่า 4.1 พันล้านวอน (109,800,635 บาท) โดยยาบ้าจำนวนดังกล่าวนั้นถูกซุกซ่อน และลักลอบเข้ามาในรูปแบบของลูกเบสบอล โดยใช้วิธีการเย็บเอาไส้ในลูกเบสบอลออกแล้วเอายาเสพติดยัดเข้าไปแทน

ตามรายงานของตํารวจมีข้อสงสัยว่า คนไทยกลุ่มนี้ได้ลักลอบขนยาบ้าเป็นจำนวนรวมกว่า 82,000 เม็ด มาจากประเทศไทยนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม - กันยายน โดยใช้วิธีการซ่อนในลูกเบสบอล แล้วจากนั้นจึงส่งมายังเกาหลีใต้ โดยใช้บริการขนส่งพัสดุข้ามประเทศ

ทั้งนี้ ผลจากการจับกุมเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดยาบ้ากว่า 67,000 เม็ด คิดเป็นมูลค่า 3.3 พันล้านวอน (88,323,110 บาท) และยุติปฏิบัติการแจกจ่ายยาในประเทศของคนกลุ่มนี้แล้ว
 

อ้างอิง : กรุงเทพธุรกิจ