
ประเด็นร้อนสังคม กรณีดรามา "ฝรั่งเตะหมอ" "เดวิด" ชายชาวสวิตเซอร์แลนด์ ก่อเหตุเตะ "คุณหมอปาย" หรือ พญ.ธารดาว เนื่องจากไม่พอใจ ที่เข้าไปนั่งบริเวณ บันไดติดชายหาด หน้าวิลล่าหรู แหลมยามู กลายเป็น "เตะครั้งเดียว สะเทือนทั้งเกาะภูเก็ต" นำขยายไปสู่การตรวจสอบ ความไม่ชอบมาพากล และความไม่ถูกต้องตามกฎหมายในหลาย ๆ เรื่อง
โดยเฉพาะเรื่องปัญหาการใช้ประโยชน์ จากชายหาดทั่วทั้งภูเก็ต ที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของเรื่อง ก่อนจะพัฒนาไปเป็นปรากฏการณ์ "เดวิดสปริง" เป็นปฏิบัติการทวงคืนชายหาด กลับเป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์อย่างแท้จริงตามกฎหมาย
ซึ่งจากข้อมูลโดยเฉพาะจากภาคประชาชน ที่ได้ออกมาเปิดเผย ถึงชายหาดที่มีปัญหาการครอบครอง หรือถูกปิดกันเส้นทางเข้าสู่หาด และปัญหาข้อพิพาทอื่น ๆ พบว่า ในจังหวัดภูเก็ต ยังมีชายหาดอีกหลายแห่งที่มีปัญหา และยังไม่ได้รับการแก้ไข
Nation STORY จึงได้รวบรวมข้อมูลชายหาด ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีชายหาดแห่งใดบ้าง ที่มีปัญหาเหล่านี้ ปัจจุบันความคืบหน้าการตรวจสอบ ดำเนินการแก้ไขปัญหาไปถึงขั้นใดแล้วบ้าง ....
ชายหาดแหลมยามู
พิกัด ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จุดเกิดเหตุที่ "เดวิด" ชายชาวสวิตเซอร์แลนด์ เตะ "คุณหมอปาย" หรือ พญ.ธารดาว เนื่องจากไม่พอใจ ที่เข้าไปนั่งบริเวณ บันไดติดชายหาด หน้าวิลล่าหรู จุดนี้ภายหลังมีการตรวจสอบพบว่า บันไดที่เกิดเหตุนั้น มีการลุกล้ำพื้นที่สาธารณะ ได้มีการรื้อถอนออกไปแล้ว รวมถึงสิ่งก่อสร้างที่มีการรุกล้ำอื่น ๆ ด้วย
ขณะที่ในส่วนของที่ดินบริเวณ "แหลมยามู" พบเป็นที่ดิน นส.3 ก. ออกจาก สค.1 เป็น นส.3 (ครุฑดำ) เมื่อปี 2517 ออกให้ผู้แจ้งคือ นายส่ง บุญเสริม หลังจากนั้นเมื่อปี 2548 มีการรังวัดเพื่อตรวจสอบเนื้อที่ของ น.ส.3 และเปลี่ยนมาเป็น น.ส.3 ก.
ปัจจุบันเป็น น.ส.3 ก.เลขที่ 3411 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง เป็นของบริษัท ภูเก็ตเพนนินซูล่า เอสเตท จำกัด ณ วันที่ 6 ก.ค. 2548 จำนวนเนื้อที่ 106-0-19 ไร่ มีการแบ่งเช่าให้บริษัทสร้างวิลล่า โดยแปลงวิลล่าที่นายเดวิด เช่านั้น เป็นวิลล่าที่ 23 ไม่มีการจดทะเบียน อาจเป็นการเช่าแบบรายปี จากบริษัทเจ้าของวิลล่า
ส่วนการออกโฉนดที่ดินดังกล่าว อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากมีรายงานว่า เจ้าพนักงานที่ดินที่ออกโฉนดที่ดินดังกล่าว ได้ถูกไล่ออกราชการและ ยังพัวพันคดีออกเอกสารสิทธิที่ดินริมหาดมูลค่านับหมื่นล้าน
ล่าสุด (7 มี.ค. 67) นายอำเภอถลางได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต , ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ภูเก็ต , เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง , นายกเทศมนตรีตำบลป่าคลอก , ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 ตำบลป่าคลอก เชิญชวนเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยว กับการบุกรุกที่ชายหาดสาธารณะยามูมตลอดแนวชายหาดว่ายังมีบริเวณใดหรือสิ่งปลูกสร้างใดถูกรุกล้ำชายหาดสาธารณะหรือไม่ ในวันที่ 8 มี.ค. 67
แหลมหงา หาดน้ำใส
พิกัด ต.รัษฎา จ.ภูเก็ต จุดนี้ได้รับการเปิดเผยจาก เพจเฟซบุ๊ก ชมรมSTRONGต้านทุจริตประเทศไทย ถึงเรื่องราวปัญหา การเข้าออก "ชายหาดแหลมหงา" อ้างอิงข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก แหลมหงาภูเก็ต ว่า มีการปิดเส้นทางเข้าสู่ชายหาด ทางหลวงชนบท ภก4097 โดยเอกชนเจ้าของพื้นที่ และเป็นปัญหาสืบเนื่องมาตั้งแต่ปี 2545
เรื่องราวเกิดขึ้น หลังมีการร้องเรียนกรณี เอกชนสร้างรั้วลวดหนามปิดกั้นเส้นทางสาธารณะซอยแหลมหงาอนุสรณ์ และปักป้ายเตือน “ที่ดินและถนนส่วนบุคคล-ห้ามเข้า อันตราย!” ทำให้ชาวบ้านในชุมชนได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าว เพื่อเดินทางยังบริเวณชายหาดแหลมหงาได้
ต่อมาในปี พ.ศ.2554 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบ ทำให้มีการเปิดเส้นทางให้ประชาชนสามารถเข้าออกหาดแหลมหงาได้ แต่ต่อมาภายหลังพบว่า เส้นทางลงสู่ชายหาดแห่งนี้ถูกปิดอีกครั้ง
ภายหลังการเรียกร้องทางผู้บริหารท้องถิ่นได้มีการชี้แจงว่า สาเหตุที่ต้องปิดเส้นทางเข้าสู่หาดแหลมหงา เนื่องจาก เกิดปัญหาเรื่องความสกปรก เส้นทางที่เปลี่ยว ไม่มีไฟฟ้าในเส้นทาง จึงเสี่ยงทำให้เกิดเหตุอาชญากรรมและกลายเป็นแหล่งมั่วสุม
ล่าสุดวันนี้ (7 มี.ค.) ประชาชนในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ได้มีการตรวจตัวกัน เพื่อเรียกร้องให้มีการเปิดเส้นทาง เข้าสู่ชายหาดแหลมหงา โดยเอกชนเจ้าของพื้นอ้างว่า จะขอเวลา 15 วัน แต่ประชาชนที่มารวมตัวไม่ยอม และพังประตูที่ถูกปิดดังกล่าวลง
"หาดแหลมหงา" แห่งนี้ ถือเป็นหาดที่สวย น้ำใส มีต้นไม้ให้หลบแดด และใกล้ตัวเมือง จึงเป็นหาดที่ในอดีต คนในเมืองภูเก็ตนิยมไปพักผ่อนมาก ๆ หาดหนึ่ง เนื่องจากเดินทางสะดวก
หาดนุ้ย (ใต้ผาหินดำ ภูเก็ต)
พิกัด ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ชายหาดแห่งนี้มีปัญหาร้องเรียนเรื้อรัง มาอย่างยาวนานกว่า 5 ปี โดยเฉพาะประเด็นการตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดที่ดินดังกล่าว ที่ถูกศาลชั้นต้นเพิกถอน นส.3 ก. แล้ว แต่ผู้อ้างการถือครองกรรมสิทธิ์ ยังมีการเก็บค่าเข้าใช้บริการ 100 บาท ก่อนลงไปยังชายหาด
โดยเมื่อวันที่ 6 มี.ค.67 ทัพเรือภาคที่ 3 บูรณาการร่วมกับ กอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต, ศรชล.จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เจ้าของเป็นอดีตทหารเรือที่ออกจากราชการไปแล้ว ส่วนการเรียกเก็บเงินค่าเข้านั้น เป็นการเก็บเพื่อบำรุงรักษาสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้กับนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ทางเจ้าที่ได้มีการพูดคุย ถึงการใช้พื้นที่ชายหาดสาธารณะ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนทุกคน มีสิทธิ์เข้าถึง พร้อมขอให้ดำเนินการธุรกิจ ให้เป็นไปตามกฏหมาย และดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเป็นธรรม เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทย
ด้าน นายสิงหา (สงวนนามสกุล) ที่อ้างเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ ยืนยันว่า ไม่เคยแอบอ้างเป็นทหารเรือ ในการดำเนินการธุรกิจดังกล่าว และตนมีเอกสารสิทธิ์ครอบครองเนื้อที่กว่า 18 ไร่ 2 งาน 78 ตารางวา โดยก่อนหน้านี้ ที่ดินผืนนี้เป็น นส.3 ก. ของแม่บุญธรรม
แต่ต่อมาศาลเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออก เพราะมาโดย ส.ค.1 ที่ผิดแปลง แต่ศาลไม่ได้เพิกถอนสิทธิการครอบครอง มีการทำกินมาก่อน ที่จะมีการประกาศเป็นเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาค และยังเป็นเรื่องในศาลชั้นต้นเท่านั้น ขณะเดียวกันตนก็ยังเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองและศาลแพ่ง เกี่ยวกับการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติดังกล่าวด้วย
ชายหาดแหลมสิงห์
พิกัด ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ชายหาดแห่งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่มีการส่งข้อมูล ให้เพจเฟซบุ๊กที่เป็นสื่อท้องถิ่นตรวจสอบ โดยมีการระบุว่า ทำไมชาวบ้าน เข้าไปเที่ยว "หาดแหลมสิงห์" ไม่ได้ ทำไมมีการวางร่มชายหาด ได้แค่เจ้าเดียว พร้อมกับมีการโพสต์ภาพ "ชายหาดแหลมสิงห์" ที่มีการวางร่มบริเวณชายหาด
โดยเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 67 ตำรวจ สภ.กมลา พร้อมเจ้าหน้าที่ อบต.กมลา ลงพื้นที่ตรวจสอบ การลักลอบประกอบกิจการร่มเตียงบริเวณ "ชายหาดแหลมสิงห์" พบมีผู้ประกอบการ 1 ราย ลักลอบวางร่มเตียง บริการ นักท่องเที่ยวโดยคิดค่าบริการ รายละ 100 บาท
การตรวจสอบครั้งนี้ มีการสั่งให้รื้อร่มเตียงออกจากชายหาด เนื่อง "หาดแหลมสิงห์" เป็นชายหาดที่ถูกกำหนดให้เป็นชายหาดอนุรักษ์ พร้อมดำเนินการจับกุมตามกฎหมาย ในข้อหา "ประกอบกิจการร่มเตียงบนที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต"
ทั้งนี้ "หาดแหลมสิงห์" เป็นอีกหนึ่งชายหาดที่มีความสวยงามของจังหวัดภูเก็ต การเข้าถึงชายหาด นักท่องเที่ยวจะเดินทางด้วยการนั่งเรือเข้าไป
เกาะงำ
เกาะแห่งนี้แห่งนี้ ตกเป็นประเด็นข่าวเมื่อปี 64 เมื่อ "นายสิระ เจนจาคะ" ประธานกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน และ "นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์" ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ นำ นายอนัธชัย ล่องนาวา ประชาชนที่อาศัยอยู่บนเกาะงำ จังหวัดภูเก็ต พร้อมภรรยาและลูกชาย 3 คน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
กรณีที่ นายอรัธชัย ยื่นเรื่องร้องต่อกรรมาธิการเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2563 ว่า ถูกนายรังสิมันต์ โรม เมื่อครั้งเป็น ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ในปี 2562 พร้อมพวกลงพื้นที่เกาะงำข่มขู่ขับไล่ และบังคับให้เซ็นเอกสารเพื่อรื้อถอนที่พักอาศัยภายในระยะเวลา 2 เดือน
กรณีดังกล่าว นายรังสิมันต์ โรม ชี้แจงว่า ตนได้ลงพื้นที่เกาะงำ 2 ครั้งด้วยกัน คือช่วงเดือนมกราคม 2562 และ เดือนกันยายน 2562 ตอนที่ลงพื้นที่ครั้งแรก เป็นช่วงการหาเสียง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพารา ซึ่งอยู่ฝั่งของเกาะภูเก็ตว่า ชาวบ้านไม่สามารถข้ามไปยังเกาะดังกล่าวได้ เพราะเมื่อเดินทางไปแล้ว มีการใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า ข่มขู่ว่าจะทำร้าย
โดยชาวบ้านบ้านพารามีความกังวลว่า อาจจะมีกระบวนการให้นายทุน มายึดครองเกาะนี้เป็นเกาะส่วนตัว ยืนยันว่า ตนไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรเกี่ยวข้องกับที่ดินบนเกาะงำ และภายหลังจากที่ลงพื้นที่ครั้งนั้น ก็ยังไม่เคยได้ไปที่เกาะแห่งนั้นอีก
ภายหลัง นายรังสิมันต์ โรม ได้มีการยื่นฟ้องเอาผิด "ชัยยันต์-สิระ" เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท ปมกล่าวหาบุกรุกเกาะงำ ภูเก็ตดังกล่าว
หาดฟรีดอม
พิกัด ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต เรื่องราวเกิดปัญหาขึ้นเมื่อ โซเชียลมีการเผยแพร่ ผู้ประกอบการชายหาดบุกรุกครอบครองพื้นที่ เพื่อประกอบการค้าขาย เชิงพาณิชย์ และให้บริการร่มและเตียงผ้าใบ ตลอดแนวชายหาด สร้างความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย
"ชายหาดฟรีดอม" อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขานาคเกิด และยังมีการปัญหาการออกเอกสารสิทธิที่ดินอยู่ในศาลฎีกา โดยทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ รวมทั้งสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ภูเก็ต อยู่ระหว่างพิจารณาจัดทำโครงการพัฒนาพื้นที่เตรียมการป่านันทนาการ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาค จนเกิดเป็นหาดฟรีด้อม จำนวน 48 ไร่เศษ ในระหว่างปี 2566 - 2567
มีรายงานว่า การบุกรุก "หาดฟรีดอม" มีเจ้าหน้าที่บางส่วนเข้าไปร่วมเกี่ยวข้องพัวพัน มีการให้บรรดาญาติพี่น้อง เครือข่ายเข้ามาประกอบการ หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อน ในการใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิด โดยเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้รวบรวมเงิน จากกลุ่มผู้ประกอบการชายหาด เป็นยอดเงินสูงถึงประมาณ 200,000 - 300,000 บาทต่อเดือน เพื่อจ่ายให้แก่ผู้มีอำนาจ ขณะเดียวกันเทศบาลตำบลป่าตอง ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รับผิดชอบในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ กลับไม่มีการเคลื่อนไหว ทำตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง
สำหรับ "หาดฟรีดอม" ได้รับการจัดอันดับให้เป็นชายหาดที่มีความสวยงาม อันดับ 18 ของโลก และก่อนหน้านี้มีการประกาศให้ "หาดฟรีดอม" เป็นหาดอนุรักษ์ ห้ามมีร่ม เตียง และร้านค้า ตามคำสั่ง คสช.เ ป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยในวันที่ 12 ก.พ. 67 เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า มีการกางร่มและเตียงเต็มบริเวณชายหาดฟรีดอม พบผู้ประกอบการรับเป็นเจ้าของร้านค้า รวม 10 ราย ซึ่งทุกรายจะมีการเปิดร้านขายอาหาร และเครื่องแอลกอฮอล์ พร้อมบริการให้เช่าร่มและเก้าอี้เป็นชุด ตั้งแต่ชุดละ 200- 400 บาท
ทั้งหมดให้ข้อมูลตรงกันว่า มีการเริ่มนำร่มเตียงมาวาง และเช่าเมื่อประมาณเดือน ต.ค.2566 และมีการอ้างว่า ผู้เริ่มเป็นรายแรกเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้รายหนึ่ง แต่มีชายอีกคนเป็นผู้เก็บค่าเช่า หลังจากมีการสอบปากคำ และพูดคุยกับผู้ประกอบการทั้ง 10 คน ได้ขอความร่วมมือให้รื้อถอนร่ม และเก้าอี้ออกจากหน้าหาดภายในวันดังกล่าว
แหลมกาใหญ่
พิกัด ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต โดยหาดแหล่งนี้ เพจท้องถิ่นมีการนำเสนอว่า "หาดแหลมกา" มีการปิดทางลงหาดสาธารณะ โดยระบุว่า
แหลมกาใหญ่ ❌❌❌ ปิดทางลงหาดสาธารณะ
ทางลงหาดควรต้องมีทุกหาด ไว้ให้ลูกหลานในอนาคตได้ใช้เป็นที่พักผ่อนร่วมกัน..
และจากข้อมูลของคนในพื้นที่ ที่ได้แสดงความคิดเห็นระบุว่า "หาดแหลมกา" ถูกปิดมานานแล้ว พร้อมเรียกร้องให้มีการต่อสู้ เพื่อให้หาดแห่งนี้เปิดเป็นสาธารณะอีกครั้ง
หาดไตรตรัง
พิกัด ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ซึ่งนอกจากนี้ปัญหาที่พักเอกชน ก่อสร้างจนติดชายหาดแล้ว ไม่มีปัญหาเอกชนไม่เปิดให้ประชาชนในพื้นเดินผ่านพื้นที่ รวมถึงยังมีปัญหาการปล่อยน้ำเสีย ให้ไหลลงหาดไตรตรังอีกด้วย
นอกจากชายที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ปัญหาที่เกี่ยวกับชายหาดในจังหวัดภูเก็ตยังมีอีกมาก แม้กระทั่งชายหาดที่เปิดเป็นสาธารณะอย่าง หาดกะตะ หาดกะรน ฯลฯ ก็พบว่า มีปัญหาการติดตั้งร่มชายและเตียงผ้าใบชายหาดจนแน่น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย.....
ขอบคุณภาพและข้อมูล :
Phuket Hotnews
Phuket OK
Phuket Smart News
ศูนย์ข้อมูลภูเก็ต Phuket Info Center
We Strong
ขยะมรสุม ᴍᴏɴsᴏᴏɴɢᴀʀʙᴀɢᴇ ᴛʜᴀɪʟᴀɴᴅ
Phuket Times ภูเก็ตไทม์