svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สรุปปฏิบัติการทวงคืน "หาดแหลมหงา" โมเดลความสำเร็จทวงคืนสมบัติชาติ

จากปรากฏการณ์ "เตะครั้งเดียว สะเทือนทั้งเกาะภูเก็ต" นำไปสู่ปฏิบัติการทวงคืนชายหาด ที่มี "หาดแหลมหงา" เป็นโมเดลความสำเร็จ ภารกิจครั้งนี้มีความเป็นมาอย่างไร เกิดอะไรขึ้นบ้าง Nation STORY ได้สรุปเรื่องราวมาให้ได้ดูกัน

เห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับ "ปฏิบัติการทวงคืนชายหาด" ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากดรามา "ฝรั่งเตะหมอ" กรณี "เดวิด" ชายชาวสวิตเซอร์แลนด์ ก่อเหตุเตะ "คุณหมอปาย" หรือ "พญ.ธารดาว" เนื่องจากไม่พอใจ ที่เข้าไปนั่งบริเวณบันไดติดชายหาด หน้าวิลล่าหรู "แหลมยามู" กลายเป็น "เตะครั้งเดียว สะเทือนทั้งเกาะภูเก็ต"  

เหตุการณ์ครั้งนี้ นำไปสู่เปิดข้อเท็จจริงทางกฎหมาย การครอบครองที่ดินติดชายหาด และการใช้ประโยชน์ ซึ่งพบว่า "ชายหาดทุกแห่งเป็นที่ดินสาธารณะ ผู้ใดจะครอบครอง หรือปิดกั้นเป็นสมบัติส่วนบุคคลไม่ได้"

แต่ในความเป็นจริง กลับมีชายหาดหลายแห่งในภูเก็ต ถูกเอกชนปิดกันทางเข้า ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ไม่สามารถเดินทางเข้าไปยังชายหาดเหล่านี้ เพื่อใช้ประโยชน์สมเป็นพื้นที่สาธารณะตามกฎหมายอย่างแท้จริง 

การตีเหล็กขณะที่ยังร้อน จากปรากฏการณ์ "เดวิดสปริง" ด้วยการรวมตัวทวงคืนชายหาดจึงเกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้มีหนึ่งชายหาด ที่เป็นตัวอย่างความสำเร็จ ในปฏิบัติการทวงคืนชายหาดคือ "ชายหาดแหลมหงา" หรือ "หาดน้ำใส"  

Nation STORY จะพาย้อนไปดูปฏิบัติการทวงคืน "ชายหาดแหลมหงา" แห่งนี้ว่า มีความเป็นมาอย่างไร เกิดอะไรขึ้นบ้าง และบทสรุปเหตุการณ์เป็นอย่างไร....
สรุปปฏิบัติการทวงคืน "หาดแหลมหงา" โมเดลความสำเร็จทวงคืนสมบัติชาติ

เรื่องราวปฏิบัติการทวงคืน "ชายหาดแหลมหงา" เริ่มจากการเปิดเผยของ เพจเฟซบุ๊ก ชมรมSTRONGต้านทุจริตประเทศไทย ที่เผยถึงเรื่องราวปัญหา การเข้าออก "ชายหาดแหลมหงา" จากเพจเฟซบุ๊ก แหลมหงาภูเก็ต ที่นำเสนอเกี่ยวกับการทวงคืนชายหาดแหลมหงามาอย่างต่อเนื่องหลายปี ที่ได้มีการโพสต์พร้อมมีการแท็กถึงหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า 
 

"แหลมหงา  เปิดแล้วยัง..ปิดทางหลวงชนบท ภก4097 ฝาก ป.ป.ช. ป.ป.ท. ตรวจสอบด้วยครับ"

สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดภูเก็ต
สื่อสารองค์กร สำนักงาน ป․ป․ท․
สำนักงาน ป.ป.ช.
ศูนย์ปฏิบัติการSTRONGประเทศไทย
ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคใต้
ชมรมSTRONGต้านทุจริตประเทศไทย
ชมรมสตรองจิตพอเพียงต้านทุจริตภูเก็ต
Cr. ภาพ สมชาย หยีสัน


ทั้งนี้เพจเฟซบุ๊ก แหลมหงาภูเก็ต ได้มีการนำเสนอเกี่ยวกับการปิดเส้นทางเข้าสู่แหลมหงา มาโดยตลอด โดยโพสต์ล่าสุดระบุว่า 
 

"บริษัทจำกัด แหลมหงาXXX ได้ปิดกั้นทางหลวงชนบท ซึ่งเป็นถนนที่ลงไปยังหาดแหลมหงาภูเก็ต ที่ชาวบ้านใช้เป็นทางลงไปพักผ่อน ที่หาดมานานหลายชั่วอายุคน โดยติดป้ายห้ามคนบุกรุก !!!  คนภูเก็ตอย่ายอม ให้นายทุนมาปิดกั้นหาดสวยงามของคนภูเก็ต และของคนไทยทั้งประเทศครับ #ชาวภูเก็ตจะไม่ทน"




และเมื่อตรวจสอบย้อนกลับไปอีก ก็พบว่า ทางเพจเฟซบุ๊ก "แหลมหงาภูเก็ต" ได้นำโพสต์ในอดีตเกี่ยวกับ ปัญหาหาดแหลมหงา มาแชร์ใหม่ เป็นโพสต์ตั้งแต่ปี 2021 ระบุว่า 

Admin เข้าหาดแหลมหาเวลา 11.00 นได้เจอภาพบาดตาบาดใจหดหู่หัวใจยิ่งนัก (นาทีที่ 2.40 ) มีมอเตอร์ไซค์ 2 คันบรรทุกเด็กเล็กๆขนมนมเนยเพรียบบบเพื่อต้องการลงไปที่ชายหาดแหลมหงา ซึ่งเป็นชายหาดที่ประชาชนทุกคนสามารถลงเล่นน้ำได้ เพราะเป็นที่สาธารณะ แต่โดนปิดกั้นด้วยแผ่นสังกะสี

Adminจึงบอกว่า ทุนนั้นโครตตตใจดำอำมหิตยิ่งนัก เอาสังกะสีมากั้น  แต่ใจเย็นๆ ไม่เกินอีก 2 อาทิตย์ค่อยมาใหม่ เพราะเมื่อทางหลวงชนบทที่ ภก.4097 เปิดแล้วนั้น หาดแหลมหงาของพวกเราก็ย่อมที่จะเปิดไปโดยปริยาย

คำถามของคณะแอดมิน ถึงบจก.แหลมงาดีเวลอปเม้นท์มีดังนี้ !
   --------------------------------------------------------------------------
1.บจก.แหลมงาดีเวลอปเม้นท์เอาอำนาจอะไร มาปิดทางหลวงชนบทที่ ภก.4097 ที่มาจากภาษีของประชาชน 

2.บจก.แหลมงาดีเวลอปเม้นท์ เอาอำนาจอะไร มาปิดทางขึ้นลงหาดแหลมหงา อันเป็นที่สาธารณะประโยชน์ของประชาชน  ที่มิใช่ของคณะใดคณะหนึ่ง ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือ บุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่มันเป็นของประชาชนทุกๆคน 

และยังมีแชร์โพสต์ในปี 2019 ระบุว่า

สมัยก่อนตอนแอดมินยังเป็นเด็ก พวกเราจะเรียกว่าหาดน้ำใส แต่หลังจากที่โดนนายทุนแอบปิดถนนทางหลวงชนบท เพื่อที่จะยึดชายหาดเป็นของส่วนตัว

แอดมินและพวกทวงคืน ก็เป็นข่าวอยู่หลายวันจึงทวงคืนได้สำเร็จ และนับแต่วันนั้นเป็นต้นมา ก็เรียกกันหาดแหลมหงาต่อๆกันมา  จนกลายเป็นชื่อว่าหาดแหลมหงาจนถึงปัจจุบัน 

วันนี้ขยะไม่มีชายหาดสะอาดแล้วนะครับแอดมินและทีมงานต้องขอขอบคุณ ในการทำความดีของพลเมืองดีที่ทางทีมงานและแอดมินไม่รู้ว่าท่านเป็นใครด้วยนะครับ  แต่อย่างไรก็ต้องตามทางทีมงานและแอดมินฝากดูแลด้วยนะครับ

ด้วยจิตคราวะและยึดมั่นในสิ่งที่งดงามเสมอ
แอดมินและทีมงานหาดแหลมหงา
วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2562 

สำหรับปัญหาการปิดเส้นทางเข้าสู่หาดแหลมหงานั้น เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2545 หลังมีการร้องเรียนกรณีเอกชนสร้างรั้วลวดหนามปิดกั้นเส้นทางสาธารณะซอยแหลมหงาอนุสรณ์ และปักป้ายเตือน “ที่ดินและถนนส่วนบุคคล-ห้ามเข้า อันตราย!” ทำให้ชาวบ้านในชุมชนได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อเดินทางลงไปยังบริเวณชายหาดแหลมหงาได้ โดยทางเพจเฟซบุ๊ก Phuketandamannews มีการนำเสนอเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2016 ว่า 

ความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหลังมีการร้องเรียนกรณีเอกชนสร้างรั้วลวดหนามปิดกั้นเส้นทางสาธารณะซอยแหลมหงาอนุสรณ์ และปักป้ายเตือน “ที่ดินและถนนส่วนบุคคล-ห้ามเข้า อันตราย!” ทำให้ชาวบ้านในชุมชนได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อเดินทางลงไปยังบริเวณชายหาดแหลมหงา

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2016 นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายประพันธ์ ขันพระแสง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ร.อ.สมภพ คำคณา หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ชุดประสานงานประจำพื้นที่ทหารเรือที่ 13 ทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่ทหารเรืออีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่หมู่ 1 ต.รัษฎา อ.เมือง ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว
สรุปปฏิบัติการทวงคืน "หาดแหลมหงา" โมเดลความสำเร็จทวงคืนสมบัติชาติ

จากการตรวจสอบพบว่า ถนนเส้นนี้ตลอดสายผ่านที่ดินของเอกชน มีระยะทางยาวประมาณ 1.5 กม. และกว้างประมาณ 10 เมตร ก่อสร้างมา 10 กว่าปีแล้ว โดยกรมทางหลวงชนบท ขณะที่ผู้แทนเจ้าของที่ดินเข้าให้ข้อมูลว่า ในบันทึกการรังวัดรวมแปลงที่ดินเมื่อปี พ.ศ.2554 ระบุว่า ถนนจุดที่มีการปิดกั้นซึ่งยาวประมาณ 500 เมตร จากหาดแหลมหงานั้น ทางเจ้าของที่ดินไม่ได้ยกให้เป็นทางสาธารณะแต่อย่างใด เป็นทางส่วนบุคคลโดยเอกสารสิทธิ์

แต่อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เจรจาให้ตัวแทนเจ้าของที่ดินเปิดเส้นทางให้ประชาชนได้ใช้สัญจรเป็นการชั่วคราว ระหว่างรอการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากทางหลวงชนบทต่อไปนั้น

ขณะที่ ร.อ.สมภพ คำคณา หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ชุดประสานงานประจำพื้นที่ทหารเรือที่ 13 ทัพเรือภาคที่ 3 ได้เข้าติดต่อประสานขอข้อมูล กรณีการสร้างเครื่องปิดกั้นถนนซอยแหลมหงาอนุสรณ์ ณ สำนักงานทางหลวงชนบทภูเก็ต เพื่อขอรับทราบขอเท็จจริง กรณีการสร้างถนนเส้นดังกล่าว ผลการตรวจสอบพบว่า เส้นทางสายนี้สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2537 และได้ส่งมอบให้แก่เทศบาลตำบลรัษฎาดูแล เมื่อปี 2540 ระยะทาง 1.268 กิโลเมตร โดยไม่มีการคัดค้านจากเจ้าของที่ดินในขณะนั้นแต่อย่างใด ซึ่งตามกฎหมายหลังจากผ่านไป 10 ปีแล้ว ถือว่าเป็นทางสาธารณะ
สรุปปฏิบัติการทวงคืน "หาดแหลมหงา" โมเดลความสำเร็จทวงคืนสมบัติชาติ

ซึ่งจากกรณีดังกล่าว ทำให้หลังการตรวจสอบในครั้งนั้น มีการเปิดเส้นทางให้ประชาชนสามารถเข้าออกหาดแหลมหงาได้ แต่ต่อมาภายหลังพบว่า เส้นทางลงสู่ชายหาดแห่งนี้ถูกปิดอีกครั้ง 


ภายหลังประเด็นการทวงคืน "ชายหาดแหลมหงา" ถูกนำเสนอออกไปเป็นวงกว้าง ก็ประชาชนรวมถึงคนในพื้นที่ภูเก็ตจำนวนมากให้ความสนใจ โดยทาง เพจเฟซบุ๊ก "แหลมหงาภูเก็ต" ได้ประกาศเดินหน้าทวงคืน หาดแหลมหงา ซึ่งมีรายละเอียดระบุว่า..
 

เร็ว ๆ นี้พบกัน
เอาทางหลวงชนบทที่ ภก.4097 คืนมา
เอาหาดแหลมหงาคืนมา 

คำถาม...?
บจก.แหลมหงาXXXXXXX เอาอำนาจอะไร มาปิดทางหลวงชนบทที่ ภก. 4097 ที่มาจากภาษีของประชาชน
บจก.แหลมหงาXXXXXXX เอาอำนาจอะไร มาปิดทางลงหาดแหลมหงา อันเป็นชายหาดสาธารณะของประชาชนที่มิใช่ของคณะใดคณะหนึ่ง ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือ บุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่มันเป็นของประชาชนทุกๆคน 
#เอาทางหลวงชนบทที่ภก4097คืนมา
#เอาหาดแหลมหงาคืนมา
#ทวงคืนทุกๆหาดให้สาธารณะ




นอกจากนี้ยังโพสต์ว่า "รอเวลา ยกระดับอีกครั้งและอีกครั้ง" พร้อมกับแชร์โพสต์เก่า เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ.2016 เป็นการลงคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความระบุว่า...

รั้วลวดหนามของนายทุนขาดสะบั้นแล้วเพราะพี่ทหารหาญจากกองทัพเรือภาค3เอาจริง!  ผลการเจรจา ที่ แหลมหงา เกาะสิเหร่ เบื้องต้นยอมเปิดถนนแล้วเพราะเป็นทางหลวงชนบทอันเป็นสมบัติของแผ่นดิน!" 

ภาพในคลิปเป็นภาพของเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม ภูเก็ต และ ทหาร เข้าไปตรวจสอบพื้นที่พิพาท การปิดถนนเข้าแหลมหงา เมื่อปี 2559 หรือ ค.ศ.2016 ซึ่งในภาพเป็นการนำราวเหล็กพร้อมลวดหนามมาปิดกั้นถนนทางเข้าชายหาด ซึ่งสามารถเดินไปถึงชายหาดได้ ยังไม่ปรากฎการนำสังกะสีมาล้อมเป็นรั้วปิดทางเข้าชายหาดเช่นในปัจจุบัน 



ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก "ชายหาดแหลมหงา" ได้มีการนัดหมาย รวมตัวประชาชนในพื้นที่เพื่อทวงคืนชายหาดแหลมหงา ในวันที่ 7 มี.ค. 67 ในเวลา 10.00 น.



ทั้งนี้มีรายงานว่า ทางผู้บริหารท้องถิ่นได้มีการชี้แจงว่า สาเหตุที่ต้องปิดเส้นทางเข้าสู่หาดแหลมหงาเมื่อปี 2021 เนื่องจาก เกิดปัญหาเรื่องความสกปรก เส้นทางที่เปลี่ยว ไม่มีไฟฟ้าในเส้นทาง จึงเสี่ยงทำให้เกิดเหตุอาชญากรรมและกลายเป็นแหล่งมั่วสุม 


มวลชนเริ่มปฏิบัติการทวงคืนหาดแหลมหงา 

จากนั้นในวันทีี 7 มี.ค. 67 ภายหลังจากที่เพจท้องถิ่นอย่างเพจเฟซบุ๊ก "แหลมหงาภูเก็ต" ได้มีการนัดหมายมวลชนเพื่อปฏิบัติการทวงคืนชายหาดแหลมหงา ในวันที่ 7 มี.ค. 67 เวลา 10.00 น. ในเวลา 09.00 น. นายนครินทร์ ยอแสงรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา พร้อมด้วยนายฐิติชัย เสียมเหล็ก ปลัดอำเภอเมืองภูเก็ต ได้นัดหมาย ผู้แทนจากบริษัท แหลมหงาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเจรจาหาข้อตกลงในการจัดการพื้นที่หาดแหลมหงา

และได้หาข้อสรุปเป็นข้อตกลงร่วมกัน ในการเปิดหาดแหลมหงา ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท แหลมหงาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และอนุญาตให้ประชาชนสามารถลงไปชายหาดได้ โดยเทศบาลตำบลรัษฎา จะต้องดำเนินการจัดการเกี่ยวกับขยะมูลฝอย เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย จะต้องประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความเรียบร้อย เป็นการป้องปรามเหตุอาชญากรรม ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ป้องกันปัญหาการมั่วสุมของเยาวชน และการมั่วสุมเสพยาเสพติด โดยขอเวลาดำเนินการ 15 วัน 


ขณะที่บริเวณหาดแหลมหงา ที่มีการปิดกันเส้นทางลงสู่ชายหาด ประชาชนจำนวนมากได้เดินทางมาตามที่นัดหมาย พร้อมแผ่นป้ายข้อความเรียกร้องให้เปิดทางลงหาด มีตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต มาดูแลความสงบเรียบร้อย และนายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน

โดยชาวบ้านได้ยื่นข้อเสนอ 7 ข้อ คือ

1. ขออย่าให้มีการปิดกั้นทางลงชายหาด
2. ให้เปิดเส้นทางภายในวันที่ 7 มีนาคม 2567
3. ปรับปรุงเส้นทางให้มีความสะอาด มีไฟฟ้าส่องสว่าง อำนวยความสะดวก
4. ตรวจสอบกรรมสิทธิที่ดิน และการได้มาของที่ดินดังกล่าว ว่ามีความชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
5. ให้เอาเหล็กกั้นทางออก
6. หากกรณีที่ดินเอกชนได้มาชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เปิดทางเข้าหาดเเหลมหงา เพื่อให้ประชาชนเข้ามาพักผ่อนได้
7. ขอให้เส้นทางหลวงชนบท ที่ ภก.4097 ขึ้นกับกระทรวงคมนาคมตามเดิม


อย่างไรก็ตาม ในช่วงการประชุมหาข้อยุติ นายนครินทร์ ยอแสงรัตน์ นายเทศมนตรีตำบลรัษฎา ได้แจ้งต่อตัวแทนชาวบ้านที่ร่วมประชุมว่า ทางเจ้าของพื้นที่ยินยอมที่จะเปิดทางเข้าให้ โดยขอระยะเวลาไม่เกิน 15 วัน แต่ระหว่างที่กำลังประชุมหารืออยู่นั้น ชาวบ้านได้มีการพังแผงสังกะสีที่กั้นทางออก และเข้าไปยังชายหาดในที่สุด ก่อนที่ประชาชน จะทยอยลงไปในหาดแหลมหงา เพื่อลงไปเล่นน้ำ พักผ่อน และรำลึกถึงบรรยากาศเก่าๆ โดยคาดว่าหลังจากนี้จะมีประชาชนชาวภูเก็ตให้ความสนใจมาเที่ยวหาดแหลมหงาอย่างต่อเนื่อง
สรุปปฏิบัติการทวงคืน "หาดแหลมหงา" โมเดลความสำเร็จทวงคืนสมบัติชาติ

โดยระหว่างที่ชาวบ้านชุมนุมที่บริเวณชายหาดแหลมหงา ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต (หลังใหม่) นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมรับฟังความคิดเห็นประชาชน ในการยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการเปิดหาดแหลมหงา โดยมีนายนครินทร์ ยอแสงรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา พร้อมด้วยนายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอำเภอเมืองภูเก็ต นายสุบัญชา อินทฤทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารเทศบาลตำบลรัษฎา ตัวแทนชาวบ้าน และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมฯ

โดยตัวแทนชาวบ้านได้มีการยื่นข้อเสนอให้บริษัท แหลมหงาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ดำเนินการรื้อเหล็กกั้นทางเข้า-ออก และเร่งดำเนินการเปิดหาดแหลมหงาอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าใช้พื้นที่หาดแหลมหงาได้ สืบเนื่องจากการลงพื้นที่รับฟังข้อคิดเห็นจากประชาชนบริเวณหาดแหลมหงา เพื่อนำข้อสรุปที่ได้ประชุมร่วมกันกับผู้แทนของบริษัทในช่วงเช้า มาแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่บริเวณดังกล่าวได้รับทราบ และพยายามเจรจาหาข้อสรุปให้เป็นกลางมากที่สุด โดยทางจังหวัดภูเก็ต ได้มอบให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดรับเรื่องร้องเรียนและมีคำสั่งให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ตัวแทนประชาชนมาเรียกร้องนี้ต่อไป


ซึ่งภายหลังจากที่ประชาชนสามารถเปิดรั้วปิดกั้นเส้นทางลงไปยังชายหาดแหลมหงา เพจท้องถิ่นต่างก็นำเสนอเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง พร้อมรณรงค์ให้ผู้ที่เดินทางมายังชายหาดแหลมหงา ช่วยกันรักษาความสะอาด อย่าทิ้งขยะจนเขามีข้ออ้างปิดหาดอีก


ขณะที่วันนี้ (8 มี.ค.67) ภายหลังมีการเปิดเส้นทางไปยังชายหาดแหลมหงา ฝ่ายท้องถิ่นอย่าง นายนครินทร์ ยอแสงรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา นำทีมผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ รวมถึงเจ้าหน้าที่กองช่าง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่หาดแหลมหงา เพื่อเป็นการรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อย และวางแผนดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความเรียบร้อย เป็นการป้องปรามเหตุอาชญากรรม ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ป้องกันปัญหาการมั่วสุมของเยาวชน และการมั่วสุมเสพยาเสพติด ร่วมกันวางระบบเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

รวมถึงยังเตรียมวางแผนในการปรับปรุงภูมิทัศน์ การบริหารจัดการเรื่องขยะมูลฝอย ไฟฟ้าแสงสว่าง ฯลฯ โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้ขออนุญาตเจ้าของพื้นที่ในการเข้าพื้นที่บริเวณหน้าหาดแหลมหงาแล้ว เพื่อจะได้เร่งดำเนินการในส่วนความรับผิดชอบของทางเทศบาลในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเข้าไป


ขณะที่นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือ ด่วนที่สุด ถึง 3 หน่วยงาน ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการปิดกั้นทางสาธารณะประโยชน์บริเวณหาดแหลมหงา โดย 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทภูเก็ต นายอำเภอเมืองภูเก็ต และ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต

สาระสำคัญ ในหนังสือระบุว่า ด้วยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ตได้รับเรื่องร้องทุกข์จากนายสมชาย หยีสัน ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่กรณีอ้างว่าผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินปิดกั้นทางสาธารณประโยชน์บริเวณหาดแหลมหงา หมู่ที่ 1 ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนและส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง


ขอบคุณข้อมูลและภาพ : ชมรมSTRONGต้านทุจริตประเทศไทย
แหลมหงาภูเก็ต
Phuket Smart News
เหยี่ยวข่าว ภูเก็ต Newshawk Phuket 
We Strong
Phuketandamannews
เหตุด่วนเหตุร้าย ร่วมด้วยช่วยกัน ภูเก็ต V.2