
4 มีนาคม 2567 นายอดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งให้จังหวัดภูเก็ต ตรวจสอบมาเฟียต่างชาติในพื้นที่ ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งให้นายอำเภอทั้ง 3 อำเภอ และหน่วยงานด้านความมั่นคงตรวจสอบพฤติกรรมชาวต่างชาติว่า มีใครบ้างที่เข้าข่ายมาเฟีย หรือผู้มีอิทธิพลในการคุกคามข่มขู่ผู้ประกอบการ หรือมีการทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยให้เร่งดำเนินการและขึ้นบัญชีมา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
เรื่องนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองในการเพิกถอนวีซ่าชาวต่างชาติที่มีการกระทำผิดกฎหมาย โดยจะพิจารณาหลักเกณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการต่อวีซ่า หรือเพิกถอนวีซ่า ตลอดจนขึ้นบัญชีดำ เพื่อไม่ให้มีการกลับเข้ามาในประเทศไทยอีก ซึ่งเป็นกระบวนการทางกฎหมาย และต้องใช้เวลา
ส่วนกรณีนายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่ก่อเหตุเตะแพทย์หญิง นายอดุลย์ กล่าวว่า หากดูจากการนำเสนอของสื่อต่างๆ นั้น น่าจะเข้าข่ายมาเฟียได้ เพราะมีพฤติกรรมข่มขู่คุกคาม ทำให้ผู้อื่นเกิดความหวาดกลัว พร้อมกันนี้ได้ให้ตรวจสอบต่อด้วยว่ามีการทำผิดกฎหมายหรือไม่
รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงเรื่องวีซ่าของนายเดวิด ว่า ได้ตรวจสอบไปยัง ตม.ภูเก็ต ทราบว่าจะครบกำหนดในวันที่ 13 มีนาคม นี้ ซึ่งจะพิจารณาว่าจะต่อวีซ่าหรือไม่ ประเภทไหนอย่างไร ทั้งนี้ หากพิจารณาคดีเสร็จหลัง 13 มีนาคม จะต้องต่อวีซ่าเป็นผู้ต้องหาในคดี จนคดีถึงที่สุดจึงจะพิจารณาต่อวีซ่าประกอบอาชีพหรือไม่ ซึ่งคดีนี้จะเป็นคดีแรกในการตรวจสอบการถือครองวีซ่าของชาวต่างชาติ และเป็นคดีแรกที่ทางจังหวัดมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ
นายอดุลย์ กล่าวอีกว่า สำหรับบันไดทางลงวิลล่าที่เป็นประเด็น ขณะนี้เจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ออกคำสั่งให้มีการรื้อถอนบันไดหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีการรุกล้ำที่สาธารณะ ภายใน 30 วัน เมื่อครบกำหนดหากไม่มีการรื้อถอน เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะเข้าไปรื้อถอนเองและเรียกร้องค่าเสียหายในการดำเนินการได้ ส่วนหลักฐานการออกเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่ อย่างไร และถ้าที่มาของที่ดินไม่ถูกต้องจะมีการพิจารณาตามกระบวนการของหลักฐานในที่ดินต่อไป
จังหวัดยังคงยืนยันในการให้ความเป็นธรรม และยืนยันที่จะคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของคนไทย และที่สาธารณะสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน