svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ชวนรู้จักสารสุดอันตราย ต้นเหตุทำโรงงานพลุที่สุพรรณบุรี ระเบิดราบ

พาไปทำความรู้จัก "โพแทสเซียม คลอเรต" สารสุดอันตราย ต้นเหตุทำโรงงานพลุที่สุพรรณบุรี ระเบิดราบเป็นหน้ากลอง มันคือะไร ทำไมถึงได้มีความอันตรายมากขนาดนี้

เหตุ "โรงงานพลุระเบิด" ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 มกราคม 2567 นับเป็นเหตุสะเทือนขวัญครั้งใหญ่ ประเดิมต้นปี 2567 ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เบื้องต้นได้รับการยืนยันแล้ว 23 ราย จากคนในจุดเกิดเหตุประมาณ 30 คน และยังมีรายงานการพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 2 ราย ที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ สร้างความโศกเศร้า สะเทือนใจ ต่อญาติของผู้เสียชีวิต และผู้ที่ทราบข่าว
ชวนรู้จักสารสุดอันตราย ต้นเหตุทำโรงงานพลุที่สุพรรณบุรี ระเบิดราบ

นอกจากคำถามว่า ทำไมจึงยังปล่อยให้เกิดเหตุสลดซ้ำซากแล้ว สิ่งที่ทำให้ผู้คนในสังคมต้องตกใจคือ  "สภาพของสถานที่เกิดเหตุ" ซึ่งเดิมเป็นโรงงานผลิตพลุ แต่หลังเกิดเหตุระเบิด ได้ราบเป็นหน้ากลอง ไม่เหลือสิ่งใด หรือร่องรอยการเคยเป็นโรงงาน ประหนึ่งถูกระเบิดขนาดใหญ่ หรือขีปนาวุธยิงถล่มก็ไม่ปาน คำถามตัวโต ๆ คือ อะไรถึงทำให้เป็นแบบนี้ไปได้?
สภาพโรงงานพลุก่อนและหลังเกิดเหตุุ ภาพจาก สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติประเทศไทย
 

ข้อมูลโดย พล.ร.ต.ธนิตพงศ์ สิริเศวตศักดิ์ โฆษกกระทรวงกลาโหม หนึ่งในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางกฎหมาย ในการเปิดโรงงานผลิตพลุและดอกไม้ไฟ  ระบุว่า โรงงานแห่งนี้เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีบุคคลขอใบอนุญาตในการทำ หรือ ค้าซึ่งดอกไม้เพลิง ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ จากกรมการปกครอง และยังได้รับใบอนุญาตให้มีซึ่งยุทธภัณฑ์ "โพแทสเซียม คลอเรต (POTASSIUM CHLORATE)" จากกระทรวงกลาโหม ตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 จำนวน 3,000 กิโลกรัม รายละเอียดตามใบอนุญาตเลขที่ 660504621 ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 หมดอายุ 23 กรกฎาคม 2567 เพื่อใช้ในการทำดอกไม้เพลิง และมีสถานที่เก็บ ณ คลังเก็บ หมู่ที่ 3 ต.ศาลาขาว

นอกจากนี้ ประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง การกำหนดยุทธภัณฑ์ ที่ต้องขออนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 แก้ไขปี 2564 ยังกำหนดให้ "โพแทสเซียม คลอเรต (POTASSIUM CHLORATE)" หรือ "ดินประสิว" เป็นยุทธภัณฑ์ควบคุม เนื่องจากเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการระเบิดได้ ซึ่งรวมถึง "โพแทสเซียม เพอร์คลอเรต (POTASSIUM PERCHLORATE)" อีกด้วย 

ทำให้ "โพแทสเซียม คลอเรต (POTASSIUM CHLORATE) " และ "โพแทสเซียม เพอร์คลอเรต (POTASSIUM PERCHLORATE)" จึงถือเป็นสารอันตราย และจัดเป็นยุทธภัณฑ์ควบคุม 
ชวนรู้จักสารสุดอันตราย ต้นเหตุทำโรงงานพลุที่สุพรรณบุรี ระเบิดราบ

ซึ่งในการทำพลุหรือดอกไม้ไฟ ที่มีส่วนประกอบหลักเป็น "โพแทสเซียม คลอเรต (POTASSIUM CHLORATE)" หรือ "ดินประสิว"  , ดินกลาง , ดินปืน , กำมะถัน ดังนั้น จึงเปรียบเสมือนการทำระเบิด และยิ่งมีปริมาณมาก ก็เหมือนมีระเบิดลูกโต ๆ นั่นเอง 
ชวนรู้จักสารสุดอันตราย ต้นเหตุทำโรงงานพลุที่สุพรรณบุรี ระเบิดราบ  

รู้จัก "โพแทสเซียม คลอเรต (POTASSIUM CHLORATE)" พลาดมีตูมตาม 

โพแทสเซียมไนเตรต (อังกฤษ: potassium nitrate) เป็นสารประกอบที่มีสูตรเคมีเป็น KNO 3 มีจำนวนอะตอมอยู่ 5 อะตอม เป็นดินที่เป็นกรดเกิดจากมูลของค้างคาว โดยการที่นำเอามูลค้างคาวมาต้มเคี่ยว แล้วทิ้งไว้ให้เย็น จะมีเกล็ดสีขาวเกาะอยู่ เรียกว่า “ดินประสิวขาว” ส่วนดินประสิวตามร้านสมุนไพรทั่ว ๆ ไปนั้นจะมีจุดสีเหลือง ๆ สีดำ ๆ แสดงว่า ทำยังไม่สะอาดดี การกลั่นกรองยังใช้ไม่ดี

รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เคยให้ข้อมูลไว้ว่า เหตุการณ์โรงงานหรือโกดังพลุระเบิดนั้น มีสาเหตุหลัก ๆ ก็คือ ตัวดินประสิว หรือ โพแทสเซียมไนเตรต ที่ใช้ทำตัวจุดระเบิดของพลุ ที่มีการสต๊อกไว้ค่อนข้างเยอะ

นอกจากนี้ยังมีสารที่ให้สี กลุ่มอื่นๆด้วย ที่นำมาผสม เพื่อทำเป็นพลุ โดยสารเคมีแต่ละชนิดจะให้สีสันต่าง ๆ กัน เช่น สตรอนเชียมคาร์บอเนต (SrCO3) ให้สีแดง ลิเทียมคาร์บอเนต (Li2CO3) ให้สีแดง แบเรียมคลอเรต (BaClO3) ให้สีเขียว คอปเปอร์ซัลเฟต (CuSO4) ให้สีฟ้า แคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) ให้สีเหลือง โซเดียมออกซาเลต (Na2C2O4) ให้สีเหลือง และแคลเซียมคลอไรด์ (CaCl2) ให้สีส้ม

ซึ่งสารเหล่านี้มีความไวไฟมาก โดยเฉพาะ โพแทสเซียมไนเตรต ที่ถือว่าเป็นวัตถุอันตรายที่ ใช้ในการทำวัตถุระเบิด ซึ่งหลักการของโรงงานทำพลุดอกไม้ไฟ หรือโรงงานที่ทำสารที่มีการระเบิดได้ จะต้องอยู่ห่างไกลแหล่งชุมชน 
ชวนรู้จักสารสุดอันตราย ต้นเหตุทำโรงงานพลุที่สุพรรณบุรี ระเบิดราบ  

ขณะที่ ผศ.ดร.วิภู ศรีสืบสาย คณบดีวิทยาลัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมวัสดุสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ให้ข้อมูลว่า “เมื่อโปแตสเซียมไนเตรต และโปแตสเซียมคลอเรต” เป็นวัตถุดิบส่วนประกอบสารตั้งต้น นำมาผสมกับกำมะถัน และสารเคมีใช้เป็นตัวให้เกิดพลุมีประกายไฟสี “อันมีมากในภาคเหนือ” ทำให้ผู้ประกอบการหลายคนต่างพากันมาตั้งโรงงานผลิตพลุกระจุกอยู่พื้นที่นี้ เพื่อความสะดวกง่ายต่อการจัดหาวัตถุดิบ

ซึ่งหากเปรียบเทียบกับ “โรงงานผลิตพลุในต่างประเทศ” ที่ค่อนข้างดำเนินกิจการเป็นมาตรฐาน “เน้นความปลอดภัย” โดยเฉพาะการป้องกัน ไฟไหม้ที่มีการติดตั้งเครื่องมือที่ช่วยป้องกัน ทั้งเครื่องดับเพลิง หัวกระจายน้ำ และระบบตรวจจับอัคคีภัยอัตโนมัติ รวมถึงยังมีการตรวจสอบระบบไฟฟ้า และบำรุงรักษาตามมาตรฐานอยู่ตลอด
ชวนรู้จักสารสุดอันตราย ต้นเหตุทำโรงงานพลุที่สุพรรณบุรี ระเบิดราบ  

หากพบข้อบกพร่องจะทำการแก้ไขทันที เพราะไม่อย่างนั้นระบบไฟฟ้าปล่อยให้เสียหายอาจเป็นตัวการก่อไฟไหม้ขึ้นได้ แล้วยิ่งกว่านั้น “ภายในโรงงาน” ถูกออกแบบแบ่งโซนชัดเจน เช่น ห้องผสมสารเคมีที่แยกออกจากห้องการประกอบพลุ ห้องบรรจุหีบห่อ และห้องจัดเก็บพลุ เพื่อจำกัดพื้นที่กรณีเกิดไฟไหม้ไม่ให้ลุกลามไปห้องอื่นได้

แตกต่างจาก “โรงงานผลิตพลุในไทย” กระบวนการผลิตค่อนข้างกระจัดกระจาย “ทุกขั้นตอนการผลิตถูกนำมาทำรวมกันภายในห้องเดียว” เมื่อเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้มักก่อให้เกิดความเสียหายทั้งโรงงาน โดยเมื่อ“สารเคมีประกอบพลุ–ดอกไม้ไฟ” ติดไฟง่ายสามารถก่อให้เกิดการระเบิดอานุภาพทำลายล้างสูง 
ชวนรู้จักสารสุดอันตราย ต้นเหตุทำโรงงานพลุที่สุพรรณบุรี ระเบิดราบ


ข้อมูลจาก : ประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง การกำหนดยุทธภัณฑ์ ที่ต้องขออนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 แก้ไขปี 2564
คมชัดลึก
ไทยรัฐออนไลน์